อภิชัยทิ้งประชาธิปัตย์ซบพลังประชารัฐ จับตาอนาคตรุ่งหรือร่วง

ไขก็อกจากประชาธิปัตย์ซบพลังประชารัฐ หนีพรรคเก่าซบพรรคใหม่ขอลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรี ประวิตรประเคนเก้าอี้ประธานกทม.คุมส.ส.ดูแลส.ก. ชิมลางวัดฝีมือเลือกตั้งส.ก. 22 พ.ค.นี้ เป็นนักธุรกิจหลายกิจการทรัพย์สินหลายพันล้าน เข้าการเมืองยุคมาร์คเป็นกระเป๋าเงินพรรคสีฟ้ายุคจุรินทร์ เคยมีชื่ออยู่ร่วมก๊วนล้มนายกฯ ธรรมนัสเคยทาบนั่งเลขาฯเศรษฐกิจไทย แต่ชิ่งมาซุกปีกประวิตรแทน

ปรากฎการณ์ส.ส.ไหลเข้า-ย้ายออกพรรคการเมือง ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาทางการเมือง แต่สำหรับกรณีของ “เสี่ยโต” อภิชัย​ เตชะอุบล​ ส.ส.บัญชีรายชื่อ​ พรรคประชาธิปัตย์ ที่ล่าสุดวันนี้ (17 มี.ค.2565 ) เจ้าตัวได้เดินทางไปยื่นหนังสือลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ ณ สำนักคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยพ้นสภาพจากการเป็น ส.ส.ทันที ท่ามกลางกระแสข่าวช่วงเย็นวันนี้จะไปเปิดตัวกับพรรคพลังประชารัฐ และจะมีการแนะนำตัวอภิชัยต่อที่ประชุมว่าที่ผู้สมัคร ส.ก.ของพรรคพลังประชารัฐทันที โดย “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ วางตัวอภิชัยเข้ามาเป็นประธานเมืองหลวงผู้ดูแลพื้นที่กทม.แทนที่ “ผู้กองแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตเลขาธิการพรรคที่ถูกขับออกไป โดยเตรียมให้ประเดิมผลงานในการเลือกตั้งส.ก.กทม. 22 พ.ค.นี้ เพื่อวัดฝีไม้ลายมือ

แปลกประหลาดแต่จริง ที่คนระดับอภิชัยซึ่งอดีตเคยเป็นถุงเงินเป็นเหรัญญิกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นส.ส.ระบบบัญชีรายชื่ออันดับ 18 ของพรรค จึงประกาศไขก็อกลาออกจากพรรคเก่าแก่สายสีฟ้า ทั้งๆที่เป็นถึงระดับแกนนำกรรมการบริหารพรรค ย้อนอดีตกลับไปดูเส้นทางการเมืองของอภิชัย ร่วมงานกับพรรคประชาธิปัตย์ยุคอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ระหว่างปี 2552 – 2554 มีชื่อลงสมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคครั้งแรกเมื่อปี 2554 ลำดับที่ 64 แต่วาสนายังไม่ถึง ก่อนเลือกตั้งรอบที่แล้วปี 2562 ลงสมัครในส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออีก แต่กระโดดข้ามหัวผู้ใหญ่ ส.ส.เก๋าๆในพรรคมาอยู่ในลำดับที่ 18 ได้เป็นส.ส.สมัยแรก ได้รับมอบหมายให้เป็นเหรัญญิกพรรค ก่อนที่ มี.ค.2563 จะยื่นใยลาออกจากกระเป๋าเงินพรรคแต่ยังเป็นส.ส.อยู่

อภิชัยมีชื่อเสียงในฐานะนักธุรกิจหนุ่มมีธุรกิจในมือมากมาย แจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ล่าสุด หลังเป็นส.ส.มีทรัพย์สิน 3,593,168,031 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 1,544,368,296 บาท ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อ 20 ม.ค.2565 พบว่าอภิชัยนั่งเป็นกรรมการบริษัท 28 แห่ง ยังดำเนินกิจการอยู่ 21 แห่ง ประกอบด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม ธุรกรรมทางการเงิน ขายส่ง ขายปลีก ร้านอาหาร โดย 2 บริษัทหลักของอภิชัยที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ คือ 1.บ.เจซีเค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JCK ทำธุรกิจโรงงานสำเร็จรูปหรือแวร์เฮาส์ในนิคมอุตสาหกรรม และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กับ 2. บ. เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JCKH ทำธุรกิจอาหาร เจ้าของแบรนด์ฮอทพอท ไดโดมอน ร้านอาหารจีน Zheng Dou ร้านอาหารอิตาเลียน Signor Sassi ฯลฯ โดยทั้ง 2 บ. เสี่ยโตเป็นประธานกรรมการและผู้ถือหุ้นสูงสุด

