“ก.ต่างประเทศ” เปิดชุดความรู้เกี่ยวกับ MOU 43 หวังสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชน ก่อนการทำประชามติ

“ก.ต่างประเทศ” เปิดชุดความรู้เกี่ยวกับ MOU 43 หวังสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชน ก่อนการทำประชามติ

หลังจากที่รัฐบาลประกาศจะจัดให้มีการทำประชามติ ยกเลิก MOU 2543-2544 และมีหลายภาคส่วนออกมาเสนอแนะว่าก่อนที่จะจัดให้มีการทำประชามติ จะต้องให้ความรู้ประชาชนอย่างจริงจังนั้น

ล่าสุด ทางกระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ชุดความรู้เกี่ยวกับบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ.2543 หรือ MOU 2543 มาเผยเปิดเผยผ่านทางช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ของกระทรวง อาทิ เพจเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม (IG) และเว็บไซด์ของกระทรวง

โดยชี้ให้เห็นว่า MOU 2543 มีขึ้นเพื่อจัดทำเขตแดนให้มีความชัดเจน ซึ่งจะเป็นผลดีต่อประชาชนของทั้งสองฝ่าย และส่งเสริมความมั่นคงและเศรษฐกิจตามแนวชายแดนรัฐบาลไทยและกัมพูชา จึงจัดทำ MOU นี้ขึ้นมา เพื่อทำให้เขตแดนที่มีการปักปันกันแล้วตั้งแต่สมัย ร.5 มีความชัดเจนขึ้น ซึ่งไม่ใช่การกำหนดเขตแดนขึ้นใหม่ แต่เป็นกรอบให้ทำการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกให้ชัดเจน โดยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก จะต้องดำเนินการโดยคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม JBC

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยสาระสำคัญของ MOU 2543 มีดังนี้
1.วัตถุประสงค์และเอกสารที่ใช้ คือการร่วมกันสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนบนพื้นฐานของเขตแดนที่เคยตกลงไว้แล้วในอดีต ประกอบด้วย
-อนุสัญญาสยาม – ฝรั่งเศส ค.ศ.1904
-สนธิสัญญาสยาม – ฝรั่งเศส ค.ศ.1907
-แผนที่ที่จัดทำขึ้นตามผลงานของคณะกรรมการปักปันเขตแดนสยาม – ฝรั่งเศส
-เอกสารอื่นที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้อนุสัญญาฉบับปี ค.ศ.1904 และสนธิสัญญาฉบับปี ค.ศ. 1907 ระหว่างสยามกับฝรั่งเศส
2.ตั้งกลไกเจรจา ชื่อคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) โดยมีอำนาจหน้าที่ดังนี้
-สำรวจและจัดทำหลักเขตแดน ข้อ 3 ตั้งฝ่ายเทคนิคทำงาน
-ทำแผนแม่บทและกำหนดอำนาจหน้าที่ ในภูมิประเทศจริง
-กำหนดความเร่งด่วนของพื้นที่
-มอบหมายและกำกับการทำงานของคณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม
-พิจารณารายงานและข้อเสนอของตำแหน่งที่แน่ชัดของหลักเขตแดนคณะอนุกรรมาธิการเทคนิค
-“ผลิตแผนที่”
-แต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการอื่น ๆ
3.ตั้งฝ่ายเทคนิคทำงานในภูมิประเทศจริง
-คณะอนุกรรมาธิการเทคนิค หรือ JTSC มีภารกิจหาและพิสูจน์และจัดทำ “แผนที่ฉบับใหม่”
-ชุดสำรวจร่วมจะต้องปลอดภัยจากกับระเบิด
4.แบ่งพื้นที่การสำรวจ โดยแบ่งการทำงานสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนออกเป็นตอนๆ
5.งดเว้นการเปลี่ยนแปลงสภาพเขตแดน เพื่อให้การสำรวจตลอดแนวเขตแดนทางบกร่วมกันสำเร็จผล หน่วยงานของรัฐบาลกับเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเหล่านั้น จะไม่ทำอะไรที่มีผลเป็นการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของพื้นที่ชายแดน เว้นแต่จะเป็นการดำเนินการของคณะอนุกรรมาธิการเทคนิคร่วม เพื่อประโยชน์ในการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดน
6.ค่าใช้จ่ายหารสอง
7.การอำนวยความสะดวกด้านพิธีการทางศุลกากร
8.เมื่อมีปัญหาระหว่างกัน ให้แก้ปัญหาด้วยการเจรจา

 

ส่วนความคืบหน้าของการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนตาม MOU 2543 //ในการประชุม JBC ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14-15 มิถุนายน 2568 ที่ประชุมได้มีข้อตกลงสำคัญสามประการ เห็นชอบรายงานผลการสำรวจหลักเขตแดนร่วมกัน ซึ่งมีหลักเขตแดนที่เห็นชอบร่วมกันแล้ว 45 หลัก จากทั้งหมด 74 หลัก นำเทคโนโลยีไลดาร์ LiDAR (Light Detection and Ranging) มาเสริมความแม่นยำและรวดเร็วของการทำงานร่วมกัน จัดทำข้อกำหนดวิธีการ เพื่อการลงเดินสำรวจในพื้นที่ที่เห็นตรงกันเรื่องหลักเขตแล้ว

โดยมีเป้าหมายสำคัญของ JBC และ MOU 2543 คือเขตแดนที่ชัดเจน รวมถึงผลิตแผนที่ใหม่ที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"รองนายกฯ สุชาติ" สั่งด่วน! เร่งค้นหา 2 ผู้สูญหายเขาหลวง กำชับอุทยานฯ ทั่วประเทศเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน
เริ่มแล้ว กิจกรรมน้อมเกล้าฯ ถวายปลากะตักแห้ง ปลาทูเค็มและอาหารทะเลที่มีสารไอโอดีน ครั้งที่ 30
สกร. เชื่อมเครือข่ายรักษ์อดีต ผ่านปราชญ์ท้องถิ่นล้านนา วัฒนธรรมคงอยู่คู่นักศึกษา สกร.
ภูเก็ตเตรียมฉลอง 200 ปีศาลเจ้ากะทู้ ต้นกำเนิดเจี๊ยะฉ่าย ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
บุกตรวจโรงแรมต่างชาติ เกาะพะงัน พบต่างด้าวผิดกฎหมาย
ตำรวจภูธรภาค 5 จัดพิธีเนื่องในวันตำรวจ ประจำปี 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​