No data was found

“สว.สมชาย”วอนเลิกด่าประเทศ มาร่วมแก้ปัญหาโควิด

กดติดตาม TOP NEWS

สว.สมชาย ขอคนไทยมีทัศนคติบวก ร่วมแก้ปัญหา ดีกว่าดรามาด่าประเทศตัวเอง แต่แอบแซงคิวฉีดวัคซีน หยุดพฤติกรรมเรือไม่พายเลิกเอาเท้าราน้ำเสียที

วันที่ 5 มิ.ย. –นาย สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า มีคนส่งข้อความมาถามว่า เป็นความจริงตามที่กล่าวหาให้ร้ายมั้ย ตนขอตอบว่าจริง หากคิดแบบพวกล้มเจ้าและใช้ตรรกะอคติดลบด้านเดียว แต่ข้อเท็จจริงคือ

1.รัฐจัดสรรงบประมาณอุดหนุน เอกชนและหน่วยงานต่างๆที่มีโครงการร่วมผลิตวัคซีนกว่า 1,000 ล้านบาท กระจายให้บริษัทใบยา ของเภสัชจุฬาจำตัวเลขไม่ได้ สยามไบโอไซน์ 600 ล้านบาทซึ่งเป็นโครงการที่มีความหวังมากสุดในลำดับต้น เพราะจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยอ้อกฟอร์ดและแอสตร้าของอังกฤษ เหมือนกันที่รัฐบาลอังกฤษก็ใส่งบประมาณช่วยเหลือโครงการนี้ รัฐบาลสหรัฐอเมริกาก็ใส่เงินช่วยเหลือไฟเซอร์ รัฐบาลจีนใส่เงินงบประมาณช่วยเหลือผู้ผลิตวัคซีน หลายประเทศในอาเซียนใส่งบประมาณในโครงการ covax ฯลฯ

ซึ่งไทยไม่เลือกcovax เพราะเป็นแค่เงินลงทุนที่ไม่มีหลักประกันว่าจะได้วัคซีนหรือไม่ และเงินเรียกคืนไม่ได้ เวลานั้นยังไม่มีชาติใดในโลกประสพความสำเร็จในการผลิตวัคซีนเลย รัฐบาลทุกชาติต้องตัดสินใจให้ดี ประเทศไทยตัดสินใจถูกทางที่สุด เพราะไทยเป็นชาติเดียวในอาเซียนที่ผลิตวัคซีนได้ปีละ180 ล้านโดส เพื่อส่งให้ประเทศไทยที่เหลือจึงจะส่งขายให้เพื่อนบ้าน ถ้าดูตัวเลขการผลิตเฉลี่ยเดือนละ 15 ล้านโดส ส่งให้ไทยเดือนละ 10 ล้าน อีก 5 ล้าน จึงส่งออกในอาเซียน

2.สัญญาความร่วมมือผลิต ระหว่างอ้อกฟอร์ดแอสตร้าและสยามไบโอไซน์กับสัญญาซื้อขายระหว่างรัฐบาลไทยกับบริษัทแอสตร้า เป็นคนละเรื่องกัน ควรแยกให้เข้าใจ เช่นเดียวกับไทยเป็นฐานการผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ให้ยุโรป สหรัฐอเมริกา หรือเป็นฐานการผลิตรถยนต์โตโยต้าของญี่ปุ่น การผลิตให้ได้ตามออเดอร์ของบริษัทแม่นั้นถูกต้องแล้วและสยามไบโอไซน์ก็ผลิตได้ตามนั้น ส่วนการส่งมอบตามสัญญานั้น แอสตร้าโกลบอล ก็ต้องส่งมอบให้รัฐบาลไทย 61 ล้านโดสครบถ้วน ถ้าไม่ส่งมอบก็ถูกปรับ ซึ่งไม่เห็นน่ากังวลอะไร นอกจากนั้นถ้าเกิดภาวะสงครามหรือยามวิกฤตสุดๆ ไทยเรายังมีกฎหมายห้ามส่งออกสินค้าที่ผลิตในไทยได้ด้วย