ความจริงอนาคตทางการเมืองของอภิชัยน่าจะรุ่งและไปไกลกว่านี้ได้มาก เพราะมีครบทั้งเงิน สมอง คอนเนกชั่น แต่เพราะก้าวพลาดเดินผิดจังหวะไม่ดี เขาพรรคประชาธิปัตย์มาในยุคอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ แต่มาลืมตาอ้าปากได้เป็นส.ส.สมัยแรกตอนยุค “อู๊ดด้า” จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ เป็นหัวหน้าพรรค อภิชัยเลยถูกมองว่าเป็นเด็กมาร์ค พอการเมืองในพรรคพระแม่ธรณีบีบมวยผมเปลี่ยนขั้วสลับข้าง อภิชัยก็เลยเคว้งคว้างเดินหน้าก็ยากถอยหลังก็ลำบาก ไม่มีแบ็กไม่มีใครหนุนหลัง ส.ส.ที่เป็นพรรคพวกก๊วนก็ไม่มี เคยมีลุ้นเบียดตำแหน่งแม่บ้านพรรคกับ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เจ้าพ่อสามอ่าว แต่ก็แพ้หลุดลุ่ยเพราะไม่มีใครหนุน คราวนี้ยิ่งหนักหน้าเริ่มอยู่ยากในพรรค แถมเงินก็ต้องจ่ายป้ายรัฐมนตรีก็ไม่มี เพราะในพรรคสีฟ้าอย่างที่รู้คิวรัฐมนตรียาวเป็นห่างว่าว ขนาดเป็นส.ส.หลายสมัยถ้าเส้นไม่ถึงเข้าไม่ถูกทางจริง ไม่มีทางได้ขึ้นชั้น ที่สุดเสี่ยโตเลยขอลาออกจากตำแหน่งกระเป๋าตังค์พรรค

จังหวะเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีข่าวร.อ.ธรรมนัสเริ่มก่อหวอด คิดการใหญ่ลบเหลี่ยมเจาะยาง “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯพอดิบพอดี ช่วงนั้นผู้กองแป้งเดินสายในสภาหาแนวร่วมจากส.ส.ทุกพรรคหวังคว่ำบิ๊กตู่คาสภาระหว่างศึกซักฟอก 31ส.ค.- 4 ก.ย.2564 ชื่อของอภิชัยก็มีเอี่ยวว่าอยู่ในก๊วนรับกล้วยเหมือนกัน แถมหนักกว่านั้นคือการงดออกเสียงไว้วางใจหัวหน้าพรรคตัวเองอย่างจุรินทร์ ที่สุดเลยกลายเป็นฟางเส้นสุดท้ายให้อภิชัยแตกหักจากพรรคประชาธิปัตย์ทันที ถัดมาเมื่อมีข่าวว่าร.อ.ธรรมนัสเตรียมย้ายซบพรรคเศรษฐกิจไทย ช่วงแรกที่มีข่าวว่าผู้กองแป้งวางตัวพี่รักอย่าง “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มาเป็นหัวหน้าพรรค ก็ปรากฏชื่ออภิชัยนี้แหละจะมาเป็นเลขาธิการพรรคให้ แต่ไปๆมาไม่รู้อีท่าไหนคุยกันยังไง อภิชัยดันทิ้งผู้กองแป้งแกงบิ๊กน้อยสลับขั้วมาขึ้นกับพล.อ.ประวิตรแทน ข่าวว่าเสี่ยโตไม่อยากแบกภาระเป็นหัวจ่ายอีก เลยหนีมาพึ่งใบบุญลุงป้อมและถูกวางตัวให้เป็นประธานกทม.ดูแลส.ส.พลังประชารัฐ 12 คน ว่าที่ส.ก.อีก 50 เขต ทำไปทำมาเสี่ยโตจะกลายเป็นหนีเสือปะจระเข้ ไอ้ที่คิดว่าหนีผู้กองมาอยู่พรรคพลังประชารัฐแล้วไม่ต้องจ่าย เผลอๆอาจต้องจ่ายหนักกว่าอีก ส่วนที่หวังว่าย้ายพรรคเที่ยวนี้อาจมีลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรีบอกเลยยาก คดีเก่ายังถูกหมายหัวว่าอยู่ขั้วร.อ.ธรรมนัสจ้องล้มนายกฯ มาอยู่พรรคใหม่ก็เป็นได้แค่หางแถวป่ารอยต่อ แถมไม่ใช่สายตรงไทยคู่ฟ้า บอกเลยลุ้นเก้าอี้รัฐมนตรียาก อย่าลืมว่าพล.อ.ประยุทธ์เป็นคนจำแม่นแค้นนาน เสี่ยโตย้ายซบพรรคพลังประชารัฐซุกปีกลุงป้อมยังไม่แน่ว่าจะรุ่งหรือร่วง แต่ดูทรงจากเส้นทางการเมืองก่อนหน้านี้ ก้าวผิดเดินพลาดคร่อมจังหวะพาลไม่สมหวังอยู่บ่อยครั้ง รอบนี้ก็ต้องลุ้นหนักว่าจะแจ้งเกิดได้ไหมหรือผิดหวังซ้ำรอยเดิม
//////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“อยุธยาเดินหน้ายกระดับท่องเที่ยวจังหวัด สู่เป้าหมายการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน”
ชายแดนเดือด "ทหารกัมพูชา" ปลุกชาวเขมรรุกฮือ รื้อลวดหนามกั้นบ้านหนองจาน "ทหารไทย" เข้าสกัดคุมเข้ม
ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง เข้มดูแลความปลอดภัยศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025
อิสราเอลโจมตีโรงพยาบาลกาซาปลิดชีพนักข่าว 4 สำนัก
ผู้นำเวียดนามเรียกประชุมฉุกเฉินรับมือไต้ฝุ่นคาจิกิ
"แม่ทัพภาค 2" ชี้หากพบทหารกัมพูชา รุกล้ำ-แอบวางทุ่นระเบิด พร้อมใช้กำลังพลตอบโต้ เชื่อประชุม RBC 27 ส.ค.นี้ ราบรื่นดี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​