“อนุทิน” ไม่ปิดประตูร่วมกล้าธรรม ยึดเสียง ปชช.เป็น”ดีโค้ด” ถอดรหัสความต้องการ บอกอย่าเพิ่งกล่าวหาถ้าศาลยังไม่ตัดสิน ออกตัวไม่ได้แข่งปชน.แต่แข่งกับตัวเองเสนอนโยบาย ย้ำชัดปิดประตูพรรคคิดแก้ 112 ลั่นภูมิใจไทยไม่หลอกประชาชน เหน็บ
ไม่มีถุง ไปแขวนหน้าประตู หลังนักร้องโร่ฟ้องเอาผิด ฐานเข้าข่ายสัญญาจะให้โครงการ คนละครึ่งพลัส
เมื่อเวลา 14.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรคหาเสียงประกาศไม่เอาพรรคกล้าธรรม กดดัน พรรคภูมิใจไทยหรือไม่ หากได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลว่า ขอให้ไปรีรันรายการโหนกระแส ผู้สื่อข่าวถามว่านายกรัฐมนตรี ยังไม่ได้คิดล่วงหน้าอะไรไว้ตรงนี้ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ผมฟังการตัดสินของประชาชน เมื่อถามว่าการที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า แคนดิเดทพรรคกล้าธรรม บอกว่านายกฯพูดว่าถ้าไม่มีใครจับ ก็จับกันเอง 2 พรรค แสดงว่าหลังเลือกตั้ง ถ้าได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็ยังจะจับ มือกับพรรค กล้าธรรมใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ฟังการตัดสินของประชาชนซึ่งตนทำอย่างนี้มาโดยตลอด และตั้งแต่เป็นหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยมา ที่ผ่านการเลือกตั้ง ที่ตนดำเนินการมา 3 ครั้ง ผมฟัง และตัดสินใจ บนความต้องการ ของพี่น้องประชาชนจากการเลือกตั้ง ซึ่งได้พูดมาทุกเวที ว่า”ดีโค้ด”ถอดรหัส หรือแปลงข้อมูล จากการตัดสินใจของพี่น้องประชาชน มาเป็นความต้องการของพี่น้องประชาชนได้ และตนก็ยังยึดในหลักนี้อยู่
“ขอความกรุณาไม่ถามว่าจะไปกับใคร จะจับกับใครจะอะไรกับใคร ผมไปกับประชาชนไปกับโค้ดเดอร์ผม” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่า วันนี้ยังไม่ได้มีคำตัดสินว่าพรรคไหนใช้ทุนเทาอย่างไร คิดว่าเป็นธรรมหรือไม่ กับพรรคที่ถูกกล่าวหา นายอนุทินกล่าวว่า ก็ใช่สิครับเรายังจะไปเชื่อ การกล่าวหาหรือให้ร้าย คนใดคนหนึ่งหรือพรรคใดพรรคหนึ่ง ก่อนที่ศาลหรือก่อนกระบวนการยุติธรรมจะตัดสิน ทำอย่างนั้นคงไม่ได้มั้ง แต่ทั้งหมดสิ่งสำคัญที่สุด อีก 46 วันตนก็รู้แล้วว่าประชาชนต้องการอะไร
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่หัวหน้าพรรคประชาชน ประกาศจะตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทินกล่าวว่า ทุกพรรคแข่งกันหมดไม่ได้แปลกอะไรเลย เมื่อยามถามว่า การที่ นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะไม่จับมือกับพรรคประชาชน ขณะที่หัวหน้าพรรคประชาชนก็ออกมาประกาศชัดเจน แข่งกันในการสู้ศึกเลือกตั้ง เพื่อเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลนายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ได้แข่งกับพรรคไหน แต่เสนอนโยบายแข่งกับตัวเอง ทำอย่างไรให้ ประชาชนรับนโยบาย และเชื่อมั่นในตัว พรรคภูมิใจไทยและกาพรรคภูมิใจไทย

