ดับฝัน “ฮุน เซน”! สมช.ยันไทยประชุม JBC กัมพูชา เร่งด่วนไม่ได้ เป็นหน้าที่รัฐบาลใหม่ ย้ำไทยยึดแผนที่ 1 ต่อ 50,000

ดับฝัน "ฮุน เซน"! สมช.ยันไทยประชุม JBC กัมพูชา เร่งด่วนไม่ได้ เป็นหน้าที่รัฐบาลใหม่ ย้ำไทยยึดแผนที่ 1 ต่อ 50,000

วันที่ 29 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สมเด็จฯฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “Samdech Hun Sen of Cambodia” ระบุข้อความว่า คณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ฝ่ายกัมพูชา ได้ส่งบันทึกทางการทูตไปยังคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ของฝ่ายไทย เพื่อเสนอให้มีการจัดประชุมเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมกราคม พ.ศ.2569 ณ เมืองเสียมราฐ เพื่อหารือและดำเนินการสำรวจและปักปันเขตแดน

วาระสำคัญที่กัมพูชาเสนอในครั้งนี้ เน้นไปที่การส่งทีมสำรวจร่วมลงพื้นที่จริงในจุดที่เคยเป็นประเด็นขัดแย้ง เช่น ระหว่างหลักเขตแดน 42 – 47 บริเวณบ้านจกเจยและเปรยจัน จังหวัดบันเตียเมียนเจย และระหว่างหลักเขตแดน 52 – 59 บริเวณตำบลบึงเรียง และตำบลกัมเรียง จังหวัดพระตะบอง

พื้นที่ทมอดา จังหวัดโพธิสัตว์ ระหว่างหลักเขตแดนหมายเลข 33 – 37 บริเวณบึงตระกวน, จุดผ่านแดนระหว่างประเทศตำบลทมอดา , พื้นที่ชายแดนโอพลุกดอมเรย, พื้นที่ชายแดนชอร์ 1 (Chor 1) และพื้นที่อื่นๆ

บริเวณลำน้ำและแนวเขตที่เป็นเส้นตรง ตามเจตนารมณ์ของบันทึกความเข้าใจจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม (JBC) ระหว่างกัมพูชาและไทย ครั้งที่ 6 เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน ณ กรุงพนมเปญ

ในโอกาสนี้  SSBA ขอเน้นย้ำว่า คณะกรรมาธิการ JBC (ฝ่ายกัมพูชา) ยึดมั่นในจุดยืนในการปกป้องเส้นเขตแดนระหว่างประเทศกัมพูชา-ไทย ตามที่ได้รับสืบทอดมาจากคณะกรรมการกำหนดเขตแดนระหว่างอินโดจีนและสยาม โดยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเต็มที่

JBC (ฝ่ายกัมพูชา) จะดำเนินการสำรวจที่ดินและปักปันเขตแดนร่วมกับ JBC (ฝ่ายไทย) โดยเร็วที่สุด เพื่อบรรลุเป้าหมายการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน และจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของเส้นเขตแดนที่เกิดจากการใช้กำลัง

SSBA ยังเรียกร้องให้ชาวกัมพูชามอบความไว้วางใจและเชื่อมั่นอย่างเต็มที่ต่อรัฐบาล และคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ฝ่ายกัมพูชา ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นมืออาชีพและความรับผิดชอบสูงสุด โดยยึดถือผลประโยชน์สูงสุดของชาติเป็นสำคัญ

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความพูดว่า "The The State Secretaria of Border Affairs hereby calls upon compatriots and the general public place their full trust and and confidence the Royal Government Cambodia and Joint Commission Demarcation Land Boundary-JBC (Cambodian Side), which steadfastly uphold the highest standards professionalism and responsibility, and consistently place the supreme national interest the forefront. particularly with regard the safeguarding of territorial integrity and national sovereignty. foregoing information is hereby conveyed for the information of compatriots and the general public. Phnom Penh, 29december2025 State Secretariat of Border Affairs 2/2"

