No data was found

ครม.เคาะ 3 มาตรการเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศ

กดติดตาม TOP NEWS

กรุงเทพฯ 18 พ.ค.- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เคาะ 3 มาตรการเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศ ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ  กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย และ การใช้เงินกู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจสู้ภัยโควิด-19

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการในการแก้ไขกรณีงบประมาณรายจ่ายลงทุน มีจำนวนน้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลของงบประมาณประจำปี โดยเพิ่มแหล่งเงินลงทุนของประเทศในช่องทางอื่นนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้การลงทุนของประเทศในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ครอบคลุมการลงทุนจากทุกแหล่งเงิน และสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (covid-19) ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ประกอบด้วย

1. การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (Public Private Partnership: PPP) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 คาดว่าจะมีโครงการตามแผนการจัดทำโครงการร่วมลงทุน พ.ศ. 2563 – 2570 จำนวน 10 โครงการ โดยประมาณการมูลค่ารวม 260,024.08 ล้านบาท และประมาณการวงเงินลงทุนที่คาดว่าจะลงทุนในปี 2565 รวม 52,320.63 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562

2. กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund) ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ประมาณการแผนการใช้จ่ายกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย สำหรับการลงทุนโครงการทางพิเศษพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอนบน N2 และ E-W Corridor ด้านตะวันออก รวมจำนวนทั้งสิ้น 9,983.98 ล้านบาท

3. การใช้เงินกู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งสิ้น 8 กระทรวง 11 หน่วยรับงบประมาณ 109 รายการ วงเงินรวม 91,705.5119 ล้านบาท ซึ่งสำนักงบประมาณพิจารณาแล้วว่าเป็นรายการลงทุนที่มีลักษณะการลงทุนเพื่อการวางรากฐานการพัฒนาระบบน้ำ การสร้างคุณภาพชีวิต และการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค การลงทุนเพื่อการให้บริการด้านสาธารณสุข รวมทั้งการลงทุนที่ใช้เทคโนโลยีเพื่อการสร้างความเข้มแข็งของประเทศ ซึ่งมีความพร้อมในการดำเนินการ ให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมและสามารถใช้จ่ายจากเงินกู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

 

“ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรียังมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาเร่งรัดดำเนินการตามแผนการลงทุนการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP) และแผนการลงทุนภายใต้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย พร้อมให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ พิจารณาโครงการรายจ่ายลงทุนเพื่อใช้จ่ายจากเงินกู้เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งแนวทางดังกล่าวยึดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ที่กำหนดให้งบประมาณรายจ่ายลงทุน ต้องมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี และต้องไม่น้อยกว่าวงเงินส่วนที่ขาดดุลของงบประมาณประจำปี ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 วงเงินขาดดุลของงบประมาณกำหนดไว้ จำนวน 700,000 ล้านบาท” นายอนุชา ฯ กล่าว

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พายุฝนถล่มน้ำท่วมผิวการจราจรทำให้ถนนลื่นคนขับรถบรรทุกใจหายล้อหลังหลุดออกจากตัวรถหกล้อ
ชาวบ้านน้ำโจ้ระทม พายุฤดูร้อนพัดถล่มบ้านพัง ผ่านไป 4 วัน ไร้เงาสส.ดูแล ด้านผู้ใหญ่บ้าน ร้องขอกำลังพลทหารช่วยซ่อมแซม
ฝนกระหน่ำแปดริ้วอ่วมน้ำท่วมเมือง
ฟิลิปปินส์ ว่ายน้ำเย็นฉ่ำกับ ‘ก้อนน้ำแข็ง’ กลางสระ
สีย้ำจีนหนุนคุยสันติภาพที่ทั้งรัสเซียและยุเครนมีส่วนร่วม
"ทนายตั้ม" ตามคดีฟ้อง "บิ๊กต่อ" และภรรยา ยื่นหนังสือเตือนผกก.สน.เตาปูน ผ่าน 30 วัน ไร้ความคืบหน้า
ชาวบ้านเมืองเก่าสงขลาโวยขับไล่ กรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมือง บริหารไม่โปร่งใส พบมี "ผช.สส.โรม" ร่วมด้วย
"พายุฤดูร้อน" ถล่มหนัก "ชลบุรี-สระแก้ว" น้ำท่วมรอระบายหลายจุด ทำการสัญจรไปมาลำบาก
“อ.เฉลิมชัย” จัดเต็มจากจอร์เจีย สวนกลับ “โน้ส อุดม” หยุดบูลลี่คนรุ่นเก่า ซัดแรง จะพูดอะไรก็ได้ แต่อย่าพาดพิงศิลปินแห่งชาติ
“คารม” เดือดซัด “โน้ส อุดม” อย่าเอาคำ "พอเพียง" มาบิดเบือนหากิน ลั่นแรงอย่าเอาความโง่ มาทำให้คนอื่นโง่ตาม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น