สหภาพฯ การบินไทย แจงเป็นข้อๆ หลัง”เจ้เล้ง”พาดพิงแอร์โฮสเตส-สจ๊วต เป็นคนใช้บนอากาศ

สหภาพฯ การบินไทย แจงเป็นข้อๆ หลัง"เจ้เล้ง"พาดพิงแอร์โฮสเตส-สจ๊วต เป็นคนใช้บนอากาศ

จากกรณี เจ้เล้ง ได้มีการพูดถึง อาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน โดยเปรียบเทียบว่าเป็นคนใช้บนอากาศ และจะไม่ให้ลูกหลานเป็นแอร์โฮสเตสแน่นอน จนทำให้เกิดเสี่ยงวิพากวิจารณ์เป็นอย่างมาก

ล่าสุด นายสิทธิพันธ์ นวอัศวานนท์ ประธานสหภาพแรงงานการบินไทย ออกแถลงการณ์เพื่อตอบโต้เจ้เล้งกรณีพาดพิงอาชีพพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

“จากคลิปที่แชร์ในโซเชียลมีเดียของคุณอารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล (เจ้เล้ง) เจ้าของร้านเจ้เล้ง ดอนเมือง ที่จัดทำขึ้นในหัวข้อ ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่สูตรฮ่องกงและมีการโฆษณาสินค้าด้วยนั้น เนื้อหาในคลิปช่วงนาทีที่ 21:40 คุณอารียฉัตร ได้กล่าวพาดพิงถึงอาชีพแอร์ สจ๊วต หรือในข้อบังคับการบินเรียกว่า “ลูกเรือ” (Cabin Crew)

จากทัศนคติที่มีต่ออาชีพของลูกเรือ (แอร์, สจ๊วต) ดังกล่าว สหภาพแรงงานการบินไทย (สร.กบท.) ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานและลูกเรือทุกคน และกว่า 61 ปีของการบินไทยที่เป็นบริษัทดำเนินธุรกิจการบินรายแรกในประเทศไทย อาจกล่าวได้ว่าแอร์และสจ๊วตการบินไทย เป็นตัวแทนในเชิงสัญลักษณ์ของแอร์และสจ๊วตในประเทศไทย

สหภาพแรงงานฯ ขอเรียนชี้แจงการทำงานของลูกเรือ ที่นอกเหนือจากการให้บริการที่ดีที่สุดกับผู้โดยสาร ดังนี้

1. ลูกเรือทุกคนต้องอบรมความรู้พื้นฐานการทำงานของอากาศยานแต่ละแบบ (Aircraft Orientation)
2. ลูกเรือทุกคนต้องอบรมการช่วยเหลือให้ความปลอดภัยต่อผู้โดยสารในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Safety & Emergency) ทั้งในกรณีบนพื้นดิน, พื้นน้ำ, พื้นน้ำแข็ง และต้องทำการฝึกทักษะทั้งหมดให้เกิดความชำนาญทุกปี
3. ลูกเรือทุกคนต้องเรียนรู้ จำแนก บรรเทา แก้ไขสินค้าหรือวัตถุอันตราย (Dangerous Goods) ตามมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติ (UN) หากพบเจอหรือมีการรั่วไหลบนเครื่องบิน
4. ลูกเรือทุกคนต้องเรียนรู้พื้นฐานการจำแนก ตรวจสอบวัตถุระเบิด รวมถึงขั้นตอนวิธีการจัดการบนเครื่องบินจากเจ้าหน้าที่รัฐ
5. ลูกเรือทุกคนต้องเรียนรู้การปฐมพยาบาล ทำคลอด อาการและวิธีแก้ไขของโรคที่อาจเกิดขึ้นบนเครื่องบินได้
6. ลูกเรือทุกคนต้องเรียนรู้การปฏิบัติตัว การประสานงานกับเจ้าหน้าที่ภาคพื้น และการเจรจาต่อรองหากเกิดการก่อการร้ายหรือจี้เครื่องบิน
7. ลูกเรือการบินไทยต้องอบรมการต่อสู้ป้องกันตัว การควบคุม หากเกิดเหตุผู้โดยสารเป็นภัยต่อผู้อื่นและอากาศยาน (Unruly Passenger)
8. ลูกเรือทุกคนต้องอบรมการช่วยเหลือตนเองและผู้โดยสารหลังจากสถานการณ์การลงฉุกเฉิน (Emergency Landing) การดำรงชีวิตในป่า เขา ทะเล พื้นที่มีหิมะ (Survival)

ยังมีการอบรม ฝึกฝน อีกหลากหลายสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และในแต่ละปีลูกเรือทุกคนต้องเข้าอบรมทบทวนเพื่อให้เกิดความรู้ ความชำนาญ ไม่ต่ำกว่า 14 วันต่อปี ตามข้อบังคับการบินของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

