แม้คณะกรรมการนโยบาย องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือไทยพีบีเอส ลงมติเลือก รศ.ดร.วิลาสิณี พิพิธกุล เป็นผู้อำนวยการไทยพีบีเอสอีกสมัย
น่าเสียดายที่กระบวนการสรรหาโดยมี นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี เป็นประธานคณะกรรมการสรรหาฯ เปิดให้ผู้สมัคร 5 คน แสดงวิสัยทัศน์เพื่อได้รับรู้ถึงทิศทางการทำงานองค์กรสื่อสาธารณะ แต่สังคมภายนอกหรือแม้แต่พนักงาน ภายในองค์กรไม่เคยรับรู้ถึงวิสัยทัศน์ของผอ.สถานีรายนี้แม้แต่น้อย มารู้อีกครั้งก็เมื่อคณะกรรมการนโยบายฯ แต่งตั้ง “คนเก่าหน้าเดิม” กลับมาเป็นผอ.ไทยพีบีเอสเรียบร้อย
ตลอดสี่ปีของการบริหารงานของ”คนเก่าหน้าเดิม” เป็นที่ทราบโดยทั่วกันถึงการนำพาไทยพีบีเอสเข้าสู่ดินแดนสนธยา ถูกทาบทับเป็นสื่อที่มีวาระแอบแฝง บ้างถูกวิจารณ์เป็นสื่อล้มเจ้า ซ้ำร้ายปล่อยให้มีการนำเสนอข่าวไปในทิศทางผิดพลาดบกพร่อง โดยทางผู้บริหารแสดงความรับผิดชอบได้เพียงแค่ผลิตเอกสารแถลงการณ์ขอโทษเท่านั้น
แต่คนที่ดำรงตำแหน่งระดับผอ.สถานี ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรยังคงเดินหน้าชิงตำแหน่งผอ.สถานีต่อไป
ภาพ : เมื่อวันที่ 6 มี.ค.64 กลุ่มผู้ชุมนุมที่ใช้ชื่อว่า ม็อบทะลุฟ้า นำโดยนนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน ได้นำกลุ่มเข้าแวะพักที่สถานีไทยพีบีเอส โดยครั้งนั้น นายสมเกียรติ จันทรสีมา ผู้อำนวยการสำนักเครือข่ายสื่อสาธารณะ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส กล่าวถึงการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมแวะพักว่า พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่กลาง ให้กับทุกกลุ่ม เป็นหน้าที่เราต้องช่วยดูแลให้ประชาชนให้มีหลักประกันเสรีภาพในการแสดงออก แต่อีกด้านก็พยายามจะช่วยดูแลเรื่องของความปลอดภัยด้วย
……..
ภายหลังไทยพีบีเอสออกหวยล็อคด้วยการได้ “คนเก่าหน้าเดิม” กลับมาเป็นผอ.สถานีไทยพีบีเอส นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที อดีตสื่อมวลชนอาวุโสผ่านร้อนผ่านหนาวในสมรภูมิข่าวมาหลายสนามโดยเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งผอ.สถานีไทยพีบีเอส ได้ออกมาเปิดเผยความในใจในหัวข้อ “วิสัยทัศน์ของนายยุทธิยงที่ไม่ถึงมือ บอร์ดบริหารนโยบายTPBS”
เรื่องราวต่อไปนี้ พอทำให้เห็นกระบวนการคัดสรรผอ.ไทยพีบีเอสที่ผิดปกติ
ยุทธิยง นำเสนอไว้ดังนี้
ผมเห็นข่าวบนเฟสบุ๊คแสดงความยินดีกับผอ.TPBS(คนเก่าที่ยินดีกันใหม่) หากเป็นสิ่งที่เป็นกุศลต่อแผ่นดินมีหรือที่เทวดาและภูตจะไม่ร่วมยินดี..
