ตร.บุกทลายรังจีนเทา หนีหมายแดงคดีฉ้อโกง 500 ล้านบาท ซุกทาวน์โฮมหรู

ตร.บุกทลายรังจีนเทา หนีหมายแดงคดีฉ้อโกง 500 ล้านบาท ซุกทาวน์โฮมหรู

วันนี้ (29 ต.ค. 68) เมื่อเวลา 12.30 น. พล.ต.อ.สําราญ นวลมา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำกำลังตำรวจนครบาล พร้อมหมายค้น บุกเข้าตรวจสอบทาวน์โฮมหรู ย่านซอยสหการประมูล เขตวังทองหลาง เพื่อทลายรังกบดานของกลุ่ม “จีนเทา” และจับกุมผู้ต้องหาอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญ ที่ทางการจีนต้องการตัวได้สำเร็จ

จากการตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมคือ นายเหลียง ไอปิง ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตาม หมายแดงของตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) ในฐานะสมาชิกแก๊งฉ้อโกงข้ามชาติ มูลค่าความเสียหายที่ทางการจีนแจ้งมาสูงถึง 100 ล้านหยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 ล้านบาท

 

ข่าวที่น่าสนใจ

จากการตรวจค้นบ้านพักหรูหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบ อาวุธปืนหนึ่งกระบอก ซึ่งมีทะเบียนเป็นชื่อคนไทย อยู่ระหว่างการขยายผล นอกจากนี้ ยังพบ ธนบัตรทั้งเงินหยวนและเงินบาทจำนวนหนึ่ง และที่สำคัญคือการพบ กระเป๋าดิจิตอล (Digital Wallet) ที่เจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นที่เก็บเงินดิจิทัลทั้งหมดที่ได้จากการฉ้อโกง รวมถึงเอกสารและหลักฐานอื่น ๆ อีกจำนวนมาก

การจับกุมครั้งนี้ เป็นการขยายผลมาจากการระดมกวาดล้างอาวุธปืนเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งพบความเชื่อมโยงว่า นายเหลียง มีการหลบหนีและพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงได้ประสานทางการไทยให้ช่วยตรวจสอบ จนนำมาสู่การตรวจค้นและจับกุมในที่สุด

 

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายเหลียง เดินทางเข้าประเทศไทยโดยใช้ ช่องทางธรรมชาติ ในพื้นที่หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ตั้งแต่วันที่ 4 ธันวาคม ปี 2567 โดยได้รับคำแนะนำจากกลุ่มแก๊งคนจีน และมีการว่าจ้างคนกลางซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติ ให้ติดต่อจ่ายเช่าบ้านหรูหลังดังกล่าวให้ในราคาสูงถึงเดือนละ 140,000 บาท และพักอาศัยอยู่ตลอดระยะเวลา 11 เดือนที่ผ่านมา

สำหรับคดีที่เกิดขึ้นในประเทศจีน ทางการจีนได้แจ้ง ดำเนินคดีกับนายเหลียงในความผิดฐาน หลอกลวงและฉ้อโกงประชาชนชาวจีนกว่า 100 ราย โดยนายเหลียงเป็นหนึ่งในกลุ่มแก๊งที่จัดตั้งแพลตฟอร์มการลงทุนสกุลเงินดิจิทัลปลอมที่ชื่อว่า “FINTOUC” บนอินเทอร์เน็ต และโฆษณาผ่านแอปพลิเคชันมือถือเพื่อหลอกลวงนักลงทุน

 

 

อย่างไรก็ตาม นายเหลียงยังคงให้การปฏิเสธว่า ไม่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงดังกล่าว แต่เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ดำเนินคดีในข้อหา หลบหนีเข้าเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต ไว้ก่อน ส่วนรายละเอียดและเส้นทางการเงินดิจิทัลจะมีการขยายผลต่อไป

ด้านเจ้าของบ้าน (เบลอหน้า) ซึ่งเป็นสามีภรรยาคู่หนึ่งให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า กลุ่มคนร้ายได้มาติดต่อขอเช่าบ้านผ่านเอเจนซี่ โดยตนเองไม่ทราบว่า ผู้ต้องหาเป็นใครมาจากไหน ทราบเพียงว่า มาเช่าเพื่อพักอาศัยและจะจดทะเบียนบริษัทภายหลัง เริ่มเช่าตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ราคา 140,000 บาทต่อเดือน เดิมทีมีผู้อาศัยประมาณ 5-7 คน มีแม่บ้านดูแล และมีบุคคลหมุนเวียนเข้าออกอยู่ตลอด แต่ช่วงหลังเห็นเพียงผู้ต้องหา และแม่บ้านเท่านั้น

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งขยายผลว่า มีกลุ่มแก๊งฉ้อโกงของนายเหลียงพัด ใช้ประเทศไทยเป็นที่ซ่อนตัวเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รวมถึงขยายผลไปยังกลุ่มบุคคลที่ให้ความช่วยเหลือในการพาเข้าประเทศและเส้นทางการเงินดิจิทัลที่ตรวจพบ.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"อดีตกรรมการกสทช." จวกแรง "อย." แพร่ผลทดสอบ "ยาดมสมุนไพร หงส์ไทย" มักง่ายเกิน ไม่สนใจธุรกิจฉิXหาย หลังออกตัวแจง ยันรุ่นการผลิตอื่นใช้ได้ปกติไร้ปัญหา
กำแพงเพชร จัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
จ.นครสวรรค์ และเทศบาลนครนครสวรรค์ จับมือซีพีเอฟ ชวนร่วมงาน "คาราวานซีพีเอฟ ช่วยลดค่าครองชีพประชาชน" เดินหน้าสนับสนุนกีฬามวย ใน "ศึก CPF มวยมันส์สนั่นโลก"
อำเภอบางปะอิน เตรียมจัดงาน “วัฒนธรรมแห่งสายน้ำ สืบสานประเพณี วิถีบางปะอิน เมืองรักษ์โลก”
เปิดใจนักแสดงโขนหน้าพระพักตร์ "สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง" "โขน" ฟื้นคืนด้วยพระบารมี
“แห่งแรกของเอเชีย” โรงน้ำแข็งธารทอง (เชียงใหม่) ลดพลังงาน ลดค่าไฟ ด้วย AI Transformer (NiA)

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​