การฝึกฝน ทบทวนความรู้ที่กล่าวมาทั้งหมดก็เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารหากเกิดเหตุไม่พึงประสงค์และสถานการณ์ฉุกเฉิน เฉกเช่นเดียวกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษทุกหมู่เหล่า หากไม่เกิดเหตุก็ปฏิบัติหน้าที่ปกติในที่ตั้ง ลูกเรือก็เช่นกัน หากไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆ เราก็จะให้การดูแลและบริการอย่างอบอุ่นต่อผู้โดยสารทุกท่านด้วยความแข็งแกร่งของอัตลักษณ์ความเป็นไทยตลอดทุกเส้นทาง และการมีทัศนคติดูแคลนว่าอาชีพแอร์ฯ สจ๊วต ทำธุรกิจอย่างอื่นต่อไม่ได้ ซึ่งในประเด็นนี้ปัจจุบันลูกเรือของการบินไทยต้องมีคุณวุฒิระดับปริญญาตรีขึ้นไป และมีลูกเรือที่จบการศึกษาสูงกว่าระดับปริญญาตรีประมาณ 13% (จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง) เป็นทั้ง คณบดีและอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหลายแห่ง มีอาชีพเสริมในขณะยังเป็นลูกเรือ ทั้งสถาปนิก, ออกแบบ, หมอ, พยาบาล, ร้านอาหาร, ทำสวน, ประมง ฯลฯ อื่นๆ อีกมากที่ไม่เป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบิน

สหภาพแรงงานการบินไทย ขอเรียนชี้แจงในแถลงการณ์นี้ เพื่อทำความเข้าใจกับสาธารณชนและคุณอารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล (เจ้เล้ง) ซึ่งสหภาพฯ ไม่อยากให้เกิดการดูหมิ่น ดูแคลน กับอาชีพลูกเรือและทุกอาชีพในอนาคตอีก และใคร่เรียกร้องให้คุณอารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล (เจ้เล้ง) แสดงความรับผิดชอบต่อการแสดงทัศนคติเชิงลบกับอาชีพแอร์ฯ และสจ๊วตในครั้งนี้ด้วย”

และล่าสุด เจ้เล้ง มีการโพสต์ขอโทษต่อประเด็นที่เกิดขึ้นผ่านเพจเฟซบุ๊ก ร้านเจ้เล้ง ranjaeleng โดยให้เหตุผลว่าพูดไปตามประสาคนปากไว ซึ่งมีรายละเอียดของโพสต์ดังนี้ “จากกรณีที่ดิฉัน เจ้เล้ง นางสาวอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร ได้อัดคลิปทำอาหารในวันที่ 13 กันยายน 2564 ซึ่งส่วนหนึ่งได้กล่าวพาดพิงถึงอาชีพแอร์โฮสเตสกับสจ๊วตตามเนื้อความดังคลิปนั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อ เกียรติ ศักดิ์ศรี และคุณค่าของอาชีพนั้นๆ ดิฉันไม่ได้สบายใจในคำพูดที่ดิฉันกล่าวออกไปเลย ซึ่งพูดไปตามประสาคนปากไว โดยมิได้มีเจตนาดูหมิ่น หรือเหยียดบุคคล และอาชีพใดๆ ด้วยความโกรธเกลียดเลย

ดิฉันไม่มีคำใดมาแก้ตัว หรือคำอธิบายใดๆ นอกจากคำว่าขอประทานโทษจากใจจริง โดยต่อไปนี้จะมีสติในการสื่อสารให้มากยิ่งขึ้น พร้อมปรับทัศนคติและมุมมองในการอยู่ในโลกสังคมออนไลน์สมัยใหม่ จึงขอให้ทุกคนที่เจ้เล้งได้กล่าวพาดพิง รวมไปถึงชาวเน็ตที่คอมเม้น ให้อภัยและให้โอกาสเจ้เล้งได้พิสูจน์ตัวเองด้วยนะคะ”

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กรมการจัดหางาน" จับมือ Outsourcing Service เปิดลงทะเบียนแรงงานต่างด้าวสถานะไม่ถูกต้องตาม กม. วันแรกยื่นคำขอฯ มากกว่า 65,000 ราย
ผู้ว่าโคราชเปิดงาน “มหกรรมยานยนต์โลจิสติกส์ 2025” ผลักดันอีสานสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีขนส่งแห่งอนาคต
ฮือฮา! ไม่ธรรมดา “พรรคปวงชนไทย” น้องใหม่มาแรงสโลแกนโดนใจ “สร้างคน สร้างงาน”
"นายกฯอนุทิน" เปิดข้อความ "อันวาร์" ส่งด่วน ยันไม่มีคำพูด "ไทย-กัมพูชา" ตกลงหยุดยิง 4 ทุ่ม
เปิดภาพ ชุมชนเขมรโอรเสม็ดร้าง ปั๊มน้ำมันถูกบอม ขณะที่ สว.สุรินทร์ลงพื้นที่มอบของต่อเนื่อง
"พ่อลูกฮุน" สันติภาพกี่โมง "กองทัพภาคที่ 2" อัปเดตสนามรบศรีสะเกษ-สุรินทร์ ทหารเขมรระดมยิงหนัก ปืนใหญ่ ปืนค. BM-21 โดรนพลีชีพ เร่งชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​