เมื่อวันที่ 31 ต.ค. – 2 พ.ย. 68 จังหวัดเชียงรายได้จัดงาน “Chiang Rai Fashion On The Road Season 3 : Chiang Rai Fashion To The World” ณ บริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-เมียนมา อ.แม่สาย เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นท้องถิ่นและส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ โดยมีนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดงาน และมีตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยว ให้ความสนใจมาร่วมในกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รอง ผวจ.เชียงราย กล่าวว่า งานนี้เป็นการแสดงศักยภาพของผู้ประกอบการแฟชั่นภายใต้ตราสัญลักษณ์ “เชียงรายแบรนด์” ซึ่งมีจุดเด่นจากการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของท้องถิ่น โดยเฉพาะความงดงามของ “ผ้าชาติพันธุ์” ผสมผสานกับแฟชั่นสมัยใหม่ เพื่อยกระดับสู่เวทีระดับแนวหน้าของประเทศ กิจกรรมสำคัญภายในงานประกอบด้วย แฟชั่นโชว์ชุดสุดตระการตา มีการแสดงแฟชั่นโชว์กว่า 200 ชุด จากดีไซเนอร์รุ่นใหม่และมืออาชีพทั้งในและต่างประเทศ ที่ถ่ายทอดแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานผ้าไทยและผ้าท้องถิ่นเข้ากับแฟชั่นร่วมสมัย และมีการจัดงานคู่ขนานกับงาน ” Chiangrai Premium Market มหกรรมสินค้าคุณภาพเชียงรายสู่ตลาดโลก” โดยสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงราย ซึ่งรวบรวมสินค้ากลุ่ม GI, Chiang Rai Brand และสินค้า Wellness กว่า 100 บูธ มาจัดแสดงและจำหน่าย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน
ภายในงานยังมีการจัดกิจกรรมของชมรมร้านค้า ร้านอาหาร บริเวณหน้า สภ.แม่สาย มีการแสดงศิลปวัฒนธรรมล้านนา และในช่วงท้ายของการแสดงแฟชั่นโชว์ชุดผู้ประกอบการ “เชียงรายแบรนด์” รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายได้มอบโล่รางวัลเพื่อเป็นเกียรติและกำลังใจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการแฟชั่นท้องถิ่นที่เข้าร่วมแสดงศักยภาพรวม 9 ราย โดยผู้ประกอบการเหล่านี้ถือเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมแฟชั่นของจังหวัดเชียงรายแบรนด์ และผู้ประกอบการส่วนหนึ่งที่ได้รับโล่รางวัล ในฐานะผู้นำเสนอผลงานผ้าชาติพันธุ์และผ้าพื้นเมืองสู่แฟชั่นร่วมสมัย ประกอบด้วย CHABA, นวลจันทร์, ภัทรนันท์ (Patnan Design), ไทลื้อ (กลุ่มผู้ประกอบการผ้าไทลื้อ), D’LUX, และผู้ประกอบการรายอื่นๆ รวมทั้งสิ้น 9 แบรนด์
งาน “Fashion On The Road Season 3” จึงถือเป็นเวทีสำคัญในการต่อยอดศักยภาพด้านแฟชั่นดีไซน์ของจังหวัดเชียงราย และตอกย้ำความมุ่งมั่นในการผลักดัน Soft Power ด้านแฟชั่นและผ้าไทยของชาติพันธุ์สู่ระดับโลกอย่างยั่งยืน
