“พิพัฒน์” ลงพื้นที่นครฯ มอบนโยบายรับมืออุทกภัย ขับเคลื่อนแผนรัฐบาลเพื่อประชาชน

วันที่ 6 ต.ค. 2568  นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เดินทางไปยังหอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานด้านการเตรียมการป้องกันอุทกภัยปี 2568 พร้อมติดตามความพร้อมของจังหวัดในการรับมือสถานการณ์ภัยธรรมชาติ โดยมีนายสมชาย ลีหล้าน้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครศรีธรรมราช และ หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด นายอำเภอ นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับมอบนโยบายอย่างพร้อมเพรียง

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมด้านการบริหารจัดการน้ำ และมอบแนวทางขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลจริงในระดับพื้นที่ เพื่อให้ “ทุกนโยบายเดินไปในทิศทางเดียวกัน และเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชน” จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูง เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของภาคใต้ตอนล่าง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากมานานหลายสิบปี โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ รัฐบาลจึงมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนอยู่ได้อย่างมั่นคง ปลอดภัย และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

โดย การเตรียมการรับมืออุทกภัย ปีนี้สภาพอากาศแปรปรวนและมีแนวโน้มฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของภาคใต้ รัฐบาลจึงให้ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดนครศรีธรรมราช จัดทำแผนป้องกันอุทกภัยอย่างเป็นระบบและครอบคลุมทุกด้าน การป้องกันอุทกภัยและการพัฒนาประเทศ ไม่ใช่ภารกิจของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่เป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคท้องถิ่น ภาคเอกชน และประชาชน เมื่อทุกฝ่ายร่วมแรงร่วมใจทำงานไปในทิศทางเดียวกัน จังหวัดนครศรีธรรมราชจะสามารถก้าวข้ามปัญหาภัยธรรมชาติ และพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน นอกจากนี้แล้วยังได้ฝากถึง การขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาลสู่การปฏิบัติจริง มีแนวนโยบายสำคัญ 5 ด้านที่ทุกจังหวัดต้องร่วมกันขับเคลื่อน ได้แก่ 1.ด้านเศรษฐกิจ: ดำเนินโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้ให้ประชาชน 2.ด้านความมั่นคง: แก้ไขปัญหาชายแดนด้วยสันติวิธี ควบคู่กับการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในประเทศ 3.ด้านสังคม: ปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมออนไลน์ ภายใต้นโยบาย ผู้เสพคือผู้ป่วย ผู้ค้าต้องถูกดำเนินคดี 4.ด้านภัยธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม: เร่งติดตั้งระบบเตือนภัยในพื้นที่เสี่ยง ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน 5.ด้านการบริหารภาครัฐ: ปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคภายใต้โครงการ “Guillotine Law Reform” เพื่อให้ระบบราชการคล่องตัว โปร่งใส และตอบสนองประชาชนมากขึ้น

กัญญาณัฐ  เพ็ญสวัสดิ์ ศูนย์ข่าว TOPNEWS ทั่วไทย ภาคใต้

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โฆษกทบ.ยันข่าว กองทัพเตรียมปล่อยเชลยศึกกัมพูชา เรื่องจริง เหตุผลเพราะ ทหารเขมรถอนอาวุธหนัก ไม่ขัดขวางเก็บกู้ทุ่นระเบิด
บช.ศ. เปิดเวที ‘บุหรี่ไฟฟ้าคือภัย หมวกนิรภัยคือทางรอด’ ป้องเยาวชนไทย
ภูเก็ตบูรณาการเข้ม จับชาวต่างชาติป่วนเมือง ติดสติกเกอร์โฆษณาสิ่งเสพติด
รพ.ตำรวจ เชิญร่วมงาน “สานต่อความสำเร็จ ผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์ครบ 200 ราย”
คณะกรรมการฝ่ายจัดสร้างพระเมรุมาศฯ มอบกรมศิลปากรดำเนินการจัดสร้างพระเมรุมาศฯ ให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคม 2569
ภูเก็ตเดินหน้าพัฒนา “สนามบินระยะที่ 2” เพิ่มศักยภาพรองรับผู้โดยสารทะลุ 18 ล้านคนต่อปี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​