‘ทักษิณา’ รวมกลุ่มชาวบ้านเลี้ยงแพะ-แกะ-ไก่บ้าน ส่งขายท้องตลาด จนสามารถลืมตาอ้าปากได้ ดีใจ..ราคาดีกว่าปลูกข้าว

สุรินทร์-หญิงแกร่ง! 'ทักษิณา' รวมกลุ่มชาวบ้านเสี้ยงแพะ-แกะ ส่งขาย กิจการกำลังไปได้สวย ถูกไฟไหม้ฟาร์มทำพ่อ-แม่พันธุ์ตุยเรียบ หันมานำชาวบ้านเลี้ยงไก่บ้าน ส่งขาย มีตลาดรองรับ รายได้ดี สามารถช่วยชาวบ้านลืมตาอ้าปากได้

ที่ สายล้อมเงิน ฟาร์ม หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านชบ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เป็นฟาร์มเลี้ยงแพะ-แกะ นำเข้าจากประเทศอเมริกา ออสเตรเลีย และแอฟริกา สำหรับเพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ ปรับปรุงพันธุ์ และส่งขาย มีนางสาวทักษิณา ทับครบุรี หรือทนายหม่อน เป็นเจ้าของ โดยสายล้อมเงิน ฟาร์ม มีพ่อ-แม่พันธุ์ แพะ แกะ กว่า 1,000 ตัว และได้จัดตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ชมรมเกษตรกรเครือข่ายแพะแกะเขต 3 มีสมาชิกกว่า 30 คน โดยทางกลุ่มเป็นคนประกันรายได้ และจัดหาพ่อค้าคนกลางมารับถึงที่ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านจากเดิมมีรายได้จากการปลูกข้าวขาย ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้น จากที่เลี้ยงแพะแกะเป็นอาชีพเสริม บางรายขยับขยายกลายเป็นอาชีพหลัก โดยได้ดำเนินการมา 6 ปี และเมื่อปี 2567 ได้เกิดเพลิงไหม้โรงเลี้ยงแพะ แกะ จนทำให้ถูกไฟคลอกตายไปเกือบทั้งหมด โครงการต้องชะลอไว้ก่อน แต่ก็ยังมีน้ำเชื้อที่เก็บไว้ในห้องปฏิบัติการ และพ่อ-แม่พันธุ์ที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้มาขยายพันธุ์ต่อ

โดย นางสาวทักษิณา ทับครบุรี หรือทนายหม่อน ประธานชมรมเกษตรกรเครือข่ายแพะแกะเขต 3 ไม่ย่อท้อต่อชะตา ได้ผลักดันจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจไก่บ้านขึ้น เพื่อนำพาชาวบ้าน(สมาชิก)ซึ่งปกติก็เลี้ยงไก่อยู่แล้ว ได้ดึงเอาหน่วยงานอย่างปศุสัตว์จังหวัดมามีส่วนร่วม จึงได้พันธุ์ไก่มาแจกให้สมาชิก และส่งเสริมทักษะความรู้เพื่อต่อยอดให้ได้ไก่บ้านที่มีคุณภาพ มีน้ำหนักดี มีตลาดรองรับ

โดยก่อนหน้านี้ นางสาวทักษิณา ได้เล็งเห็นถึงปัญหาที่ชาวบ้านกำลังประสบพบเจอ สำหรับการปลูกข้าว ไม่มีแหล่งน้ำที่เพียงพอ ชาวเกษตรกรจึงขายข้าวได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเท่าที่ควร จึงมีแนวคิดจัดตั้งกลุ่มนี้ขึ้นมา

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางสาวทักษิณา ทับครบุรี หรือทนายหม่อน มีอาชีพเป็นทนายความ และเป็นประธานชมรมเกษตรกรเครือข่ายแพะแกะเขต 3 เล่าว่า ตนเองมีพื้นที่อยู่ 3 ไร่ 3 งาน ซึ่งได้นำเข้าพ่อ-แม่พันธุ์ แพะ แกะ จากประเทศอเมริกา ออสเตรเลีย และแอฟริกา เปิดเป็นฟาร์มเลี้ยงเพื่อ เพาะพันธุ์ ขยายพันธุ์ ปรับปรุงพันธุ์ และส่งขาย โดยได้แบ่งเป็น โซนฟาร์มแพะ แกะ สถานที่รีดน้ำเชื้อ และย้ายฝากตัวอ่อน โดยได้พัฒนาสายพันธุ์แพะ แกะ ให้โตวัย จ่ายลูกแฝด จ่ายลูกแข็งแรง และมีน้ำหนักดี ที่ได้พัฒนาร่วมกับกรมปศุสัตว์ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ และยังได้ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพและรายได้ และยังดูเรื่องการตลาดให้กับเกษตรกรแพะแกะอีกด้วย

