นายชำนาญ ศรีสวัสดิ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) เปิดเผยกับ TOPNEWS ภายหลังการประชุมร่วมกับนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เมื่อวานนี้(2 มิ.ย.64) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ว่า ได้ลงพื้นที่ภูเก็ต เพื่อเช็คเรื่องความพร้อม ก่อนที่จะนำข้อสรุปเข้าไปเสนอศบศ. วันที่ 4 มิ.ย.นี้ โดยในการประชุมมีสิ่งที่ภาคเอกชนเรียกร้องต่อภาครัฐ อาทิ เรื่องของกองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว ซึ่งการเข้าถึงแหล่งทุนยังเป็นอุปสรรค และอยากได้แคมเปญเปิดเมือง ปัง ปัง ให้ท่องเที่ยวชาวไทย ที่ฉีดวัคซีน 2 โดสแล้วมาเที่ยวภูเก็ต
โดยตลาดไทยเป็นส่วนหนึ่ง เป็นเป็นมิตรแท้มาช้านานที่จะมาช่วยกันดันการเปิดเมืองภูเก็ตให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะในการเปิดวันที่ 1 ก.ค. นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามา อาจไม่ได้มีจำนวนเยอะมาก ด้วยสถานการณ์ระดับโลกยังไม่คลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันกับที่ประชุมว่าจะดันไปตามแผน 1 กรกฎาคมเป็นต้นไป จะเปิดเมืองภูเก็ตทันที
ประธานสภาอุตฯ ท่องเที่ยว กล่าวว่า ทุกภาคส่วนในภูเก็ตค่อนข้างพร้อมพอสมควร มีโรงแรม รถ เรือพร้อมบริการ และส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนแล้ว และได้รับการยืนยันจากผู้ว่าราชการจ.ภูเก็ต ว่า น่าจะฉีดวัคซีนได้ 70% ตามมาตรฐานสิ้นเดือนนี้
ในฝั่งผู้ประกอบการ หลายๆ คนก็พร้อม แต่อีกหลายคน เป็นเวลาปีครึ่งแล้ว ทำให้พวกเขา รู้สึกว่าเหนื่อย หมดทุน โดยอยากขอให้เปิดเมืองภูเก็ต และอย่าลืมนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่เป็นพันธมิตรมาช้านานกับพวกเขา จึงอยากได้แคมเปญ ปัง ปัง ไม่ใช่มองเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะทั่วโลกตอนนี้กำลังมีปัญหาที่ยังไม่ clear cut 100% ฉะนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยก็เป็นความหวังของคนภูเก็ตเช่นกัน ก็เลยเสนออยากได้แคมเปญเปิดเมืองปัง ปัง จากททท. อัดแขกลงมาภูเก็ตหน่อย หลังจากที่ภูเก็ต ทำตัวเป็นเด็กดีและฉีดวัคซีนได้ครบ 70% แล้ว
สอง กองทุนฟื้นฟูท่องเที่ยว สำคัญ เพราะการเข้าถึงแหล่งทุนหรือซอฟท์โลนต่างๆ ที่รัฐบาลประกาศมานาน ยังคงเป็นอุปสรรคอยู่ในกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว
สาม กองทุนเปิดเพื่อเมือง เล็กๆ ในการ Re start opening Phuket หรือไม่ก็เป็นการเวฟค่าต่อทะเบียนรถ ต่อทะเบียนเรือ ทะเบียนมัคคุเทศน์ ทะเบียนบริษัทนำเที่ยว เพราะที่ผ่านมาไม่มีรายรับเลย และอยากได้กองทุนเล็กๆ มากู้ไขว้ค้ำกัน เช่น เอาเงินไปเช็ครถ เช็คเรือให้สมบูรณ์พร้อมใช้ในการเปิดเมือง หรือในส่วนร้านอาหาร ก็ต้องการทุนไปซื้อวัตถุดิบ รวมถึงจ้างพนักงานเข้ามาเพิ่มเติม เพื่อได้เปิดร้าน อาจจะสัก 200-300 ล้านบาท มาเพื่อให้คนเหล่านี้ได้กู้ไขว้กัน หรือรัฐบาลอาจจะ subsidies ช่วยดูแลในการเช็ครถ เช็คเรือ เช็คความพร้อมเพื่อเปิดเมือง
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ ก็สามารถเดินหน้าได้มีความพร้อม แต่ในส่วนของผู้ประกอบการรายเล็ก ยังอยากได้รับความช่วยเหลือในส่วนนี้ รวมถึงขอโอกาส สำหรับโรงแรมขนาดเล็ก ที่ยังไม่มีใบอนุญาต แต่ต้องเสียภาษี ให้สามารถเข้าร่วมมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างๆ ของภาครัฐในอนาคตด้วย
ทั้งนี้ ภูเก็ตพร้อมจริงๆในการเปิดเมือง ทุกคนเป็นเสียงเดียวกัน เพราะเป็นอาชีพหลัก 80-90% ภูเก็ตอยู่ได้เพราะการท่องเที่ยว
นายชำนาญ กล่าวย้ำว่า อยากให้ออกแคมเปญ ปัง ปัง เพื่อสนับสนุนคนไทยที่ได้รับวัคซีนครบ มาเที่ยวภูเก็ต เนื่องจากมองว่าสถานการณ์โควิด ในทั่วโลกยังไม่เป็นที่ประจักษ์ว่าประเทศไหนจะศูนย์เปอร์เซ็นเลย เกรงว่า แม้เราเปิดเมือง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในช่วงแรก น่าจะน้อย ในส่วนของผู้ประกอบการจึงบอกผ่านมาว่า อยากขอนักท่องเที่ยวชาวไทย ได้มาเที่ยวภูเก็ตกัน อยากให้ททท. จัดแคมเปญให้ชาวไทยมาเที่ยวภูเก็ต ทันทีที่ภูเก็ตพร้อมที่จะเปิดเมือง หมายถึงฉีดวัคซีนครบ 70% และสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ได้แล้ว เป็นการกระตุ้นโดยรัฐบาลเพื่อช่วยไปก่อน กว่าจะถึงเดือนต.ค. ที่น่าจะฉีดได้เยอะกว่านี้ทั่วประเทศ
“การเปิดภูเก็ตก่อนเป็นเรื่องที่ดี เป็นการนำร่องก่อน ว่าติดขัดตรงไหน SOP ที่ตั้งไว้มันเหมาะหรือเปล่า นักท่องเที่ยวโดนใจหรือเปล่า รัดกุมพอหรือยัง ซึ่งมองว่า ถ้ารัฐตั้งใจกระตุ้นอย่างจริงจัง ไม่เฉพาะภูเก็ต ถ้าได้ฉีดวัคซีนถ้วนหน้า มีภูมิคุ้มกันหมู่ทั่วประเทศ ก็จะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยก็ดี ต่างชาติก็ดี น่าจะกลับมาเร็วขึ้น แต่ถ้าไปแบบช้าๆ ผมว่าปีหน้าก็ยังเหนื่อย” นายชำนาญ กล่าว