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 31 ธันวาคม สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ออกแถลงการณ์ประเด็นสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย – กัมพูชาดังนี้ 1. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะฝ่ายเลขานุการของสภาความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ยินดีกับแถลงการณ์ร่วม (Joint Statement) ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการประชุม คณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยพิเศษ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๘ ที่สะท้อนให้เห็นความจริงใจและเจตนารมณ์ของไทยในการแก้ไขความขัดแย้งด้วยสันติวิธีผ่าน กรอบความร่วมมือระดับทวิภาคีที่ทั้งสองประเทศมีร่วมกัน โดยแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวดำเนินการภายใต้ กรอบที่สภาความมั่นคงและคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ ๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๘

2. สมช. ขอยืนยันว่าการลงนามในแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวเป็นผลจากการพิจารณาและตัดสินใจร่วมกัน ของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ โดยให้ความสำคัญสูงสุดกับการคุ้มครองชีวิต ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ของเจ้าหน้าที่และประชาชน ทั้งนี้ ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักการ แห่งสันติภาพและการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่ประเทศไทยถูกละเมิดอธิปไตย หรือถูกรุกรานอีกครั้ง ประเทศไทยมีความจำเป็นและมีสิทธิอันชอบธรรมในการใช้สิทธิในการป้องกัน ตนเองตามหลักความจำเป็นและได้สัดส่วน ภายใต้กรอบของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมาย ระหว่างประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้ปฏิบัติตามพันธกรณีดังกล่าวมาโดยตลอดอย่างเคร่งครัดและสม่ำเสมอ
3. ประเด็นการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไทย –กัมพูชา ที่ผ่านมารัฐบาล กองทัพ ภายใต้การสนับสนุนของประชาชน ได้ร่วมกันทำหน้าที่ในการปกป้อง อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนอย่างสุดความสามารถ ซึ่ง สมช. ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง ต่อความสูญเสียของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชนผู้บริสุทธิ์ อย่างไรก็ดี สมช. มีการบูรณาการ ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงาน ตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนอย่างเหมาะสม ครอบคลุม และต่อเนื่อง ตลอดจนดูแลความเป็นอยู่และความปลอดภัย ของประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่

ประเด็นด้านมนุษยธรรม ที่ผ่านมาประเทศไทยให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและ กฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองชีวิต ศักดิ์ศรี และความปลอดภัย ของบุคคลที่ไม่เข้าร่วมการสู้รบเป็นหลัก จึงนำมาซึ่งการปล่อยตัวเชลยศึกกัมพูชาจำนวน ๑๘ คน ในวันนี้ ตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติครั้งที่ ๑๘/๒๕๖๘ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทย ในการปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรมและพันธกรณีระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด

ประเทศไทยคาดหวังให้กัมพูชา แสดงท่าทีและบทบาทอย่างเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติตามหลัก กฎหมายระหว่างประเทศ และหลักมนุษยธรรมในลักษณะเดียวกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยของประชาชน เช่น การคุ้มครองสวัสดิภาพและอำนวยความสะดวก คนไทยในกัมพูชาให้กลับประเทศได้อย่างปลอดภัย การป้องกันอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์สูญเสียซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทั้งนี้ กัมพูชาต้องแสดงความจริงใจในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่เสี่ยงอย่างจริงจัง

 

 

ทั้งนี้ขอย้ำว่าการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับหลักการสำคัญของกฎหมายมนุษยธรรมระหว่าง ประเทศ ได้แก่ หลักการแบ่งแยกพลรบกับพลเรือน (Principle of Distinction) หลักความได้สัดส่วน (Proportionality) และหลักมนุษยธรรม (Humanity) รวมถึงเป็นไปตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต และโอนทุ่นระเบิดสังหารบุคคล และการท้าลายหุ่นระเบิดดังกล่าว (Ottawa Convention) ซึ่งมุ่งหมายให้รัฐภาคีงดการใช้และการกระทำใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อพลเรือนดำเนินการเก็บกู้ ทุ่นระเบิดอย่างเป็นระบบและป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความสูญเสียต่อทุกฝ่ายในอนาคต จึงเห็นว่าการยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมและการปฏิบัติตามพันธกรณีตามอนุสัญญาดังกล่าวอย่าง จริงใจ จะเป็นรากฐานสำคัญในการสร้าง ความไว้วางใจ สันติภาพ และความปลอดภัยอย่างยั่งยืน ตามแนวชายแดนและในภูมิภาคโดยรวม