3.เงินนี้ไม่สูญเปล่า สยามไบโอไซน์จะจ่ายคืนเป็นวัคซีนมูลค่า 600 ล้านบาทให้รัฐบาลและคนไทยในอนาคต และยังได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิดจากความร่วมมือครั้งนี้ และเป็นหลักประกันว่าไทยจะมีวัคซีนโควิดจากแอสตร้าและสยามไบโอไซน์ ตลอดไปอีกหลายปีหรือตลอดไป เพราะไม่มีใครรู้ว่าโควิดจะอยู่กับโลกไปนานอีกกี่ร้อยปี

4.ประเทศไทยควรภูมิใจที่นอกจากการมีโรงงานวัคซีนแห่งเดียวในอาเซียน เพราะพระวิสัยทัศน์ของในหลวงรัชกาลที่9 ที่ทรงเล็งเห็นปัญหานี้ เมื่อหลายปีก่อนผมยังเคยได้พบนักวิชาการจากสยามไบโอไซน์ที่ได้รับการส่งตัวไปเตรียมตัวการผลิตวัคซีนที่คิวบาด้วย ทั้งๆ ที่ยังไม่มีโควิด เพราะในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราโชบายว่า ขาดทุนคือกำไร ในภูมิภาคนี้มีโรงงานผลิตวัคซีนของแอสตร้า แค่ประเทศไทย เกาหลี อินเดีย และออสเตรเลียเท่านั้น

สุดท้ายนี้ขอให้คนไทยใช้สมองและปัญญามองด้วยทัศนคติบวก เข้าใจปัญหาและร่วมกันแก้ไข ดีกว่าดราม่าไปวันๆ ด่าแต่ประเทศไทยของตัวเอง แต่แอบไปแซงคิวฉีดวัคซีน #เรือไม่พายเลิกเอาเท้าราน้ำกันเถอะ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กอ.รมน.ภาค 4 สน." รายงานคืบหน้า จนท.ปัตตานี เข้าวิสามัญ 2 คนร้าย หลังปิดล้อมเจรจาไม่เป็นผล ถูกเปิดฉากยิงใส่ก่อน
สั่งเด้งแล้ว "พ.ต.ท.หญิง" คนสนิทมาดามดัง หลังถูก "ทนายตั้ม" แฉคดีรับส่วยตรวจคนเข้าเมือง
"คนขายหวย" ปูดนายทุนเมืองกาญจน์กว้านซื้อสลากมูลนิธิผู้พิการ ตัดพ้อขอโควต้าสุดยาก
"ปลัดอุตฯ" เตรียมขน "กากแคดเมียม" ต่อ ดีเดย์ 3 พ.ค.นี้ พร้อมทดสอบความแข็งแรงพื้นอาคารพักคอย
รปภ.หญิงห้างดังอุดรธานี ถูกหนุ่มคลั่งดาราต่อยหน้า ฉุนจัด ถูกกันไม่ให้ถ่ายรูปกับศิลปิน
สภาพอากาศวันนี้ กรมอุตุฯเตือน อากาศร้อนจัด ฝนถล่มหนัก26จว. อุณหภูมิทะลุ 44 องศา
เปิดช็อตเดือด ภาพ "อดีตผู้บริหารหญิง" เมาขับเบนซ์ ไม่พอใจถูกจับถีบหน้าตร.
โคลอมเบีย ตัดสัมพันธ์อิสราเอล
สหรัฐ หมอเผยความป่าเถื่อนของอิสราเอล
"พิมพ์ภัทรา" ปัดกดดัน "อธิบดีกรมโรงงาน" ลาออก แจงแค่สั่งเร่งแก้กากแร่แคดเมียม ป้องกระทบปชช.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น