“บิ๊กเล็ก” ถกสภากลาโหม เน้นย้ำกองทัพนำคณะ AOT ลงพื้นที่เป็นพยานฝ่ายไทย ผลักดัน 200 ครอบครัวกัมพูชา หลังปักหมุดหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

“บิ๊กเล็ก” ถกสภากลาโหม เน้นย้ำกองทัพนำคณะ AOT ลงพื้นที่เป็นพยานฝ่ายไทย ผลักดัน 200 ครอบครัวกัมพูชา หลังปักหมุดหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว

วันที่ 19 พ.ย.ที่กองทัพไทย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่ 10/2568 และการตรวจเยี่ยมหน่วยเพื่อมอบนโยบายเป็นแนวทางการปฏิบัติงานส่วนราชการกองบัญชาการกองทัพไทย โดยมี พลเอก อุกฤษฎ์ บุญตานนท์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้การต้อนรับ

โดย รมว.กลาโหม ได้มอบแนวทางในการปฏิบัติราชการของกองทัพไทย โดยเน้นย้ำเรื่องหลักๆ ได้แก่

-การให้ความสำคัญอย่างสูงสุดกับการถวายความอาลัย และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้งการสนับสนุนสำนักพระราชวังและรัฐบาล

ในการจัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ เพื่อถวายพระเกียรติสูงสุด

-ภารกิจเฉลิมพระเกียรติวันที่ 5 ธันวาคม เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และยังเป็นวันชาติ วันพ่อแห่งชาติ รวมถึงวันดินโลกด้วย โดยขอให้เหล่าทัพดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย สมพระเกียรติเช่นกัน

-การปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศ โดยขอให้กองทัพไทยเร่งรัดและลงรายละเอียดการดำเนินงานให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว รวมทั้งการประสานกับส่วนราชการภายในและภายนอก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

กองทัพ เพื่อให้กองทัพมีความพร้อมสูงสุดในการรับมือกับเหตุการณ์การรุกล้ำอธิปไตย ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

พลเอก ณัฐพล ยังเน้นย้ำในเรื่องการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงระงับการปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพ หรือ Joint Declaration เพราะฉะนั้นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับกองทัพที่ต้องทำตอนนี้คือการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะบริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว และบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ซึ่งแบ่งเป็น 3 ขั้นตอนคือก่อนที่จะเข้าไปปักหมุดชั่วคราว ครั้งที่ 1 ต้องเก็บกู้ทุ่นระเบิดถึงวันที่ 17 พ.ย. 68 ครั้งที่ 2 ปักหมุดชั่วคราวเริ่มตั้งแต่ 19 พ.ย. 68 ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ โดยคำว่าปักหมุดชั่วคราวคือบริเวณเส้นเขตแดนจะมีเส้นน้ำเงินและเส้นแดง เราจะไปปักหมุดบริเวณเส้นแดง เมื่อปักหมุดเสร็จแล้วก็จะเป็นขั้นเจรจา ซึ่งภาษาที่ JBC ใช้คือการปรับถือครองที่ดิน หรือก็คือคนกัมพูชาที่อยู่ใต้เส้นแดงต้องออกไป ส่วนการออกไปก็จะมีการเจรจากันว่าจะทำอย่างไร โดยวานนี้คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา หรือ GBC เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องนี้

ทั้งนี้ ขั้นตอนปักหมุดชั่วคราว กรรมการทั้งสองฝ่ายน่าจะใช้เวลาคุยประมาณ 1 เดือน ดังนั้นวันนี้เริ่มลงมือการลงมือการปักหมุด น่าจะเสร็จประมาณกลางเดือนธันวาคม หรือไม่เกินสิ้นปีนี้ จากนั้นจะประชุม GBC ในเรื่องการปรับถือครองที่ดิน ว่าชาวกัมพูชาเกือบ 200 ครอบครัว จะทำอย่างไร และในเรื่องนี้ได้แนะนำกับหน่วยต่างๆว่าการปฎิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกู้ทุ่นระเบิดหรือการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน ขอให้เชิญ คณะครูสังเกตการณ์อาเซียน หรือ AOT เข้าไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย เพราะจากช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่าฝ่ายกัมพูชาจะสร้างสถานการณ์เตรียมพร้อมเอาไว้ และเผยแพร่ข่าวได้ทันที ดังนั้นสิ่งที่ฝ่ายไทยจะเตรียมการได้คือ พยายามเอาชุด AOT เข้าไปสังเกตการณ์ เพื่อเป็นพยานให้กับฝ่ายไทย

 

