ตรวจเข้ม เฝ้าระวังสายลับ ส่งพิกัดให้เขมร แม้เป็นคนในหมู่บ้านก็ไม่เว้น หากมีพฤติกรรมต้องสงสัย ควบคุมตรวจสอบหมด

ตรวจเข้ม เฝ้าระวังสายลับ ส่งพิกัดให้เขมร แม้เป็นคนในหมู่บ้านก็ไม่เว้น หากมีพฤติกรรมต้องสงสัย ควบคุมตรวจสอบหมด

วันนี้ 12 ธ.ค. 68 ชายแดนพนมดงรัก จ.สุรินทร์ วุ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่าดงกระสุน เข้าป่าอ้อยควบคุมตัวชายต้องสงสัย ส่งพิกัดปืนใหญ่ไทย ให้เขมร

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสมนึก ภาคจันทึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ได้รับแจ้งว่ามีชายต้องสงสัยหนึ่งคน อยู่บริเวณป่าอ้อย มีพฤติกรรมลับๆ ล่อๆ หวั่นว่าจะเป็นสายลับ ส่งข่าวความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กัมพูชา

 

ชุด ชรบ. ประจำหมู่บ้าน จึงรีบเข้ามาตรวจสอบ แต่พอชายคนดังกล่าวเห็น ชรบ. ตกใจวิ่งหลบหนีเข้าไปในไร่อ้อย เหตุนี้จึงทำให้เจ้าหน้าที่กรมการปกครอง พนมดงรัก เข้ามาควบคุมตัว จนทราบว่าชายคนดังกล่าวเป็นคนในหมู่บ้าน และมีอาการเมา พูดจาวกวน พร้อมกล่าวอ้างว่า “ ผมตกใจ เอาปืนมาขู่ผมผมก็ตกใจสิ ”

 

 

ซึ่งนายสมนึก ยืนยันว่า ชรบ. เรียกให้หยุด และให้กลับเข้าบ้านแล้ว แต่ชายคนดังกล่าวกลับไม่ยอมหยุด ซ้ำยังมีท่าทีลุกลี้ลุกลน จนเกิดความสงสัยนำมาสู่การควบคุมตัวเกิดขึ้น
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปตรวจสอบเพิ่มเติม

สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงความเข้มงวดในพื้นที่ หลังจากมีกระแสข่าว ว่ามีไส้สึก กัมพูชา เข้ามาในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องตรวจตรา และตรวจสอบทุกคนที่มีลักษณะ ต้องสงสัยแม้แต่คนในหมู่บ้านก็ตาม

 

ก่อนหน้านั้น มีรายงานข่าวว่า นายภิญโญ ดีหลาย กำนันตำบลชำราก พร้อมผู้ช่วยและเจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันจับกุมสองสามีภรรยาชาวกัมพูชา ที่บ้านชำราก ต.ชำราก อ.เมือง ตราด จ.ตราด ขณะขี่รถจักรยานยนต์ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายเส้นทางถนนสาย 3 ตราด-คลองใหญ่ โดยตระเวนถ่ายมาจากด่านเขาล้าน ศูนย์ราชการุณย์สภากาชาดไทยเขาล้าน มุ่งหน้าเข้าตัวเมืองตราด แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ทหารและฝ่ายปกครองจับกุมตัวได้ ก่อนจะแจ้งสายตรวจ สภ.บ้านท่าเลื่อน มาควบคุมตัวไปสอบปากคำที่ สภ.บ้านท่าเลื่อน

เบื้องต้น สองสามีภรรยาไม่ยอมรับว่าเป็นสายลับ บอกเพียงว่าเป็นชาวกัมพูชา มีเอกสารบัตรคนต่างด้าว พักอยู่ อ.คลองใหญ่ โดยมีอาชีพรับจ้างทำความสะอาดตามบ้านชาวบ้าน และปฏิเสธเรื่องถ่ายเส้นทางและค่ายทหารไปทำไม โดยอ้างว่า ญาติจะเดินทางมา แต่มาไม่ถูก จึงต้องถ่ายเส้นทางส่งไปให้ดู ซึ่งในเรื่องดังกล่าวเจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ เพราะไม่มีเหตุผลใดที่สองสามีภรรยานี้จะมีความจำเป็นในการถ่ายเส้นทาง และค่ายทหาร และยังมีการพูดคุยกันเป็นภาษากัมพูชาในโทรศัพท์ของฝ่ายหญิง แต่โทรศัพท์ฝ่ายชายยังเปิดดูไม่ได้ เพราะไม่มีสัญญาณ จึงยึดโทรศัพท์ไว้ แจะนำไปเปิดดข้อมูลทั้งหมดในการดำเนินคดีกับสองสามีภรรยาในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีฐานไส้ศึกเผยแพร่ข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง และรอขยายผลต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ประชาชนกว่า 480 หลังคาเรือน ชื่นชม!! นายกแพรกษาใหม่ มอบเงินเยียวยาช่วยน้ำท่วม ร่วม 2 ล้านบาท
กฟผ. ชูธงผู้นำ Decarbonization Solutions ผนึก INNOPOWER - KBank – แสนสิริ - ION ขึ้นทะเบียน REC ผ่านแพลตฟอร์ม GreenPass ขับเคลื่อนไทยสู่ Net Zero อย่างเต็มรูปแบบ
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา
กฟผ. ชวนร่วมสนุก ลุ้นรางวัลใหญ่ พร้อมทำบุญ ที่ร้านกาชาด กฟผ. 11 – 21 ธ.ค. นี้
หน้าแหกยับ! "เขมร" โพสต์ชวน "ลาว - เมียนมา - มาเลเซีย" ยืนหยัดต่อสู้ไทย โดนเมนต์ตอกหงายเงิบ
"นาวิกฯไทย" ยืนหนึ่ง "ผบ.ฉก.นย.ตราด" ยันเดินหน้ารบสุด เผด็จศึกบ้าน 3 หลัง ผลงานทิ้งไข่ F-16 ถล่มทหารเขมร 6 ศพ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​