6. ประเด็นการปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต -เมื่อวันที่ ๑๗ – ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๘ กระทรวงการต่างประเทศของไทยร่วมกับสำนักงานว่าด้วย ยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) จัดการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วน ระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต (Intemational Conference on the Global Partnership against Online Scams) โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า ๖๐ ประเทศ ซึ่งไทยถือว่าปัญหา ดังกล่าวเป็นภัยคุกคามร้ายแรงและเป็นปัญหาร่วมของประชาคมระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ นานาประเทศที่สนับสนุนบทบาทของไทยในเวทีดังกล่าว อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่ได้ เข้าร่วมการประชุมฯ
-ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติของไทยได้จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อการความร่วมมือในการป้องกัน และปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติรวมถึงการหลอกลวงทางไซเบอร์ และการค้ามนุษย์ร่วมกับกัมพูชา แต่การดำเนินการยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก จึงต้องการเห็นกัมพูชาร่วมมือในการดำเนินการปราบปราม อาชญากรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาดและเป็นรูปธรรม เพื่อความมั่นคงของภูมิภาค

6. ประเด็นเขตแดน การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ไทย – กัมพูชา ซึ่งไทยปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และสนธิสัญญาที่เกี่ยวข้อง และยึดถือตาม แผนที่ ๑ : ๕๐,๐๐๐ เป็นหลัก เนื่องจากมีความชัดเจน ถูกต้องแม่นยำา สอดคล้องกับภูมิประเทศจริง และลากเส้นตามฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม การประชุม JBC ที่จะมีขึ้นในอนาคด จำเป็นต้องคำนึงถึงเงื่อนไขและห้วงเวลาที่เหมาะสม เนื่องจากรัฐบาลปัจจุบันเป็นรัฐบาลรักษาการ ดังนั้น จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในอนาคตที่จะพิจารณาการดำเนินการในเรื่องดังกล่าวต่อไป ซึ่งอาจมีการทบทวน บันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาว่าด้วย การสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก (MOU 43) จึงต้องคำนึงถึงเงื่อนไขในอนาคตด้วย

7. สุดท้ายนี้ ยืนยันว่าประเทศไทยจะดำรงการปฏิบัติตามแถลงการณ์ร่วมฯ ตราบเท่าที่กัมพูชาจะดำเนินการ จามแถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทหารจะดำรงความพร้อมที่จะปกป้องอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน ความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจนความปลอดภัยสูงสุดของประชาชนเป็นสำคัญ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ออสเตรเลียเค้าท์ดาวน์ท่ามกลางมาตรการความปลอดภัยเข้ม
ไร้เงาส้มเห็นใจ "บุญฤทธิ์" คอตกนอนคุก ศาลไม่อนุญาตประกันตัว ชี้ทำผิดคดีร้ายแรง อัตราโทษสูง
สุดปีติ "ในหลวง พระราชินี" พระราชทานบัตรอวยพรปีใหม่ 2569 แก่ปวงชนชาวไทย #ขอทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
กลุ่มโจ๋นับสิบยกพวกไล่ฟันอริกลางถนนส่งท้ายปีเก่า เจ็บ 1 ราย
ผอ.อาชีวศึกษาฉะเชิงเทรา ตรวจเยี่ยม จุดบริการ อาชีวะ–ขนส่ง อาสาช่วยประชาชน รับเทศกาลปีใหม่ 2569
รองผู้ว่าฯนครสวรรค์ ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่และให้กำลังใจประชาชนที่กำลังเดินทางกลับภูมิเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2569

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​