ผมเองมีโอกาสไปสมัครผอ.TPBS ก็ต้องขอบคุณพี่โสภณ องค์การ พี่ใหญ่ด้านสื่อเป็นผู้บริหารสื่อของพวกผมอีกคนที่เราเคารพที่เราไหว้ได้ ร่าเริงใจเมื่อพบทุกครั้ง
“หมีคุณมีความพร้อมไปช่วยสมัครเพื่อฟื้นฟูวิชาชีพเราหน่อย คุณมีความพร้อม”
ยังเป็นธุระหาใบสมัครมาให้อีก ผมเองแอบไปสมัครโดยไม่บอกภรรยากลัวเขาโกรธว่า ที่บ้านมีงานต้องทำนอนก็ไม่มากพอ หาเรื่องเดือดร้อนทำไม? ชวนทีมงานเตรียมเอกสารทำวิสัยทัศน์ไปสมัคร
แรงจูงใจอะไรหรือที่ผลักดันให้ผมไปแม้แต่คุณสนธิก็ไม่เคยปริปากบอกกับท่านเลยจนถึงขณะนี้ ก็เพราะเห็นว่าเป็นของสังคมเป็นงานราชการประเภทหนึ่งใช้ภาษีหลวงถึงต้องไป ไปก็หวังว่านำความคิดนำความปรารถนาดีที่พึงมีทำงานกันหนักหมดกาแฟไปหลายสิบแก้วเลี้ยงทีมงานระดมสมองสร้างสรรค์วิสัยทัศน์
การรับสมัครผอ.TPBS สิ้นสุด 23 มีนาคม เชื่อไหมครับว่าบอร์ดบริหารนโยบายซึ่งกำกับดูแลมีอำนาจเต็มเปี่ยมในการกำกับดูแลสถานีของประชาชนยังไม่ได้เห็นวิสัยทัศน์ของผมเลย ทำไมองค์กรที่โปร่งใสทำไมองค์กรที่สำคัญมีสภาพการณ์แบบนี้
เหตุเช่นนี้ก็เพราะอ้างระเบียบราชการว่า ได้มอบหมายให้กรรมการสรรหาแล้วหมดหน้าที่ของบอร์ดนโยบาย รอให้กรรมการสรรหาจัดการคัดสรรเลือกมาด้วยวิธีของสรรหาที่มีประธานที่ทำงานสื่อมวลชนเอกชนแห่งหนึ่งเข้ามาในนามสมาคมสื่อมาทำหน้าที่จัดการและกรรมการผู้มีเกียรติจาก 9 หน่วยงาน
สุดท้ายส่งรายชื่อสองท่านคือผอ.คนเดิม ที่แสดงความยินดีใหม่กับท่านผู้บริหารจากองค์การสะพานปลา แต่ก็ใช่ว่าท่านจะไม่มีความสามารถผมเองเชื่อในความสามารถของมนุษย์หากมีโอกาสเขาจะทำสิ่งดีมอบให้แผ่นดินนี้อย่างแน่นอน
“ครอบครัวผมสอนเรากันมาแบบนั้น หลักการบริการทรัพยากรมนุษย์ของมนุษย์ก็คล้ายกับสิ่งบ้านผมสอน” มากไปกว่านั้นแม่สอนลูกทุกคนว่า อย่าได้ไปเอาเปรียบใครสร้างเวรกรรมเข้าตัวนะลูก ขอให้ลูกแม่คนพบคนเห็นคนรัก แม่เสกคาถาใส่กระหม่อมทุกครั้งที่กราบตักท่าน
ผมเองมีประสบการณ์ในการเสนอตัวไปสมัครเพื่อช่วยงานราชการหลายที่ผมเห็นความตื่นตัวของผู้บริหารราชการระดับสูง ตื่นตัวในหลายที่เพื่อสรรหาผู้บริหารมาช่วยองค์กร
สำหรับวิสัยทัศน์ยุทธศาสตร์การทำงานภายในองค์กรเพื่อสร้างสรรค์องค์กรข่าว “ภาวะต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างทำในองค์กรข่าวจะทำแบบนี้ไม่ได้ จะต้องสร้างวัฒนธรรมองค์กรร่วมคิดร่วมทำร่วมสร้างสรรค์”
ผมเอาประสบการณ์ตัวเองเขียนเป็นวิสัยทัศน์เพราะองค์กรข่าวคือ องค์กรนำทางปัญญา นำข่าวสารความจริงที่สร้างสรรค์ ให้คนในสังคมไทยได้บริโภคข่าวสารก็คืออาหารสมองของคนในชาติ ก็ถือโอกาสเผยแพร่เพื่อก่อกุศลต่อการรับรู้ สามารถประยุกต์ปรับนำไปใช้ได้ในทุกองค์กรแม้แต่ภาคเอกชน
..วิสัยทัศน์นี้ไม่สงวนสิทธิ์แต่อย่างใดมอบให้กับทุกคนทุกองค์กรที่ปรารถนาดีต่อแผ่นดินอันอบอุ่นที่เรารัก *ขอบคุณอดีตผู้บริหาร บรรณาธิการข่าวจากสำนักข่าวไทย อดีตบรรณาธิการข่าวโทรทัศน์จากเนชั่น อดีตบรรณาธิการข่าวกรุงเทพธุรกิจ ที่ร่วมให้คำปรึกษาแนะนำทำวิสัยทัศน์นี้
ขอบคุณท่านวิญญูชนบัณฑิตที่ได้อ่านและมีความเห็นที่สุภาพเพื่อให้ผมได้มีข้อมูลเพิ่มเติม
เหล่านี้ คือ มุมมองของสื่อมวลชนอาวุโส หนึ่งในผู้เสนอตัวชิงตำแหน่งผอ.ไทยพีบีเอส ที่มีวิสัยทัศน์ในการปฏิรูปไทยพีบีเอส เพียงแต่เขาโชคร้ายที่ไม่ผ่านการคัดเลือก แต่อย่างน้อยทำให้สังคมเห็นความมุ่งมั่นในการนำองค์กรสื่อสาธารณะไปในทิศทางที่ดีขึ้น
แล้วผอ.คนปัจจุบันหล่ะ มีวิสัยทัศน์อย่างไรหรือรอวันอับปาง