พลเอก ณัฐพล ยังบอกด้วยว่า ในที่ประชุมสภากลาโหมวันนี้ ทางกรมข่าวทหารบกได้รายงานสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้เน้นแนวทางการปฏิบัติ รวมทั้งอธิบายเพิ่มเติมในเรื่องต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นเอกภาพ และความรวดเร็วในการดำเนินงานมากขึ้น โดยนายกรัฐมนตรี มีบัญชาให้ลงนามยกร่างคำสั่งตั้ง “คณะกรรมการนโยบายความมั่นคงชายแดน” ซึ่งกรรมการประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม รมว.ต่างประเทศ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงต่างประเทศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ เป็นกรรมการในการประชุมวงเล็ก ที่จะมีการหารือกันก่อนเข้าที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อกำหนดแนวทางในการทำงานร่วมกัน หากมีปัญหาก็จะพูดคุยกันก่อน เช่นกระทรวงกลาโหมต้องการให้กระทรวงต่างประเทศตอบโต้หรือชี้แจง ก็จะมีการพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการชุดนี้ก่อน หรือกระทรวงต่างประเทศจะขอข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมก็จะสามารถใช้ช่องทางของคณะกรรมการชุดนี้ได้ เพื่อให้การทำงานดีขึ้น ซึ่งรูปแบบการทำงานคล้ายกับ ศบ.ทก. ที่ผ่านมา แต่ดีตรงที่ว่านายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธานเอง ก็ถือว่ามีอำนาจในการตัดสินใจ หากนายกรัฐมนตรีติดภารกิจก็สามารถมอบให้รองนายกฯ มาประชุมแทนได้

ส่วนการปักหมุดชั่วคราว จะไปขัดแย้งกับท่าทีชะลอการประชุม GBC ก่อนหน้านี้หรือไม่ พลเอก ณัฐพล ชี้แจงว่า ที่ผ่านมาตนแสดงท่าทีไปแล้วว่าจะขอไม่ประชุม GBC กับทางกัมพูชาจนกว่าจะแก้ไขปัญหาชายแดนได้ และปกติแล้วการประชุม GBC เกิดขึ้นปีละครั้ง ส่วนที่มีการประชุมเพิ่มเติมขึ้นมา 2 ครั้ง เป็นการประชุมในวาระวิสามัญ

ทั้งนี้ การทำงานของ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC จะพูดคุยเฉพาะเรื่องปักปันเขตแดน แต่เมื่อมีเรื่องของคนและกำลังพลมาเกี่ยวข้อง จึงอยากให้มีการประชุม GBC ดังนั้นคณะรัฐมนตรีจึงได้มอบหมายให้มีการประชุม GBC และตนก็ไม่ได้ขัดข้องกับคำพูดที่ได้เคยพูดไว้ เพราะเมื่อคณะรัฐมนตรีสั่งก็ต้องปฏิบัติ แต่หากจะมีการพูดคุย GBC ครั้งต่อไป จะพูดคุยเฉพาะในกรอบบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว เท่านั้น ไม่พูดถึงประเด็นอื่นๆ เช่น การถอนอาวุธ

นอกจากนี้ พลเอก ณัฐพล ยังเน้นย้ำให้ผู้บังคับบัญชา ดูแลสวัสดิการความเป็นอยู่ของกำลังพลตามแนวชายแดน โดย พลเอก อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยกลาโหม มีความคุ้นเคยกับส่วนราชการต่างๆ จึงประสานการดำเนินการตามนโยบาย “น้ำไหล ไฟสว่าง ทางดี มีสัญญาณโทรศัพท์” เพื่อให้กำลังพลที่ปฏิบัติราชการชายแดน มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำทั้ง 8 กองกำลัง แต่ความเร่งด่วนตอนนี้จะให้กับทางฝั่งตะวันออกก่อน โดยในอนาคตก็จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล ให้ครบ 8 กองกำลังรอบประเทศ

พลเอก ณัฐพล ได้ขอบคุณสื่อมวลชนที่ช่วยทำความเข้าใจกับประชาชน ที่ทำให้มีความเข้าใจมากยิ่งขึ้นกับสถานการณ์ชายแดน โดยเฉพาะเวลาที่มีข่าวปลอม หรือ เฟกนิวส์ สื่อมวลชนไทยก็จะให้ข้อมูลหักล้างเฟคนิวส์เหล่านั้น ทำให้เชื่อมั่นว่าหากมีเฟคนิวส์จากกัมพูชามา แล้วสื่อไทยทุกสื่อร่วมกันให้ข้อมูลหักล้าง เฟคนิวส์จากกัมพูชาก็จะไม่มีผล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คนรักสัตว์ห้ามพลาด!กับงาน "Pet Family Present by World of Pet" จัดยิ่งใหญ่อลังการส่งท้ายปี
"อัจฉริยะ" ร้องดีเอสไอสอบผิด "บิ๊กต่าย" อ้างหลักฐานคลิปเสียง คุณหญิงอ้างเบื้องสูง รับวิ่งเต้นซื้อขายตำแหน่ง ตร.
อ.เวียงเชียงรุ้ง เตรียมดัน “วัดเวียงเชียงรุ้ง” เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สู่แลนด์มาร์คใหม่ของ จ.เชียงราย
“บิ๊กเล็ก” ถกสภากลาโหม เน้นย้ำกองทัพนำคณะ AOT ลงพื้นที่เป็นพยานฝ่ายไทย ผลักดัน 200 ครอบครัวกัมพูชา หลังปักหมุดหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว
โปรดเกล้าฯ เรียกคืนเครื่องราชฯ-เหรียญรัตนาภรณ์ "น.ส.จุฑาทิพย์ วิลาด"
ตำรวจรวบ 2 ผัวเมีย ลอบขนไอซ์ 500 กก. ใช้รถบรรทุกฟางอำพราง เตรียมส่งอยุธยา ค่าจ้าง 1 ล้านบาท

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​