เดอะ พนมเปญโพสต์รายงานว่าพิธีเปิดการแข่งขันซีเกมส์คครั้งที่ 33 เมื่อคืนวันอังคารที่ 9 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าภาพได้ประสบความอับอายขายหน้าอย่างมากบนเวทีระหว่างประเทศ เนื่องจากเกิดความผิดพลาดใหญ่ๆหลายจุด กระทบถึงหลายประเทศ รวมทั้งกัมพูชา, เวียดนาม, อินโดนีเซียและสิงคโปร์
เดอะ พนมเปญโพสต์เยาะต่อว่าแม้ไทยจะเคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันซีเกมส์มาแล้ว 6 ครั้ง แต่การแสดงในพิธีเปิดกลับย่ำแย่อย่างเห็นได้ชัด ทั้งมีจุดผิดพลาดร้ายแรงถึง 8 ข้อ ทำให้ชื่อเสียงเสียหายอย่างมาก
เริ่มตั้งแต่พิธีเปิดที่ต้องเลื่อนออกไปราว 30 นาทีเพราะรอการเสด็จของพระเจ้าอยุ่หัว ตามต่อด้วยขบวนพาเหรดของทัพนักกีฬาจาก 11 ชาติ
เดอะ พนมเปญโพสต์ชี้ว่าความผิดพลาด 2 จุดดูเหมือนจะเป็นการจงใจดูหมิ่นกัมพูชา โดยหนึ่งในนั้นคือคำทักทายภาษาเขมรที่แสดงบนจอขนาดใหญ่มีการสะกดผิดจาก “ជម្រាបសួរ” (จุม เรียบ ซูร์ Chum Reap Suor) — สะกดผิดเป็น “ជាំរាបសួរ” ขณะที่กล่องไฟ LED แสดงสัญญลักษณ์ของ 11 ชาติสมาชิกปรากฎว่ามีเพียงกล่องไฟของกัมพูชาเท่านั้นที่ไฟดับ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการกระทำโดยเจตนามากกว่าอุบัติเหตุสะท้อนถึงทัศนคติเชิงลบซ้ำๆ จากเจ้าภาพไทยที่มีต่อกัมพูชา
นอกจากนี้ช่วงที่ทีมนักกีฬาอินโดนีเซียเดินเข้าสู่สนาม ภาพธงชาติที่แสดงบนจอกลับเป็นธงชาติสิงคโปร์ แทนที่จะเป็นธงชาติอินโดนีเซีย ซึ่งความผิดพลาดแบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในพิธีเปิดการแข่งขันฟุตบอลเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม
ขณะที่แผนที่ประเทศเวียดนามที่แสดงบนจอยักษ์ก็มีจำนวนเกาะไม่ครบ โดยขาดไป 2 เกาะ ทำให้เวียดนามออกมาประท้วง เพราะเป็นถือเป็นประเด็นเกี่ยวกับอธิปไตย
สื่อกัมพูชาแซะต่อว่าแม้แต่ช่วงพิธีการสำคัญๆ ก็ยังผิดพลาด เช่นตอนที่บรรเลงเพลงประจำการแข่งขันซีเกมส์ ปรากฎว่าธงซีเกมส์ได้ร่วงลงมาเพราะผูกไม่แน่น แต่สิ่งที่น่าอับอายมากที่สุดเห็นจะเป็นตอนพิธีจุดคบเพลิง โดยกระถางคบเพลิงมีเพียงควัน แต่ไม่มีเปลวไฟ ขณะที่พิธีกรก็พยายามพูดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ กล้องก็พยายามหลบเลี่ยงด้วยการถ่ายไกลๆ แถมช่วงปิดท้ายพิธีก็ไม่มีการจุดพลุไฟ ทั้งนี้กัมพูชาพากันคาดเดากันไปต่างๆนานาว่าอาจเป็นเพราะกระถางไม่มีไฟ หรือเป็นเพราะถูกตัดงบฯ
ทั้งนี้ทีมนักกีฬากัมพูชาได้ประกาศถอนตัวจากการแข่งขันซีเกมส์โดยอ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยเนื่องจากสถานการณ์สู้รบที่พรมแดน

