No data was found

ตำรวจเร่งแกะรอยคดีฆ่ายัดถัง ทิ้งอำพราง​ ตั้งปมปัญหาครอบครัว-ต่างด้าว

กดติดตาม TOP NEWS

ผู้กำกับ​ สภ.​เดิมบางนางบวช​ ยัน​คดีฆ่ายัดถังอัดปุ๋ย​คืบหน้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์​ คาดคลี่คลายคดีได้เร็ววันนี้​ ยัน​ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเป็นคนนอกพื้นที่​ คาดเป็นการนำศพมาทิ้งอำพราง​

วันที่ 15 ก.พ. 65 ทีมข่าวท็อป​นิวส์​ยังคงเกาะติดสถานการณ์ ที่อำเภอ​เดิมบางนางบวช​ จังหวัดสุพรรณบุรี​ ​จากกรณี​ผู้ศพหญิงไ​ม่สามารถระบุตัวตนได้​หมกภายในถังขยะสีฟ้าหูหิ้วเหล็ก​ ด้านบนไม่มีฝาปิดแต่มีดินปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยมะพร้าวอัดแน่นปิดปาก​ไว้​มีกลิ่นเหม็นถูกทิ้งอยู่ในพงหญ้าบริเวณชายเขาชะโอย​ ริมถนน 340 สุพรรณบุรี​-ชัยนาท

ความคืบหน้าล่าสุด​ พ.ต.อ.นิกร ด้วงฉุน ผกก.สภ.เดิมบางนางบวช ได้เปิดเผยว่า ภายหลังได้แบ่งทีมสอบสวนและไล่กล้องวงจรปิด​ทำงานมาตลอด 2 คืน มีความคืบหน้า​ไปกว่า​ 80​ เปอร์เซ็น ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตเป็นหญิงมีอายุราว 50 ปี​ เป็น​คนนอกพื้นที่ เช่นเดียวกับผู้ก่อเหตุ​ ที่คาดว่าจะมีมากกว่า​ 2​​ คน​ และคาดว่า จะสามารถคลี่คลายคดีได้ภายใน 2​ วัน​ ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้มีการรับแจ้งคนหายจากทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง

ด้านนายธีร์ สัจจะวงษ์รัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.เขาพระ​ ได้พาเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุริมเขาชะโอน พบว่า มีรอยรถกระบะ​ที่คาดว่าจะเป็นคันเดียวกับที่ก่อเหตุและเป็นพื้นที่เวิ้งสามารถเดินเข้าไปได้ ​และยังได้ตั้งข้อสังเกต​กับทีมข่าวว่า ​ทำไมถึงไม่มีการแจ้งคนหายแต่ตน มีผู้ต้องสงสัยคนในใจอยู่ รอการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตัวมองว่าผู้ก่อเหตุ ต้องมีความรู้และเชี่ยวชาญ​ด้านเกษตรและการปลูกต้นไม้ซึ่งเป็นปัจจัย​หลัก ที่ทำให้ตนหมายตาบุคคลดังกล่าว​ ซึ่งยืนยันว่าเป็นคนใกล้ ๆ อำเภอ ​แต่ยังไม่สามารถบอกได้ ​แต่มองว่าอาจเป็นปัญหาในครอบครัว หรืออาจจะเป็นคนต่างด้าว ที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ส่วนประเด็นถังขยะ ผู้ใหญ่บ้าน บอกกับทีมข่าวว่าเป็นถังที่ใช้ในอำเภอใกล้เคียง​ ส่วนถังขยะที่คาดว่าจะใช้ก่อเหตุอยู่ห่างออกไป จากพื้นที่ 1 กิโลเมตร​

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่​ผู้เห็นรถกระบะ​สีบรอนซ์​ต้องสงสัยเนื่องจาก​ขายของอยู่ฝั่งตรงข้าม ​ระบุว่า​ ในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้าพบศพ​เวลาประมาณ 7 โมงเช้าได้เห็นรถกระบะสีบรอนซ์เลี้ยวเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุ โดยมีถังขยะสีฟ้าวางนอน​บรรทุกไปด้วย​ ก็รู้สึกแปลกใจและสงสัยเนื่องจากว่าบริเวณดังกล่าวจะมีเฉพาะคนที่เข้าไปหาของป่าเท่านั้นที่เข้าไปในพื้นที่

นอกจากนี้​ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจร้านขายต้นไม้บริเวณโดยรอบ​ที่มีอยู่หลายร้านทั้งไม้ประดับและไม้ใหญ่แต่​ โดยได้พูดคุยกับป้าเล็กอายุ​ 66​ ปี เกษตรกร​ที่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ​พบว่าในพื้นที่ไม่ได้​มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์​ผสมสำเร็จดังกล่าวเนื่องจากปุ๋ยดังกล่าวส่วนมาจากจะใช้กับไม้ใบ​แต่ในพื้นที่ขายไม้ประดับ​ซึ่งใช้ปุ๋ยคนละแบบและมีขายนอกพื้นที่​จึงมองว่าคนทำน่าจะขนมาจากพื้นที่อื่นแต่มีความรู้จักพื้นที่เป็นอย่างดีไม่เช่นนั้นจะไม่มีทางรู้ว่าเขาชะโอยมีพื้นที่ว่างตรงนั้น​ เพราะขณะคนในพื้นที่บางคนยังไม่ทราบ​ ซึ่งเมื่อวานนี้ทางตำรวจได้มีการลงพื้นที่เพื่อสอบถามข้อมูล อีกทั้งยอมรับว่ากังวลและกลัวเนื่องจาก ในพื้นที่เกิดเหตุอาชญากรรมขึ้นบ่อยครั้ง​

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สาวโปรตุเกส บันทึกคลิปเศษดาวหางได้แบบคูลสุดๆ (คลิป)
สพฐ. เลื่อนเข้าตรวจสอบ "ถังแก๊สโซลีน" ถูกไฟไหม้มาบตาพุด หลังพบสภาพเสียหายหนัก
ผู้ก่อตั้งวิกิลีกส์ได้สิทธิ์อุทธรณ์ ยับยั้งถูกส่งตัวไปสหรัฐ
"ผู้ปกครอง" ขานรับนโยบาย “ยกเว้น-ผ่อนผัน” ใส่เครื่องแบบชุดนร. ขอบคุณศธ.ช่วยแบ่งเบาภาระ
"ธันวา" สวนหน้าหงาย "ธนาธร" หลัง "สกุลธร" น้องชาย ถูกพิพากษาจำคุก คดีติดสินบนเช่าที่ดินสนง.ทรัพย์สินฯ
"กระทรวงดีอี" เร่งระงับเว็บไซต์ "ลอตเตอรี่ พลัส" ล่าสุดผู้ให้บริการโทรมือถือ-อินเตอร์เน็ต เริ่มทยอยปิดกั้นแล้ว
อิหร่านไว้ทุกข์ 5 วัน ประธานาธิบดีถึงแก่อสัญกรรม ปูติน-สีจิ้นผิง อาลัย เสียเพื่อนที่ดี
ชาวเลยแห่ขอเอกสารใบสมัคร สว.นับพันคน แต่มาสมัครวันแรกยังบางตา
คนไทยไม่ทิ้งกัน คุณตาวัย 67 ปี ไม่มีเงินสักบาท ปั่น จยย. จากอุตรดิตถ์ กลับชัยภูมิ พบผู้ใจบุญช่วย
"โฆษกรัฐบาล" แจ้งไทม์ไลน์ขายข้าว 10 ปี หลังผลตรวจของ "กรมวิทย์ฯ" พิสูจน์ตามมาตรฐานครบถ้วน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น