“หมอระวี” แนะคดี”โฮปเวลล์” ภาครัฐต้องนำไปถอดบทเรียน

"หมอระวี" ชี้คดี "โฮปเวลล์" ถือเป็นผลงานสภาฯร่วมกัน ช่วยชาติไม่เสียค่าโง่ ชี้ภาครัฐต้องนำไปถอดบทเรียน

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวถึงกรณีศาลปกครองมีคำสั่งรื้อการพิจารณาคดีโฮปเวลล์ใหม่ว่า ตั้งแต่ตนเองเข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯ ก็พยายามเสนอมุ่งเน้นแก้ปัญหาเกี่ยวกับค่าโง่หลายๆ เรื่อง ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือเรื่องโฮปเวลล์ ที่ตนได้อภิปรายเสนอความคิดเห็นในที่ประชุมสภาฯ วาระการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษาเรื่อง การปฏิบัติตามกฎหมายของโครงการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานคร และการใช้ประโยชน์ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (โฮปเวลล์) ที่คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาฯ ได้นำไปพิจารณาศึกษา ซึ่งเรื่องนี้มีสมาชิกจำนวนมากให้ความสนใจในการพิทักษ์ผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติและประชาชนคนไทย ถือเป็นความภาคภูมิใจ และเป็นผลงานที่สะท้อนการทำหน้าที่ของสภาฯ และทางรัฐบาลก็ได้รับฟังข้อเสนอแนะดังกล่าวด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

“หลังจากนี้ต้องก็กลับมาพิจารณาคดีนี้กันใหม่ ซึ่งผมเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า มีแนวโน้มว่า 80 -90% เราจะไม่เสียค่าโง่ วันนี้จึงถือว่าเป็นข่าวดีให้กับคนไทยทั้งประเทศ แต่ผมก็อยากจะเตือนภาครัฐให้คดีนี้เป็นบทเรียนค่าโง่ของรัฐ และอย่าให้เกิดขึ้นอีก เพราะเงินที่รัฐจะต้องเสียเป็นค่าโง่คือเงินภาษีของประชาชนคนไทยทุกคน บทเรียนค่าโง่ของรัฐที่เกิดขึ้นซ้ำซาก ต้นทางก็มาจากการทุจริตแบบ 3 ประสาน ที่สมรู้ร่วมคิดกันระหว่างรัฐ เอกชน แล้วก็ข้าราชการ สุดท้ายหากโครงการไปไม่รอด คนที่เสียประโยชน์ที่สุดคือประชาชน” นพ.ระวี กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ครบรอบ 1 ปี ร่วมพิธีวางดอกไม้รำลึก 23 ครูและนักเรียนเหยื่อรถบัสมรณะ
“หมอวรงค์” ค้านแนวคิดทำประชามติ ยกเลิก MOU หรือไม่ ห่วงปชช.ยังเข้าใจน้อย กลายเป็นก่อปัญหาใหม่
"โฆษกรบ." ยัน ผู้ใช้บัตรคนจน ได้สิทธิ์ตามเดิม เผยเตรียม Top Up ให้ 2 ครั้ง รวม 1,700 บาท
สธ. ส่งทีมเยียวยาจิตใจชาวบ้าน อ.น้ำยืน หลังสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด
ผู้ว่าฯ พิจิตร ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ต.ห้วยพุก อ.ดงเจริญ
"นายก​ฯอนุทิน" เข้าทำเนียบฯ ตั้งฉัตรทอง 7 ชั้น ครอบ "องค์นรสิงห์จำลอง" บนตึกไทยคู่ฟ้า เสริมสิริมงคล 

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​