เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 10 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ตรงข้ามกับบ้านเปรยจันทร์ ฝั่งกัมพูชา ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ชรบ. ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ อส.และตำรวจ สภ.โคกสูง จ.สระแก้ว เข้าประจำจุดตรวจ ชรบ.บ้านหนองหญ้าแก้ว เพื่อตรวจสอบรถยนต์ที่จะเข้าพื้นที่ชายแดน ขณะที่บริเวณจุดตรวจ จต.ส.33 ริมถนนศรีเพ็ญ ห่างจากแนวรั้วลวดหนามหีบเพลงและแนวกั้นสแลนดำ ประมาณ 500-600 เมตร เจ้าหน้าที่ทหารได้ปิดกั้นเส้นทาง ให้เฉพาะรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานเข้าพื้นที่เท่านั้น


ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เนื่องจากวันนี้เป็นวันแรกที่ทางกองกำลังบูรพา โดยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดของหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเพื่อมนุษยธรรมที่ 1 หรือ นปท.1 กองกำลังบูรพา จะเข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดในพื้นที่หนองจาน และหนองหญ้าแก้ว ด้วย และเป็นวันเดียวกับที่ นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ขีดเส้นตายให้ชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่รุกล้ำอธิปไตยไทยในพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ด้วยเช่นกัน
โดยที่บ้านหนองหญ้าแก้ว มีรายงานว่า พล.ท.วรยศ เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 จะลงพื้นที่ดังกล่าวด้วย เนื่องจากในช่วงบ่ายตั้งแต่เวลา 13.00 น.วันนี้ ทางคณะผู้สังเกตการณ์ 8 ประเทศ หรือคณะ IOT ฝ่ายไทย จะลงพื้นที่หลายจุดในพื้นที่่ จ.สระแก้ว ในช่วงบ่าย ประกอบด้วย พื้นที่ชายแดน อ.อรัญประเทศ ,พื้นที่บ้านหนองจาน , พื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว และพื้นที่บริเวณหลักเขตที่ 36 อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ฝั่งบ้านเปรยจันทร์ อ.โอวโจโรว จ.บันเตียนเมียนเจย พบว่า บรรยากาศฝั่งกัมพูชา ตรงข้ามบ้านหนองหญ้าแก้ว ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว มีประชาชนกัมพูชา เริ่มรวมตัวกันในช่วงแรกประมาณเกือบ 30-40 คน และในช่วงก่อนเที่ยงพบว่า มีประมาณ 100 คน มารวมตัวกันบริเวณแนวรั้วลวดหนามป้องกันตนเองของไทย แต่ยังไม่มีเหตุการณ์รื้อหรือทำลายลวดหนาม และยังไม่มีเหตุการณ์ผลักดันชาวกัมพูชาออกจากพื้นที่ประเทศไทยแต่อย่างใด
ภาพ/ข่าว ประสาน โพธิ์ทอง ผู้สื่อข่าว TOPNEWS ทั่วไทย จ.สระแก้ว