“ชัยวัฒน์” ยื่นศาลปกครองเพชรบุรี ฟ้องขอเพิกถอนคำสั่งปลดมิชอบ

อดีตผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่9 ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ยื่นฟ้องกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 และคณะกรรมการป้องกันและปราบรามการทุจริตรในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 ต่อศาลปกครองเพชรบุรี วันนี้ (21 มี.ค.2565) โดยมีประเด็นดังนี้

1.ขอให้ศาลปกครอง มีคำพิพากษาหรือคำสั่งให้เพิกถอนมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ที่มีมติปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการ

2.และให้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีคำสั่งปลดผู้ฟ้องคดีออกจากราชการตามมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ

3.ขอให้ศาลปกครองเพชรบุรี มีคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีกลับเข้ารับราชการในตำแหน่งเดิมหรือเทียบเท่าตำแหน่งเดิมต่อไป

เนื่องด้วยตามที่ผู้ถูกฟ้องคดีได้มีคำสั่งปลดผู้ฟ้องคดี ออกจากราชการผู้ฟ้องคดีจึงได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมภายใน 30 วันนับแต่ได้รับทราบคำสั่งซึ่งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมมีอำนาจพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 120 วันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์และขยายระยะเวลาได้ไม่เกินสองครั้งแต่ละครั้งไม่เกิน 60 วันรวมการพิจารณา และวินิจฉัยอุทธรณ์ไม่เกิน 240 วันตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนพุทธศักราช 2551 มาตรา 118 ซึ่ง คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมจะต้องวินิจฉัยและมีคำสั่งให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 2 มกราคม 2565 แต่จนบัดนี้ระยะเวลาในการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม ได้สิ้นสุดลงและล่วงเลยกำหนดมานานถึง 75 วัน คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมก็ยังไม่ได้มีคำวินิจฉัยแต่อย่างใด

ต่อมาผู้ฟ้องคดีได้ให้ทนายความมีหนังสือสอบถามถึงผลการพิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมได้มีหนังสือตอบกลับมาว่าเรื่องดังกล่าวยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาดำเนินการโดยมีหนังสือแจ้งไปยังเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเพื่อขอรายงานการสอบสวน สำนวนการสอบสวน และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม

ผู้ฟ้องคดีจึงเห็นว่าหากคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมไม่ได้มีคำวินิจฉัยภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ย่อมเป็นการ ดำเนินกระบวนการพิจารณาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเสมือนเป็นการประวิงระยะเวลาการพิจารณาออกไปโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจ กระทำได้ ย่อมเป็นที่เสียหายต่อผู้ฟ้องคดีที่จะมีโอกาสกลับเข้ารับราชการโดยผู้ฟ้องคดีเหลือระยะเวลาที่อาจรับราชการได้เพียงแค่ ไม่เกิน 2 ปีเท่านั้น ผู้ฟ้องคดีจึงจำเป็นต้องนำคดีมาฟ้องร้องต่อศาลปกครองเพชรบุรีเพื่อขอบารมีศาลเป็นที่พึ่งต่อไป

สุรพล นาคนคร ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.เพชรบุรี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“สมชัย” ไม่เห็นด้วยกต.ประท้วงกัมพูชา ชี้คลิปเสียงเรื่องส่วนตัว แนะ “นายกฯอิ๊งค์” ควรโทรไปต่อว่าเอาคืน
"นายกฯ" เจอหน้าคุย "แม่ทัพภาคที่ 2" มั่นใจไม่มีปัญหา พร้อมหนุนกองทัพป้องอธิปไตยเต็มที่
กัมพูชาวอนนักธุรกิจไทยในเขมรค้าขายตามปกติ
“มูลนิธิยังมีเรา” จับมือ “มูลนิธิหัวใจบริสุทธิ์” สานฝันเด็กสายอาชีพ มอบทุนการศึกษาต่อยอดทักษะแรงงานเพื่ออนาคตที่ดีกว่าเดิม
"บิ๊กป้อม" แถลงยืนยันพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล เรียกร้อง "แพทองธาร" ลาออกนายกฯ
"นายกฯ" เจอหน้า "แม่ทัพภาคที่ 2" แล้ว ถึงบ่นอุบไมค์สื่อโดนหัว
เขียวเข้ม ! แพลงก์ตอนบลูมทะเลหาด วงศ์อมาตย์ เปลี่ยนสีเขียวเข้ม เริ่มส่งกลิ่นคล้ายกำมะถัน
"นายกฯ" มอบสิ่งของให้ทหารชายแดน อุบลราชธานี พบปะให้กำลังใจ พลทหารกองกำลังสุรนารี ขอบคุณปกป้องรักษาอธิปไตยไทย
นักวิชาการเขมรชี้กัมพูชาเสี่ยงสูญเสียอธิปไตย
“ฮุน เซน” ทวงบุญคุณ! ปล่อยภาพลับ พา “อุ๊งอิ๊ง-สามี” ชมห้องพัก “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” ครั้งหนีคดีลี้ภัย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น