“ศาล รธน.” ตีตกคำร้อง เอาผิด “อนุทิน-เท้ง ณัฐพงษ์” ทำ MOA ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

"ศาล รธน." ตีตกคำร้อง เอาผิด "อนุทิน-เท้ง ณัฐพงษ์" ทำ MOA ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย

วันที่ 19 พ.ย.2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาคดีที่สำคัญและเป็นที่สนใจ จำนวน 9 เรื่อง โดยมีคดีที่น่าสนใจคือ คดีที่นายนิยม นพรัตน์ ยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 กล่าวอ้างว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผู้ถูกร้องที่ 1 และนายณัฐพงษ์ เรื่องปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลง หรือ MOA ตกลงให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสังกัดพรรคประชาชน พิจารณาให้ความเห็นชอบ นายอนุทินดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และให้นายณัฐพงษ์ปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายค้านเพื่อนำไปสู่การแก้ไขหรือจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยมิได้ดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนหรือกระบวนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตาม รัฐธรรมนูญ หมวด 15 อันเป็นการได้มาซึ่งอำนาจฝ่ายบริหารที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ โดยอาศัยมติพรรคการเมืองยินยอมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตกอยู่ภายใต้ข้อผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ โดยมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กันไว้ล่วงหน้า เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพโดยไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 114 เป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

ทั้งนี้ผู้ร้องยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด และอัยการสูงสุดมีหนังสือแจ้งว่าการกระทำของผู้ถูกร้องทั้งสอง มิได้เป็นการฝ่าฝืนต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 อีกทั้งยังไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าเป็น การใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จึงมีคำสั่งไม่รับดำเนินการตามที่ร้องขอ

 

โดยผลการพิจารณา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า MOA ระหว่าง ผู้ถูกร้องที่ 1 กับผู้ถูกร้องที่ 2 เป็นการเจรจาหรือการประกาศเจตจำนงทางการเมืองร่วมกัน ไม่ปรากฏ ข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานอื่นที่ชัดเจนเพียงพอที่แสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถูกร้องทั้งสองกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิ หรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 วรรคหนึ่ง กรณีไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และเมื่อมีคำสั่ง ไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว คำขออื่นย่อมเป็นอันตกไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สมาพันธ์เวลเนสไทยเดินหน้าจับมือทุกภาคส่วนหนุนไทยเป็นท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ(Wellness Tourism)อย่างยั่งยืน
เชียงใหม่-ผนึกกำลังพันธมิตรภาครัฐและเอกชนเปิดเทศกาล “นมฟาร์มดอย” ดื่มนมไทย ช่วยเกษตรกรไทย
"ภูมิใจไทย" ประกาศยุทธศาสตร์รุก กทม. เปิดตัว "ลลิตา ฤกษ์สำราญ" คืนสู่สังเวียนการเมือง มั่นใจปักธงกทม.ได้แน่นอน
"อนุทิน" จัดเต็ม "เอกนิติ-ศุภจี" ร่วมทีมแคนดิเดตนายกฯภูมิใจไทย แย้ม 23 พ.ย.ให้รอดู "วราวุธ-สนธยา" มาพรรค
ตาคลี เปิดโครงการขับเคลื่อนนโยบายระดับชาติ ฟอกไตฟรีได้ทุกแห่ง และขยายบริการปลูกถ่ายไต
สพฐ. ยกระดับการสอนภาษาจีน ใช้ AI เสริมการประเมินทั่วประเทศ พร้อมกำชับ 16 เขตพื้นที่ชายแดนเฝ้าระวังเข้ม-เพิ่มรายงานสถานการณ์วันละ 2 ครั้ง

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​