“ข้าวสาร”คึกคัก หลังกทม.ไฟเขียว ขาย-ดื่มแอลกอฮอล์ ถึง 5 ทุ่ม

"ข้าวสาร"คึกคัก หลังกทม.ไฟเขียว ขาย-ดื่มแอลกอฮอล์ ถึง 5 ทุ่ม

วันนี้ (1 ธ.ค. 64) เวลา 20:30 น. ผู้สื่อข่าวท็อปนิวส์ รายงานข่าวพื้นที่บรรยากาศสถานที่ประกอบการและร้านอาหาร บริเวณถนนข้าวสาร แขวงตลาดยอด เขตพระนคร กทม. ภายหลังกทม. ออกประกาศให้สามารถจำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 23:00 น. เป็นวันแรก ซึ่งบรรยากาศเริ่มกลับมาคึกคัก หลังจากนักท่องเที่ยวบางตาลงในช่วงก่อนหน้านี้ โดยวันนี้บริเวณ ถ.ข้าวสาร มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยเดินทางเข้ามาท่องราตรีกันอย่างต่อเนื่อง และหลายร้านเริ่มมีคนเข้าใช้บริการมากขึ้น

ด้านมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 บริเวณถ.ข้าวสาร มีการกำหนดทางเข้า-ออกสองทาง โดยจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจใบรับรองการได้รับวัคซีนครบทั้งสองเข็ม พร้อมบัตรประชาชน เพื่อยืนยันตัวตน แต่หากนักท่องเที่ยวท่านใดยังได้รับวัคซีนไม่ครบสองเข็มจะต้องตรวจ ATK ก่อนเข้าภายใน ถ.ข้าวสาร ซึ่งมีค่าตรวจราคา 100 บาท หากตรวจแล้วผลเป็นลบก็สามารถเข้ามาใช้บริการได้

สำหรับร้านอาหารที่เปิดให้บริการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการปฏิบัติตามมาตรการปลอดภัยสำหรับองค์กร (Covid Free Setting) และมาตรการป้องกันการติดเชื้อแบบครอบจักรวาล (Universal Prevention) อย่างเคร่งครัดโดยมีจุดคัดกรองทุกทางเข้า-ออก มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือก่อนเข้าร้าน ตรวจวัดอุณหภูมิของลูกค้า มีการจำกัดจำนวนคนเข้าใช้บริการ และต้องสวมหน้ากากอนามัยจึงจะสามารถเข้าใช้บริการได้ นอกจากนี้ ทุกร้านยังผ่านการประเมินมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย หรือ SHA (Amazing Thailand Safety & Health Administration) เรียบร้อยแล้ว

ด้านผู้ประกอบการรายหนึ่ง กล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก ที่มีขยายเวลาให้จำหน่ายและนั่งดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 23:00 น. เพราะจะช่วยให้ตนมีรายได้จากการขายของเพิ่มขึ้น และนักท่องเที่ยวจะได้เดินทางเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ทั้งนี้ บริเวณถนนข้าวสาร จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยเดินตรวจสอบเป็นระยะ เพื่อตรวจสอบมาตรการการต่างๆ ของร้านอาหารด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"หงส์ไทย" มอบผลิตภัณฑ์ยาดม ให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา มูลค่า 1.1 ล้านบาท พร้อมอยู่เคียงข้างทุกสถานการณ์
“ธรรมนัส” นำทีมเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ "2 ทหารกล้า" บาดเจ็บ ปกป้องอธิปไตย เหตุปะแนวชายแดนไทน-กัมพูชา
"สถานทูตเกาหลีใต้" แจงโต้ "สื่อเขมร" ปมข่าวขายเครื่องบินโจมตี-ติดขีปนาวุธนำวิถีให้ไทย เป็นข่าวเท็จ
โคราช เปิดโครงการธนาคารหมวกกันน็อคแห่งแรกของประเทศ ให้ยืมหมวกกันน็อค แทนการเสียค่าปรับ หวังลดภาระค่าปรับแพง สร้างวินัยจราจร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเงินช่วยเหลือครอบครัวทหารที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย–กัมพูชา
"กกร."จับตาเงื่อนไขเจรจาภาษีทรัมป์เหลือ 19% กระทบแค่ไหน จีดีพีปี 68 คาดขยายตัว 1.8-2.2%

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​