“ท็อปนิวส์” นำลุงแท็กซี่ พบ ตร.ไซเบอร์ ล่าตัวแก๊งเงินกู้ออนไลน์

"ท็อปนิวส์" นำลุงแท็กซี่ พบ ตร.ไซเบอร์ ล่าตัวแก๊งเงินกู้ออนไลน์

ภายหลังจากทีมข่าวท็อปนิวส์ นำเสนอข่าวกรณีคนขับรถแท็กซี่ จอดรถบนสะพานกรุงเทพ เตรียมที่จะกระโดดสะพาน โดยใช้มีดจี้คอตัวเองนั่งห้อยขาบนราวสะพาน เพราะมีปัญหาหนี้สิน จากการไปกู้เงินออนไลน์ จนถูกแก๊งเงินกู้ออนไลน์หลอก จนเหลือเงินติดบัญชี 13 บาท

โดยวานนี้คนขับแท็กซี่รายนี้ได้เข้าพบพนักงานสืบสวน สน.เพชรเกษม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งความคืบหน้าทางคดีนั้น ถือว่าคืบหน้าไปมากแล้ว ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวท็อปนิวส์ได้นำผู้เสียหายรายนี้ เข้าพบตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อตามติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่เพียงเท่านั้นพบข้อมูลสำคัญของมิจฉาชีพกลุ่มนี้แล้ว และเตรียมจะออกหมายจับ

ทีมข่าวท็อปนิวส์ นำนายชัย และนางอนง ไปยังกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อร้องขอให้ทางตำรวจไซเบอร์ดำเนินคดีกับมิจฉาชีพกลุ่มนี้ให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อว่าขบวนการนี้ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้แก่ตัวเขาเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายเดือดร้อนกับประชาชนทั่วประเทศ

 

 

นายชัยได้นำหลักฐานต่างๆมอบให้กับ ว่าที่ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี อทิ หลักฐานการโอนเงิน หลักฐานการพูดคุย รวมทั้งหลักฐานข้อมูลส่วนตัวของมิจฉาชีพกลุ่มนี้ เพื่อนำไปสู่การจับกุม โดย ว่าที่ พ.ต.อ.ศุภรฐโชติ จำหงษ์ ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยกับทีมข่าวท็อปนิวส์ว่า คดีของนายชัย (คนขับแท็กซี่) ซึ่งตกเป็นผู้เสียหาย ได้ประสานธนาคารขออายัดบัญชีของคนร้ายแล้ว และอยู่ระหว่างรอพยานเอกสารมาประกอบ เพื่อติดตามคนร้าย เบื้องต้นทราบจุดที่โอนไปให้คนร้ายแล้ว เตรียมประสานเข้าจับกุมตัว

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้กำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุเพิ่มเพิ่มด้วยว่า “ตลอดระยะ 1 ปีที่ผ่านมา ตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ ได้กวาดล้างแก๊งเงินกู้นอกระบบที่กำลังเป็นปัญหาเหล่านี้มาตลอด

 

 

ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ แก๊งเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ที่ลูกหนี้ชำระหนี้จนครบแล้ว ก็ยังต้องใช้หนี้ต่อไปเรื่อยๆ อีกรูปแบบหนึ่ง คือ แก๊งเงินกู้ฉ้อโกง ซึ่งลูกหนี้ต้องโอนเงินมัดจำให้เรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เงินกู้ ซึ่งกรณีของลุงแท็กซี่เข้าข่ายรูปแบบนี้

จากข้อมูลการสืบสวนพบว่ากลุ่มเครือข่ายเงินกู้ออนไลน์ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่นี้ ส่วนใหญ่ตั้งฐานอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้การติดตามจับกุมเป็นไปด้วยความยากลำบาก ที่ผ่านมาจับกุมได้เฉพาะผู้ร่วมขบวนการที่อยู่ปลายแถวที่อยู่ในไทยเท่านั้น

จึงขอเตือนไปยังประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ขอให้ติดต่อกู้เงินจากสถาบันการเงิน ที่ได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย และอย่ากู้เงินจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเหล่านี้ เพราะอาจทำให้เสียทั้งเงินและชื่อเสียง หรืออาจเกิดความเครียดจนไปคิดสั้นในลักษณะที่เกิดขึ้นได้”

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“พิชัย” เร่งเจรจา FTA ไทย-ยูเรเซีย เปิดการค้าการลงทุน
ตร.บช.ก.สอบ "เจ๊อ้อย" มาราธอนนานกว่า 10 ชั่วโมง ปมเงิน 71 ล้านบาท
ฮือฮา วัตถุมงคล "หมูเด้ง ฮิปโปกวักทรัพย์"  ด้าน "สำนักปฏิบัติธรรมฯ" แจงฆราวาสเป็นผู้จัดสร้าง นิมนต์พระไปอธิษฐานเท่านั้น
อบจ.อยุธยา เตรียมจัดงานแสง สี เสียง ลอยกระทงกรุงเก่า อาบน้ำเพ็ญเดือน12กับเกจิชื่อดัง ชมแข่งขันชกมวยเยาวชนไทย
20 ปี “เทศกาลท่องเที่ยวแม่เมาะ” เปิดบ้านต้อนรับนักท่องเที่ยว ตอกย้ำความประทับใจ ชวนสัมผัสธรรมชาติ
เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ เสด็จเป็นองค์ประธานการประกวดผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์”
กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 1 ไทยตอนบนอากาศแปรปรวน ภาคใต้ฝนตกหนัก 2-5 พ.ย.นี้
แชร์สนั่น ปลุกเสก หมูเด้ง ฮิปโปกวักทรัพย์
ผบ.ทร. มอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชย กำลังพล ประกอบคุณงามความดี
เจ้าอาวาสวัดดัง ขีดเส้นตาย "พระปีนเสา" กลับวัดภายใน 7 วัน ชี้พฤติกรรมไม่เหมาะสม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น