“ภูมิใจไทย” แถลงทางการ เพิ่มชื่อ “สีหศักดิ์” แคนดิเดตนายกฯ ยัน “ศุภจี-เอกนิติ” ร่วมงานต่อถ้าเป็นแกนนำรัฐบาล

พรรคภูมิใจไทย มีมติเสนอชื่อบุคคลที่พรรคเห็นสมควรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 2 ท่าน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว

“ภูมิใจไทย” แถลงทางการ เพิ่มชื่อ “สีหศักดิ์” แคนดิเดตนายกฯ ยัน “ศุภจี-เอกนิติ” ร่วมงานต่อถ้าเป็นแกนนำรัฐบาล – Top News รายงาน

 

 ภูมิใจไทย
เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 พรรคภูมิใจไทย มีมติเสนอชื่อบุคคลที่พรรคเห็นสมควรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 2 ท่าน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ซึ่งทั้ง 2 ได้ตอบรับแล้ว เหตุผลที่เสนอชื่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เนื่องจากเป็นนายกรัฐมนตรี ในปัจจุบัน มีประสบการณ์การบริหารประเทศ และได้รับการยอมรับสนับสนุนจากประชาชนให้ทำงานต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่ประเทศไทยมีภัยคุกคามหลายด้าน จำเป็นต้องมีนายกรัฐมนตรีมาทำงานต่อเนื่อง และเห็นว่านายอนุทิน มีความเหมาะสมมากที่สุด
ในขณะที่ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี คนที่ 2 นั้น เนื่องจากเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ที่มากด้วยประสบการณ์ สามารถนำประเทศไทยกลับคืนสู่เวทีโลกได้อย่างสมศักดิ์ศรี อีกทั้งทำงานกับฝ่ายการเมือง และฝ่ายความมั่นคงได้อย่างเป็นเอกภาพ เป็นที่ยอมรับของประชาชน และนานาประเทศ
ส่วน นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ และ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ซึ่งเคยได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทยนั้น ทั้ง 2 ท่าน ให้การตอบรับทำงานกับพรรคภูมิใจไทย อย่างต่อเนื่อง หากพรรคภูมิใจไทย ได้รับการเลือกตั้งมากพอที่จะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ในการแถลงนโยบายพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน ได้ประกาศต่อสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งว่า ให้ไปบอกประชาชนได้เลยว่าถ้าเลือกพรรคภูมิใจไทยจะได้นางศุภจี เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2568 เวลา 13.20 น.  ที่โรงละครอักษรา ศูนย์การค้าคิงพาวเวอร์ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคว่า ตามที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ประกาศว่าแคนดิเดตนายกฯของพรรคมีนายอนุทิน เพียงหนึ่งเดียว ส่วนนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รมว.การต่างประเทศ และนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รมว.พาณิชย์ จะมาเป็นรองนายกรัฐมนตรีให้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า หมายความว่าจะใช้ชื่อนายเอกนิติ นายสีหศักดิ์ และนางศุภจี พูดตอนหาเสียงได้เลยใช่หรือไม่ ว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลทั้ง 3 คนจะกลับมา นายสิริพงศ์ กล่าวว่า นายอนุทินประกาศไปแล้วว่าถ้าได้เป็นนายกฯ ทั้ง 3 ท่านนี้จะกลับมาเป็นรองนายกฯให้ โดยมาคุมในแต่ละด้าน

 

เมื่อถามว่า การที่มีแคนดิเดตนายกฯเพียงคนเดียวจะเสียเปรียบพรรคอื่นหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งที่แล้วก็เป็นอย่างนี้ เมื่อถามอีกว่า ไม่ห่วงเรื่องอุบัติเหตุทางการเมืองใช่หรือไม่หากไม่มีแคนดิเดตนายกฯสำรอง นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีตัวสำรอง เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยได้มีการประชุมหรือไม่ว่าตั้งเป้ากว่าอี้สส.ไว้เท่าไหร่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ยังไม่มีการตั้งเป้า แต่เท่าที่ดูวันนี้มีผู้สมัครสส.ทุกเขต และปาร์ตี้ลิสต์ ก็ครบทุกคน และหวังว่าเราจะได้เยอะที่สุด ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราส่งผู้สมัคร ครบทุกเขต

