“รมต.อาวุโสกัมพูชา” โม้ 2 ยุทธศาสตร์สยบไทย ลั่นชัยชนะกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้กัมพูชาแล้ว

"รมต.อาวุโสกัมพูชา" โม้ 2 ยุทธศาสตร์สยบไทย ลั่นชัยชนะกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้กัมพูชาแล้ว

วันที่ 24 ธันวาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายเขียว รามี (Keo Ramy) รัฐมนตรีอาวุโสและหัวหน้าคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา ประกาศความมั่นใจว่า เส้นทางสู่ชัยชนะกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พร้อมเปิดเผยแผนยุทธศาสตร์ที่อ้างว่ากำลังทำให้ความทะเยอทะยานของฝ่ายไทยต้องล้มเหลว

นายเขียว รามี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ประเทศเล็กๆ อย่างกัมพูชา เมื่อถูกรุกรานจากประเทศที่ใหญ่กว่า จำเป็นต้องพึ่งพาปัจจัยสำคัญ 2 ประการ ประการแรก การผลักดันอย่างสูงสุดในด้านการทูตและกฎหมายระหว่างประเทศ ดังที่นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต กำลังดำเนินการอยู่

ข่าวที่น่าสนใจ

กัมพูชาได้รับผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ประเทศในประชาคมอาเซียนต่างยอมรับและสนับสนุนความชอบธรรมของกัมพูชา จากความพยายามของกระทรวงการต่างประเทศภายใต้การชี้แนะของนายกรัฐมนตรี แม้แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยเอง ก็ยังยอมรับสารภาพว่า ไม่มีประเทศใดให้การสนับสนุนไทยเลย

ส่วนประเด็นเรื่องการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง หรือคำถามที่ว่าใครเป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน? กัมพูชารู้ชัดเจนอยู่แล้วว่าไทยเป็นผู้ละเมิด แต่ต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประชาคมโลกได้รับรู้ว่า ไทยคือผู้ที่ไม่เคารพข้อตกลงหยุดยิงและเป็นผู้รุกราน ซึ่งผลลัพธ์นี้แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วผ่านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา นายเขียว รามี อ้างว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีข้อมูลจากดาวเทียมที่ยืนยันว่า ไทยเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อน

ในส่วนของการดำเนินการทางกฎหมาย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชาได้ยื่นฟ้องร้องเป็นจำนวนมาก ทั้งต่อองค์กรสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาค อาเซียน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อกลไกหลักด้านสิทธิมนุษยชนที่กรุงเจนีวา ซึ่งกัมพูชาก็ได้รับแถลงการณ์จากประธานสำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ OHCHR เรียบร้อยแล้ว เสียงและรายงานจากผู้เชี่ยวชาญอิสระ ถือว่ามีมูลค่าและน้ำหนักอย่างมากต่อการวินิจฉัยทางกฎหมาย ในสถานการณ์เช่นนี้ กัมพูชาต้องการเสียงและรายงานจากกลุ่มอิสระให้ได้มากที่สุดเพื่อเป็นประจักษ์พยานช่วยเหลือ ซึ่งการได้รับเสียงสนับสนุนจากนายโวลเกอร์ เติร์ก (Volker Turk) ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ช่วยได้มากจริงๆ

 

ประการที่สอง นอกเหนือจากการเมืองโลก นายเขียว ระบุว่าปัจจัยสำคัญคือ รั้วของชาติ โดยยกย่องทหารกัมพูชาในสมรภูมิแนวหน้า ที่สามารถท้านทานและบดขยี้ศัตรูให้อ่อนแอลง นี่คือจุดสำคัญที่จะสร้างอำนาจต่อรองให้กับกัมพูชา ย้ำว่า จุดนี้กัมพูชาสามารถทำได้สำเร็จ และต้องขอขอบคุณสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ที่เป็นผู้วางรากฐานความเข้มแข็งนี้ ซึ่งนายเขียว สรุปว่า แสงสว่างแห่งชัยชนะกำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้กัมพูชาทุกขณะแล้ว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แผ่นดินไหว 6.0 แมกนิจูดเขย่าไต้หวัน
เริ่มแล้วประชุมกองเลขาฯ GBC ไทย–กัมพูชา ที่ด่านบ้านผักกาด จันทบุรี หารือ 3 ประเด็นหลักด้านความมั่นคง
ม.ราชภัฎกำแพงเพชร จัดโครงการ เพิ่มศักยภาพชุมชน ต่อยอดผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ตลาดสากล
พสบ.ทอ. จับมือภาคีเครือข่าย มอบเงินและสิ่งของบรรเทาทุกข์ ผู้ประสบอุทกภัยหาดใหญ่
กัมพูชาสั่งปิดโรงเรียนในพระตะบองอ้างไทยส่งเครื่องบินรุกล้ำ
ออสเตรเลียยกระดับเตือนภัยในกัมพูชาวิตกเหตุสู้รบ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​