โดย แพะ แกะ ถือว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ จะมีบางช่วงที่ราคาขึ้นลง ซึ่งช่วงนี้จะมีราคาสูง อยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 120-150 บาท ซึ่งตอนนี้มีเกษตรกรสนใจจะเลี้ยงมากขึ้น แต่เนื่อจากทางฟาร์มเองไม่มี แพะ แกะ เพียงพอต่อความต้องการ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ฟาร์มเมื่อปี 2567 ทำให้ แพะ แกะ ถูกไปครอกตายไปกว่า 1,000 ตัว ทำให้มีแม่-พ่อพันธุ์เหลืออยู่เพียงไม่กี่ตัว โชคดียังมีน้ำเชื้อ และตัวอ่อน แพะแกะ ที่แช่ไว้อยู่ ซึ่งสามารถนำมาขยายพันธุ์ต่อได้

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ฟาร์มครั้งใหญ่ ตนเองได้หันมาพาชาวบ้าน ตั้งกลุ่มวิสหกิจไก่บ้านจังหวัดสุรินทร์ เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงไก่บ้าน ซึ่งชาวบ้านก็เลี้ยงเป็นปกติอยู่แล้ว และหาตลาดส่งออกไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา)ซึ่งมีความต้องการสูง และกำลังจะเซ็นสัญญาซื้อขายกัน แต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนก่อน จึงชะลอการส่งออกไปก่อน ซึ่งตนได้หาแผนสำรองไว้ โดยการติดต่อพ่อค้าคนกลางให้มารับซื้อไก่กับชาวบ้านที่ให้ราคาดี เพื่อส่งขายภายในประเทศแทน ซึ่งสินค้าเกษตรทุกสิ่งอย่างที่ตนได้ชักชวนเกษตรกรมาทำด้วยกันนั้น ตนจะหาตลาดมารองรับก่อน สำหรับเป็นสิ่งนำทาง ให้มั่นใจว่ามีคนมารับซื้แแน่นอน มีตลาดส่งขายแน่นอน โดยการทำสัญญาซื้อขายโดยกลุ่มวิสาหกิจและสหกรณ์ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า สมาชิกเลี้ยงแล้ว มีที่ขายและไม่ขาดทุนแน่นอน

ไม่แค่นั้น ตนได้ติดต่อขอสนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ให้ลงพื้นที่มาดูแลเกษตรกร และพัฒนาไปพร้อมๆกันได้ ซึ่งทางกรมปศุสัตว์ก็ได้ตั้งงบประมาณเพื่อนำไก่บ้านมาแจกให้สมาชิกนำไปเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ต่อ แล้วยังให้ความรู้ในเรื่องอาหารเพื่อลดต้นทุน และระยะเวลาในการเลี้ยงเพื่อให้ได้ราคามากที่สุด ซึ่งเกษตรกรที่เข้าร่วมกลุ่มวิสาหกิจไก่บ้านจังหวัดสุรินทร์ มีรายได้เพิ่มขึ้น ทำให้มีกำลังใจในการต่อยอดมากขึ้น จากที่มีรายได้แค่รอขายข้าว หรือเลี้ยงไก่ตามมีตามเกิด กลายมาเป็นการเลี้ยงไก่บ้านที่มีตลาดรองรับ บางรายถึงขั้นเลี้ยงไก่บ้านเป็นรายได้หลักได้เลย ซึ่งสมาชิกมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นจากเดิม.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ภาพ-ข่าว กฤษดากร กีรติธำรงค์เจริญ ผู้สื่อข่าวTOPNEWSทั่วไทย จ.สุรินทร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) เรือรบจีนแวะเทียบท่าไทย เปิดให้ประชาชนขึ้นชมครั้งแรก
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แพนด้ายักษ์ 3 มิติ ส่ายก้นดุ๊กดิ๊กในเฉิงตู
ฉะเชิงเทรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวขอบคุณคณะกรรมการตรวจเยี่ยมและประเมินผล โครงการวัด ประชา รัฐ สร้างสุข ประจำภาค 12
ชาวบ้านแห่จับปลา หลังเกิดปรากฏการณ์น้ำเบียด-น้ำกัน สัตว์ทะเลน็อกน้ำเกลื่อนหาดชะอำ
ภูเก็ตจัด “กะทู้มาราธอน” ครั้งที่ 28 ดันเมืองกะทู้สู่ Sport Tourism
สภาวัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร จัดแถลงข่าวเดิน-วิ่งการกุศล โคกขามมินิมาราธอนมหัศจรรย์ 2222 ครั้งที่5

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​