ภูมิใจไทย

 

 

เมื่อถามว่า จะเป็นรัฐบาลพรรคเดียวหรือมีพรรคร่วมรัฐบาล นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ถ้าเป็นไปได้ หากได้เป็นรัฐบาลเดี่ยวก็จะสามารถทำงานได้ง่าย เราก็หวังหากประชาชนจะกรุณาให้พรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาลเดี่ยวได้ เมื่อถามว่าแนวทางในอนาคตหากจะต้องมีการร่วมรัฐบาล มีคำตอบหรือยังว่าจะจับมือกับพรรคไหนได้บ้าง นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ยัง ต้องดูหลังเลือกตั้ง และตนคิดว่าวันนี้ขั้วการเมืองต่างๆไม่ได้มีเหมือนแต่ก่อน ก็ต้องดูว่าหลังเลือกตั้งแล้วใครได้ที่หนึ่ง ใครได้ที่สองที่สาม กระทั่งใครที่บอกว่าจะจับมือใครไม่จับมือใคร ตนก็คิดว่าเป็นตัวเลขหลังเลือกตั้งมากกว่า

 

เมื่อถามว่าหลังการเปิดนโยบายแล้ว พรรคภูมิใจไทยจะส่งคนไปร่วมดีเบตในเวทีต่างๆหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า มีแน่นอน และต้องขออภัยบางรายการที่มีการดีเบตไปแล้ว แต่เป็นการดีเบตก่อนที่พรรคจะมีการแถลงนโยบาย จึงไม่ได้ส่ง ตัวแทนไป เพราะเราตั้งใจอยากจะแถลงนโยบายก่อน เมื่อถามว่านายอนุทินจะไปร่วมเวทีดีเบตเองด้วยหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ก็ต้องดูในหลายเหตุการณ์ ซึ่งนายอนุทินยังมีภาระที่ต้องทำเพราะเป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี ก็ต้องดูว่าถ้าเวลาไหนอำนวยก็จะไปให้เยอะที่สุด

เมื่อถามว่า กรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุจะไม่มีมือจากพรรคประชาชนโหวตให้นายอนุทินเป็นนายกฯ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องเป็นการคุยกันหลังเลือกตั้ง เพราะวันนี้ถ้าจากกระแสสังคมน่าจะแข่งกันเป็นเบอร์ 1 เบอร์2 ตนคิดว่าเป็นตัวเลขหลังเลือกตั้งมากกว่า เมื่อถามว่าถือเป็นการปิดทางการร่วมรัฐบาลของทั้งสองพรรคเลยหรือไม่ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า ไม่หรอกครับ เพราะยังไม่ถึงเวลา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"Gulf" มอบเงินจาก "กองทุน 100 ล้าน" ส่งต่อ 23 ครอบครัวทหารไทย พลีชีพปกป้องอธิปไตย พร้อมใช้เทคโนฯดาวเทียมช่วยภารกิจกองทัพเต็มที่
ลากไส้ "กัมพูชา" ส่งหนังสือถึง "บิ๊กเล็ก" เจตนาดึง AOT ร่วมเวที GBC หวังสร้างเงื่อนไขใหม่ สกัดไทยทำลายสแกมเมอร์ ไม่ใช่ "หยุดยิงจริง"
"เทพไท" ฟันโชะ ถ้าศาลรธน.ตัดสิทธิ 44 อดีตสส.ส้ม ลงชื่อรื้อ แก้ม.112 กระทบพรรคปชน.หนักแน่
"ไทย" ยืนยันการรื้อถอน "เทวรูปฮินดู" จัดการพื้นที่หลังยึดคืนจากกัมพูชา เผยกองทัพไม่มีเจตนาลบหลู่ศาสนา ความเชื่อ
"ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" ขอวางมือการเมือง ลาออกแคนดิเดตนายกฯ-รองหัวหน้าพรรค พปชร.
สื่อทำเนียบฯ งดตั้งฉายา “รัฐบาลอนุทิน” เหตุเป็นรัฐบาลรักษาการหลังยุบสภา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​