AFP รายงานว่าอเล็กซานเดร เด โมราเอส ผู้พิพากษาศาลฎีกาซึ่งตัดสินให้จับกุมโบลโซนาโรให้เหตุผลในการจับกุมอดีตผู้นำบราซิลว่าเป็นมาตรการป้องกัน เนื่องจากเขามีความเสี่ยงสูงที่จะหลบหนี ไม่ใช่นำตัวไปประหารชีวิต
โบลโซนาโรซึ่งบริหารบราซิลระหว่าง 2562-2565 ถูกตัดสินจำคุก 27 ปี หลังถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดจากการวางแผนขัดขวางไม่ให้ลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ซึ่งเป็นคู่แข่งจากพรรฝ่ายซ้าย เข้ารับตำแหน่งหลังชนะเลือกตั้งปี 2565 โดยโบลโซนาโรได้ถูกนำตัวไปกักบริเวณในคอนโดมิเนียมหรูที่กรุงบราซิเลียเมื่อเดือนสิงหาคม
อย่างไรก็ตามคำตัดสินของศาลระบุว่าโบลโซนาโรมีแผนหักกำไลข้อเท้าหลบหนี โดยฟลาวิโอ โบลโซนาโร ซึ่งเป็นลูกชายได้วางแผนระดมกลุ่มสนับสนุนให้มารวมตัวที่บริเวณหน้าคอนโดในวันเสาร์ (22 พย.) เพื่อชุมนุมประท้วงรัฐบาล จากนั้นก็จะสร้างสถานการณ์ให้เกิดการชุลมุนวุ่นวายเพื่อเปิดทางให้โบลโซนาโรหลบหนีไปยังสถานทูตสหรัฐซึ่งอยู่ไม่ไกลจากคอนโดดังกล่าว และว่าก่อนหน้านี้โบลโซนาโรเคยพยายามหลบหนีไปสถานทูตอาร์เจนตินาเพื่อขอลี้ภัยทางการเมืองมาแล้ว
ทั้งนี้โบลโซนาโรเป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ซึ่งกล่าวหาว่าการพิจารณาคดีของโบลโซนาโรเป็น “การล่าแม่มด” และได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรและภาษีศุลกากรตอบโต้รัฐบาลบราซิลของดาซิลวาเพื่อกดดันให้ปล่อยตัวโบลโซนาโร
ด้านทีมทนายความของอดีตผู้นำบราซิลประกาศจะยื่นอุทธรณ์และว่าการย้ายโบลโซนาโรเข้าเรือนจำ “อาจทำให้โบลโซนาโรอยู่ในความเสี่ยง” เนื่องจากอดีตผู้นำบราซิลวัย 70 ปีมีปัญหาด้านสุขภาพ
หลังคำพิพากษาของศาล กลุ่มต่อต้านโบลโซนาโรได้มารวมตัวกันที่ด้านนอกเรือนจำพร้อมเปิดขวดแชมเปญเฉลิมฉลองด้วยความยินดี ขณะที่กลุ่มสนับสนุนก็เดินทางมาที่หน้าเรือนจำพร้อมธงชาติบราซิลเพื่อให้กำลังใจโบลโซนาโร
โบลโซนาโรถูกตัดสินว่ามีความผิดในเดือนกันยายนฐานสมรู้ร่วมคิดกันวางแผนลอบสังหารดาซิลวา, รองประธานาธิบดี เจรัลโด อัลค์มิน และโมราเอส เพื่อหวังครองอำนาจอย่างเผด็จการ นอกจากนี้ศาลยังได้ปฏิเสธการยื่นอุทธรณ์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
