วันที่ 31 ธ.ค. 2568 กลุ่มนักข่าวภาคสนามและสำนักข่าวอิสระในจังหวัดเชียงราย รวมตัวจัดตั้งเครือข่ายสื่อภาคประชาชนในนาม “Chiangrai Watch” เดินหน้าขับเคลื่อนประเด็นปัญหาเชิงโครงสร้างของจังหวัด พร้อมเชิญชวนว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และพรรคการเมือง ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ต่อ 5 วาระสำคัญ ที่ส่งผลต่ออนาคตและความยั่งยืนของเชียงราย
กลุ่ม Chiangrai Watch ระบุว่า การรวมตัวครั้งนี้เกิดจากการทำงานข่าวในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จนเห็นตรงกันว่าปัญหาของเชียงรายมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันหลายมิติ เกินกว่าที่หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง หรือภาคประชาชนเพียงลำพังจะรับมือได้ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากฝ่ายนโยบายและผู้แทนทางการเมือง
และเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2568 เครือข่ายได้เริ่มส่งหนังสือประสานงานไปยังว่าที่ผู้สมัคร สส. และพรรคการเมือง เพื่อเชิญเข้าร่วมกระบวนการแสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนเชิงนโยบาย โดยทางกลุ่มจะทำหน้าที่เป็นพื้นที่กลางเชื่อมโยงวิสัยทัศน์ทางการเมืองเพื่อสื่อสารไปยังประชาชนในพื้นที่ หัวใจสำคัญของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ คือการที่กลุ่ม Chiangrai Watch ได้ยื่นข้อเสนอ 5 วาระเร่งด่วน ที่เปรียบเสมือนความเป็นความตายของคนเชียงราย ให้แก่ทีมผู้สมัครและพรรคการเมือง เพื่อขอทราบแนวทางแก้ไขที่เป็นรูปธรรม สำหรับ 5 วาระสำคัญที่กลุ่ม Chiangrai Watch เสนอต่อผู้สมัคร ประกอบด้วย
วาระที่ 1 ด้านทรัพยากรน้ำ เน้นความมั่นคงของน้ำกินน้ำใช้ และปัญหาสารพิษปนเปื้อนในแม่น้ำสายหลักของจังหวัด ทั้งแม่น้ำสาย แม่น้ำรวก แม่น้ำกก และแม่น้ำโขง ซึ่งมีรายงานทางวิทยาศาสตร์ยืนยันการปนเปื้อนของสารเคมีและโลหะหนักจากกิจกรรมเหมืองในประเทศเพื่อนบ้าน สวนทางกับนโยบาย “เมืองอาหารปลอดภัย” ของจังหวัด
วาระที่ 2 ด้านความมั่นคง ว่าด้วยความปลอดภัยของพื้นที่ชายแดน และปัญหาทุนสีเทา ตั้งแต่ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ สแกมเมอร์ ไปจนถึงการฟอกเงิน ที่กำลังแทรกซึมและบิดเบือนระบบเศรษฐกิจท้องถิ่น ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
วาระที่ 3 ด้านเศรษฐกิจและปากท้อง ชี้ให้เห็นความย้อนแย้งระหว่างภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวเชิงเกษตรและสุขภาพ กับความเป็นจริงของฝุ่น PM2.5 และมลพิษสะสมในดินและน้ำ พร้อมตั้งคำถามถึงแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าชายแดน โดยไม่ผลักภาระด้านสิ่งแวดล้อมให้คนในพื้นที่
วาระที่ 4 ด้านการเมืองและประชาธิปไตย มุ่งตรวจสอบที่มาของทุนหาเสียง ความเสี่ยงในการซื้อเสียง และการใช้อิทธิพลจากธุรกิจนอกระบบ ซึ่งอาจบั่นทอนความชอบธรรมของการเลือกตั้ง และกระทบต่อผลประโยชน์ของประชาชนในระยะยาว
วาระที่ 5 ด้านวัฒนธรรมและศิลปะ ตั้งคำถามถึงการยกระดับศิลปินและแรงงานสร้างสรรค์ในเชียงราย ให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคง โดยมองว่า “เมืองศิลปะ” ควรเป็นมากกว่าภาพลักษณ์หรือคำโปรยทางการท่องเที่ยว
ตัวแทนกลุ่ม Chiangrai Watch ระบุว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างพื้นที่กลางให้ว่าที่ผู้สมัคร สส. ได้แสดงวิสัยทัศน์อย่างตรงไปตรงมาต่อโจทย์สำคัญของจังหวัด โดยข้อมูลและคำตอบทั้งหมดจะถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส และในขั้นต่อไปจะมีการจัดเวทีสาธารณะ เปิดโอกาสให้ภาคประชาชนร่วมซักถามโดยตรง
ทั้งนี้ กลุ่ม Chiangrai Watch ย้ำว่า ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศการเมืองจากการ “ฟังนโยบาย” เพียงฝ่ายเดียว ไปสู่การ “ร่วมสร้างสัญญากับประชาชน” เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของทางออกอย่างจริงจัง เพื่ออนาคตของคนเชียงรายอย่างยั่งยืน
