“หมอเหรียญทอง” ไล่ชัดๆ ปัญหา สปสช.เบี้ยวหนี้ รพ.มงกฎวัฒนะ 40 ล้าน แถมจู่ๆกลายเป็นลูกหนี้ 38 ล้าน ซัดระบบบ้าๆ

“หมอเหรียญฯ” ลั่นทำได้งัย ไล่ละเอียด จุดเริ่มสปสช.ค้างหนี้ 40 ล้าน รพ.มงกุฏวัฒนะ ต้องกลายเป็นลูกหนี้ 38 ล้าน เพราะเป็นจิตอาสาช่วยผู้ป่วยบัตรทอง – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.โรงพยาบาลมงกฎวัฒนะ โพสต์ข้อความผ่านเฟสบุ๊กเรื่อง ทำอย่างนี้ได้หรือครับ?

โดยระบุว่า เมื่อ 4 มีนาคม67 หรืองบประมาณปี 67 คณะผู้แทน สปสช นำโดย พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการ สปสช และคณะมาพบผมและคณะผู้บริหาร-ผู้ปฏิบัติ โดยขอร้องให้ โรงพยาบาลมงกฎวัฒนะช่วยรับการส่งต่อผู้ป่วยนอกจาก 35 คลินิก มีประชากรสิทธิบัตรทอง 200,000 คน โดยนำเสนอว่าจะจ่ายค่ารักษาด้วยระบบ Fee schedule หรือจ่ายตามตารางค่าบริการ

แต่เมื่องบประมาณปี 67 ผ่านพ้นไปข้ามนานถึง 2 ปีงบประมาณ สปสช.ก็ไม่เคลียริ่งหนี้ค่ารักษาด้วยระบบจ่ายตามตารางค่าบริการที่มียอดหนี้ประมาณ 40 ล้านบาทเสียที ยังไม่รวมการที่ สปสช แอบประกาศปรับลดค่าบริการในเดือน กรกฏาคม 67 แล้วให้ย้อนหลังไปวันที่ 1 มีนาคม 67 ทำให้ค่าบริการหายไปอีกกว่า 22 ล้านบาทนะครับ

ข่าวที่น่าสนใจ

“หมอเหรียญฯ” เตรียมฟ้องหมิ่นประมาท “รองเลขาธิการสปสช.” จ้อสื่อให้ข้อมูลเท็จ ปมค้างหนี้รพ.มงกุฎวัฒนะ

“กนก-ธีระ”ลั่น สปสช. ทำแบบนี้ไม่ถูก โยน”หมอเหรียญทอง”ไปเป็นคู่ความกับหน่วยบริการ

เมื่อหนี้ค่ารักษาจากการที่โรงพยาบาลมงกฎวัฒนะรับส่งต่อผู้ป่วยจาก 35 คลินิกค้างชำระข้ามปีงบประมาณจากปี 67 จนเข้าสู่ปีงบประมาณใหม่ 68-68 สปสช.ก็นำเอากติกาการจ่ายค่ารักษาพยาบาลกรณีการส่งต่อผู้ป่วยนอก หรือ OP refer ด้วย ‘ระบบแต้ม หรือ Point system’ ซึ่งเป็นกติกาใหม่ปีงบประมาณ 68-69 มาบังคับใช้ย้อนหลังกับหนี้ค่ารักษาปีงบประมาณ 67 ที่คณะผู้แทน สปสช นำโดย พญ.ลลิตยา กองคำ รองเลขาธิการ สปสช.และคณะนำเสนอว่าจะจ่ายด้วยระบบจ่ายตามตารางค่าบริการ

สรุปว่า

1.นอกจากยอดหนี้ประมาณ 40 ล้านบาทปีงบประมาณ 67 โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะจะต้องสูญ ทั้งๆที่ยอด 40 ล้านบาทนี้ก็ต่ำกว่าต้นทุนอยู่แล้วโดย สปสช.ปรับลดยอดหนี้จาก 40 ล้านบาท คงเหลือ 22 ล้านบาท ซึ่งขาดทุนย่อยยับอยู่แล้ว ทั้งยังสูญอีกต่างหาก

2.แต่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ กลับจะต้องถูก สปสช.เรียกเงินคืนอีก 38 ล้านบาทจากการประเมินตามระบบแต้ม ซึ่งไม่ใช่กติกาตามที่คณะผู้แทน สปสช.นำโดย พญ.ลลิตยา และคณะนำเสนอต่อโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เมื่อ 4 มีนาคม 67 หรือปีงบประมาณ 67

พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง สรุปว่า โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะรับการส่งต่อผู้ป่วยจาก 35 คลินิก ประชากร 200,000 คน สูญเงินมากกว่า 40 ล้านบาทแล้ว ยังต้องเปลี่ยนสถานะจากเจ้าหนี้กลายเป็นลูกหนี้ที่จะต้องจ่ายเงินคืน สปสช.อีก 38 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะสูญเงินมากกว่า 78 ล้านบาท ถ้าผมไม่ตัดสินใจช่วย สปสช. ไม่รับการส่งต่อผู้ป่วยจากคลินิก พวกเราจะทำงานสบายๆ ไม่ต้องทำงานหนัก โรงพยาบาลไม่ต้องแออัด และเราจะไม่สูญเงินมากมายขนาดนี้

พลตรีนายแพทย์เหรียญทอง ทิ้งท้ายว่า ระบบบ้าๆ! อะไรกันล่ะครับ ดัดจริตตั้งชื่อฝรั่งว่า ‘Point system’ นอกจากหนี้สูญแล้วยังต้องหาเงินไปจ่ายให้ไอ้เหี้x สปสช. อีก แล้วจะให้ผมดันทุรังต่อไปได้อย่างไรกันล่ะครับ วันดีคืนดีจากการเป็นเจ้าหนี้ค้างจ่าย กลายเป็นลูกหนี้ต้องถูกเรียกเงินคืน ผมเลิกคิดที่จะมีจิตอาสาแล้วครับ เข็ด!

ผู้ป่วยบัตรทอง, สปสช., หมอเหรียญทอง แน่นหนา, รพ.มงกุฏวัฒนะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง