วันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เวลา 09.00 น. ที่ สภ.ภูเพียง นาย บัง (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ชาวอำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย ผู้ต้องหาคดีเงินกู้นอกระบบ ก่อเหตุล็อกประตูบ้านขังยายและหลานวัยเพียง 6 เดือน ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีชุดสืบสวนจาก สภ.ภูเพียง, กก.สืบสวน ภ.จว.น่าน และ กก.สืบสวน ภ.5 ร่วมรับมอบตัว

ทั้งนี้สืบเนื่องเมื่อ 12 พฤศจิกายน 2568 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่า มีกลุ่มเงินกู้นอกระบบบุกไปทวงหนี้ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง จ.น่าน และเมื่อไม่พบลูกหนี้ กลับ ล็อกประตูขังคนในบ้าน ซึ่งเป็น ยายและหลานวัย 6 เดือน ไว้เพียงลำพัง เพราะลูกหนี้ออกไปทำงานไม่ได้อยู่บ้าน เมื่อผู้ใหญ่บ้านเข้าช่วยเหลือ พบแม่กุญแจถูกล็อกจากด้านนอก ต้องงัดออกเพื่อช่วยยายและหลานออกมาอย่างปลอดภัย

ยายให้ข้อมูลว่า ลูกสาวกู้เงิน 5,000 บาท จากโพสต์เฟซบุ๊กเพื่อนำมาซื้อนมและผ้าอ้อมให้ลูก โดยต้องผ่อนวันละ 300 บาท เป็นเวลา 20 วัน จ่ายมาแล้ว 11 งวด แต่วันที่เกิดเหตุ ค้าง 1 งวด เพราะยังไม่ได้รับค่าจ้าง กระทั่งเจ้าหนี้มาทวงและก่อเหตุดังกล่าว

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ดเรศ กัลยา ผบก.ภ.จว.น่าน สั่งตั้งชุดเฉพาะกิจติดตามตัวทันที โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องหาเช่าห้องพักอยู่ในอำเภอเมืองน่าน แต่เมื่อไปถึงพบว่า หลบหนีออกนอกพื้นที่แล้ว จึงไล่ติดตามต่อไปยังภูมิลำเนาที่ จ.สุโขทัย แต่ไม่พบตัว จนสุดท้ายชุดสืบสวน ภาค 5 สืบจนทราบแหล่งหลบซ่อนของผู้ต้องหา จึงกดดันอย่างหนัก จนนายบัง ยอมเดินทางกลับมามอบตัวที่ สภ.ภูเพียง ในวันนี้
นายบังรับสารภาพว่า เป็นผู้ปล่อยเงินกู้จริง แต่ ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนล็อกประตูขังยายและหลาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้ง 6 ข้อหาหนัก คือ ประกอบกิจการเงินกู้โดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินกฎหมายกำหนด, ประกอบธุรกิจทวงหนี้โดยไม่จดทะเบียน, ทวงหนี้ด้วยการข่มขู่ใช้ความรุนแรง, บุกรุกเคหสถานรบกวนการครอบครอง และทำให้ผู้อื่นกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ ก่อนคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ภูเพียง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป





