“สันติสุข” โพสต์จบข่าว..แยกย้าย ยันคำวินิจฉัยศาลรธน.ให้ “นายกฯอิ๊งค์” พ้นหน้าที่ ไม่มีปัญหาข้อกม.ว่าด้วยตุลาการคนเก่า-ใหม่

"สันติสุข" โพสต์จบข่าว..แยกย้าย ยันคำวินิจฉัยศาลรธน.ให้ "นายกฯอิ๊งค์" พ้นหน้าที่ ไม่มีปัญหาข้อกม.ว่าด้วยตุลาการคนเก่า-ใหม่

“สันติสุข” โพสต์จบข่าว..แยกย้าย ยันคำวินิจฉัยศาลรธน.ให้ “นายกฯอิ๊งค์” พ้นหน้าที่ ไม่มีปัญหาข้อกม.ว่าด้วยตุลาการคนเก่า-ใหม่

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากกรณีที่มีรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดยนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึง ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติ 6 ต่อ 3 เสียงวินิจฉัยให้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี

 

เนื่องจากปรากฎข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญที่อาจส่งผลต่อความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ กล่าวคือเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่ง ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไปแทนนายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้นเมื่อมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายสราวุธ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคมแล้ว แม้ตามมาตรา 17 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธธรรมนูญ พ.ศ.2561 จะบัญญัติให้ตุลาการศาลรัฐธธรรมญที่พันจากตำแหน่งตามวาระ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่ก็ตาม

 

แต่เนื่องจากเรื่องพิจารณาที่ 17/2568 เป็นคดีที่มีความสำคัญกับการวินิจฉัยว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลงหรือไม่ ดังนั้นเมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้นายปัญญา ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่พันจากตำแหน่งตามวาระแล้ว เข้าพิจารณาคดีที่มีความสำคัญดังกล่าวด้วย

ดังนั้นการที่นายปัญญาได้ร่วมพิจารณาและลงมติดังกล่าว จึงอาจมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมายของการพิจารณา และวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งเทียบเคียงได้กับกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยมีมติให้เพิกถอนกระบวนพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญในการประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 กรณีที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา มีหนังสือที่ สว 0008/0444 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2567 เรื่อง การแต่งตั้งประธานศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถึงสำนักงานศาลรัฐธธรรมนูญ เพื่อแจ้งให้ทราบว่ามีประกาศพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ เป็นประธาน ศาลรัฐธรรมนูญและ นายสุเมธ รอยกุลเจริญ เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป

ข้าพเจ้าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามรายชื่อท้ายคำร้องฉบับนี้ เห็นว่า กระบวนพิจารณาและการลงมติของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2568 อาจมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย จึงขอความกรุณา ประธานสภาผู้แทนราษฎรได้โปรดส่งคำร้องนี้ไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาและชี้แจงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ผลเป็นประการใดขอได้โปรดแจ้งไห้ทราบด้วย จักขอบคุณอย่างยิ่ง

อนึ่ง ศาลรัฐธรรมนูญควรจะพิจารณาด้วยว่า เหตุใดกระบวนการส่งพระบรมราชโองการไปยังศาลรัฐธรรมนูญจึงล่าข้าเกินกว่าเหตุ ผู้รับผิดชอบมีเจตนาจะจัดส่งให้ล่วงเลยเวลาวันที่ 29 สิงหาคม 2568 อันเป็นวันที่พระบรมราชโองการมีผลใช้บังคับหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อให้ตุลาการคนเดิมซึ่งพ้นจากตำแหน่งแล้ว ยังจะมีสิทธิวินิจฉัยคดีได้ เนื่องจากผู้รับผิดชอบในการรับสนองพระบรมราชโองการกับผู้ร้องในคดีนี้เป็นบุคคลคนเดียวกัน

ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีการโปรดเกล้าฯนายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแทน นายปัญญา อุดชาชน ลงวันที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญลงมติ เรื่องคุณสมบัติของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ขาดคุณสมบัติจากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภา กัมพูชานั้น

รายงานข่าวจากสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญชี้แจงว่า ไม่ถือว่าส่งผลกระทบต่อการประชุมและพิจารรณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากตอนที่พิจารณานั้น แม้มีการโปรดเกล้าฯ แต่คำสั่งดังกล่าวก็ยังมิได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

อีกทั้ง พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ มาตรา 16 กำหนดให้ ก่อนเข้ารับหน้าที่ ตุลาการต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์ด้วยถ้อยคํา
ดังต่อไปนี้

“ข้าพระพุทธเจ้า (ชื่อผู้ปฏิญาณ) ขอถวายสัตย์ปฏิญาณว่า ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดี
ต่อพระมหากษัตริย์ และจะปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยด้วยความซื่อสัตย์สุจริตโดยปราศจากอคติทั้งปวง

 

เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่ประชาชน และความสงบสุขแห่งราชอาณาจักร ทั้งจะรักษาไว้และปฏิบัติตาม

ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและกฎหมายทุกประการ”

จึงเท่ากับว่านายสราวุธ ยังไม่สามารถทำหน้าที่ได้ อีกทั้งหากไม่ได้ร่วมพิจารณาคดีมาก่อน แม้จะมีการถวายสัตย์ฯแล้ว ก็ยังไม่สามารถร่วมเป็นองค์คณะพิจารณาวินิจฉัยได้

ด้านแหล่งข่าวจากศาลรัฐธรรมนูญอีกคน  ยืนยันว่าขณะนี้สำนักงานได้รับแจ้งว่ามีประกาศแต่งตั้งนายสราวุธ ทรงศิวิไล เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าจะมีประกาศแต่งตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ออกมาตรงกับวันที่ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยนั้น แต่ตามขั้นตอนต้องรอให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ เข้าพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯก่อนเข้าทำหน้าที่ จึงจะสามารถเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้

ดังนั้น คดีดังกล่าวตุลาการฯคนใหม่ จะไม่สามารถร่วมลงมติพิจารณาวินิจฉัยได้ เนื่องจากไม่ได้เป็นตุลาการฯที่ร่วมพิจารณาคดีมาตั้งแต่ต้นหรือตั้งแต่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย

กรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า จะมีผลกับการตัดสินคดีหรือไม่นั้น สำหรับตุลาการฯที่พ้นวาระ ต้องอธิบายว่า คดีดังกล่าวมีการพิจารณาคดี มีการทำคำวินิจฉัยส่วนตนมาก่อนที่จะมีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้นองค์คณะตุลาการฯชุดปัจจุบัน รวมทั้งนายปัญญา อุดชาชน ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ซึ่งกระบวนการและขั้นตอนเป็นไปตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่มีบางพรรคการเมืองจะมีการยื่นคำร้องยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร ส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความวินิจฉัยความชอบตามรัฐธรรมนูญนั้น ขอไม่ออกความเห็นดังกล่าว เพราะยังไม่มีการยื่นคำร้องหรือส่งหนังสือมาถึงศาลรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด

 

 

ล่าสุดวันนี้ (2 ก.ย.) นายสันติสุข มะโรงศรี ผู้ประกาศข่าวท็อปนิวส์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า  คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีปัญหาเลยครับ ว่าตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561

 

“ก่อนเข้ารับหน้าที่” ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญคนใหม่ จะต้องถวายสัตย์ฯ เสียก่อน จึงจะเข้ารับหน้าที่ได้
และกฎหมายกำหนดว่า “ให้ตุลาการที่พ้นจากตำแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าตุลาการที่แต่งตั้งขึ้นใหม่จะเข้ารับหน้าที่”

 

 

เมื่อตุลาการคนใหม่ยังไม่ได้เข้ารับหน้าที่ เพราะยังไม่ถวายสัตย์ฯ ดังนั้น ตุลาการคนเก่าก็ทำหน้าที่ต่อไป จนกว่าตุลาการคนใหม่จะถวายสัตย์ฯ และเข้ารับหน้าที่ เท่านั้นเองครับ
จบข่าว หมดประเด็น แยกย้าย 555

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบจ.พิษณุโลก เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ ต.วังพิกุล อ.วังทอง
"กระทรวงวัฒนธรรม" เปิดกิจกรรมโขนเยาวชนชายแดนใต้ ภายใต้โครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรม
โจรบาปหนา ยกตู้บริจาควัดหนองไผ่ ครั้งที่ 5 เจ้าอาวาสวอนเลิกเถิด–พร้อมให้อโหสิ หากกลับใจ
“PHIST 2025” ต้อนรับผู้เข้าร่วมกว่าพันคน เปิดเวทีชั้นนําของเอเชีย เพื่อพัฒนาการบริการที่ยั่งยืน
"สรวงศ์" แจงปมยุบสภาฯ แค่สื่อแนวคิดคืนอำนาจให้ปชช. ยันยังไม่มีการทูลเกล้าฯ
"อธิการบดี" มรภ.สุรินทร์ ชี้แจงไร้ส่วนเกี่ยวข้อง ปม "นศ.เขมร" ลาออก ก่อนจับปืนสู้ทหารไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​