วันที่ 12 เมษายน 2565 จากกรณีวงจรปิดจับภาพชายสวมเสื้อลายสีดำพร้อมใส่โหม่งสีดำใช้อาวุธปืนและสะพายกระเป๋าข้างบุกเข้าร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งในวินาทีกล้องวงจรปิดจับภาพโจรรายดังกล่าวได้ โดยเข้าไปใช้อาวุธปืนข่มขู่พนักงาน และได้กวาดทองทั้งถาดในร้านไปจำนวนกว่า 153 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ก่อนวิ่งหลบหนีโดยใช้จักรยานยนต์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานภาค 3 ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุโดยได้หลักฐานใหม่เป็นกล้องวงจรปิดตอนช่วงทางด้านหน้าของห้างโดยพบว่าโจรเตรียมการมาดีปล้นเสร็จได้วิ่งหนีออกทางด้านหน้าประตูห้าง พร้อมขับรถมอเตอร์ไซด์หลบหนีเป็นรุ่นยามาฮ่าฟีโน่สีส้ม-ขาว-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ทั้งนี้ยังพบขวดเครื่องดื่มชูกำลังใกล้กับจุดที่จอดมอเตอร์ไซด์ของคนร้าย โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบเปรียบเทียบลายนิ้วมือ ว่าเป็นใครก่อนจะออกไล่ล่าโจรรายนี้
โดยนางสาวพรพรรณ สาริยา อายุ 21 ปี คนขายขนมปังผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตอนนั้นตนกำลังเดินกลับมาที่ร้านระหว่างนั้นเองก็เห็นคนชุลมุนวิ่งหนีออกมาจากร้านทอง ตนตกใจอย่างมากในแรกคิดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ระหว่างนั้นเองเห็นคนร้ายวิ่งออกไปตรงประตูหน้าหน้าห้าง ตอนนั้นเห็นพี่ที่ร้านทองวิ่งออกไปตามจนโจรตะโกนมาว่าถ้าวิ่งตามมา กูจะเอาปืนยิง จนพี่ร้านทองหยุดชะงักแล้วโจรก็หลบหนีไปได้ ตนยอมรับว่าตกใจอย่างมากเพราะคนร้ายมีอาวุธปืนกลัวว่าจะก่อเหตุยิงซ้ำรอยเดิมกับที่ชิงทองที่จังหวัดลพบุรี ที่เคยเป็นข่าวดังมาแล้วก่อนหน้านี้
ภาพ/อภิรักษ์ ศรีอัศวิน
ข่าว/ประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดนครราชสีมา
