“สีหศักดิ์” นำทีมกต.ถกภาคเอกชนไทยในกัมพูชา ยันห่วงใยผลกระทบ ย้ำปัญหาเกิดจาก“เขมร” ไม่ขัดสหรัฐขอจุ้นแต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข

“สีหศักดิ์” นำทีมกต.ถกภาคเอกชนไทยในกัมพูชา ยันห่วงใยผลกระทบ ย้ำปัญหาเกิดจาก“เขมร” ไม่ขัดสหรัฐขอจุ้นแต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไข

วันที่ 10 ต.ค.68 ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานประชุม เพื่อรับฟังปัญหากับคณะผู้แทนภาคเอกชนไทยในกัมพูชา จากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดน โดยมี ประธานสมาคมธุรกิจไทยในกัมพูชา , ประธานสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา รวมถึงผู้ประกอบการอาหาร โรงแรม สายการบิน และธนาคาร กว่าหลายสิบคนเข้าร่วม ขณะที่ฝั่งกระทรวงการต่างประเทศ มีนายตุลย์ ไตรโสรัส เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ร่วมประชุมด้วย

 

 

โดยนายสีหศักดิ์ กล่าวเปิดประชุม ว่า ตนขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมประชุมในวันนี้ สาเหตุที่เชิญประชุม เพราะเราเข้าใจความห่วงใยของท่านที่มีต่อสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย กัมพูชา ซึ่งตนคงไม่ต้องอธิบายความมากมาย ในส่วนของรัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศทราบอย่างดีว่าท่านได้รับผลกระทบ วันนี้เราจึงอยากมาฟังทุกท่านว่าผลกระทบที่ท่านได้รับเป็นอย่างไรบ้าง และระหว่างที่เรากำลังหาทางเจรจาแก้ไขปัญหากับฝ่ายกัมพูชานั้น เราจะสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบด้วยมาตรการต่างๆได้อย่างไร ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ของการประชุมในวันนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

“ไทยกับกัมพูชาเราเป็นเพื่อนบ้านกัน เราควรจะอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เพราะสันติภาพของเขา ความก้าวหน้าของเขา ก็คือสันติภาพของเรา ความก้าวหน้าของเราด้วย ความสัมพันธ์มันควรจะเป็นแบบนั้น สถานการณ์ปัจจุบันก็เป็นสถานการณ์ที่ฝ่ายไทยไม่ได้พึงประสงค์ ผมคิดว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เราก็พยายามที่จะยื่นมือเพื่อขอพูดคุย ขอแก้ไขด้วยสันติวิธี ด้วยการเจรจาทั้งสองฝ่าย ซึ่งถ้าเป็นเพื่อนบ้านกันก็จะเป็นวิธีการที่เป็นแบบนั้น แต่ก็น่าเสียใจว่าที่ผ่านมา ความรู้สึกของผม โดยเฉพาะตั้งแต่ผมรับหน้าที่ในช่วงแรก เป็นเหมือนกับการบ่ายเบี่ยงของเขาที่จะเจรจาอย่างจริงจัง บางครั้งก็ไม่แน่ใจว่าเขาตั้งใจจะเจรจาหรือไม่ เขาพยายามสร้างความได้เปรียบตลอดเวลาที่ผ่านมา และเห็นได้ชัดคือเราอยากจะเน้นการพูดคุยกันสองฝ่าย ฉันท์เพื่อนบ้าน แต่เขาก็จะพูดไปในเวทีระหว่างประเทศ” นายสีหศักดิห์ กล่าว

นายสีหศักดิ์ เล่าถึงเหตุการณ์ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ว่าตนได้มีการพูดพบพูดคุยกับนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะนักการทูตด้วยกัน ตนก็เรียนท่านว่าถึงแม้ประเทศเราจะจะมีความขัดแย้งกัน แต่เราต้องพูดคุยกัน เราต้องหาช่องทางที่จะแก้ไขปัญหาให้ได้ ซึ่งฝ่ายสหรัฐอเมริกาได้ประสานให้มีการประชุม 4 ฝ่าย คือไทย , กัมพูชา , มาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียน และสหรัฐอเมริกา

“ความตั้งใจของสหรัฐฯ ก็คืออยากให้สองฝ่ายมานั่งคุยกันและจะช่วยประสานให้เกิดความคืบหน้า ในวันนั้นทุกอย่างก็พบกันไม่นาน แต่ผมก็เรียนในที่ประชุมว่าเราต้องให้ภาพมันออกมาดี เราไม่ได้มาประชุมเพื่อการสร้างภาพอย่างเดียว เราควรจะเน้นถึงความคืบหน้า ความตั้งใจจริงของสองฝ่าย ที่ทำให้เกิดความคืบหน้าต่อไป ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นแต่พอเกิดช่วงวันรุ่งขึ้นที่มีการกล่าวสุนทรพจน์ของเขา ก็รู้สึกแปลกใจนิดหนึ่ง แทนที่จะไปในโทนเดียวกัน ก็ไปอีกทางหนึ่ง ค่อนข้างจะกล่าวหาประเทศไทยในหลายเรื่อง ผมคิดว่ามันเป็นการใช้วิธีระหว่างประเทศเพื่อความสร้างความได้เปรียบของเขา จึงจำเป็นจะต้องออกไปชี้แจงและพูดจากมุมมองของไทย โดยที่ผ่านมา บางครั้งเราอาจจะไม่ได้พูดอย่างตรงไปตรงมา เพราะฉะนั้น ความรู้สึกของคนไทยเป็นอย่างไร ผมก็ต้องพูดตามนั้น เหตุการณ์ที่นิวยอร์กแบบนั้น” นายสีหศักดิ์ กล่าว

 

 

นายสีหศักดิ์ ระบุว่า ขณะนี้ ตนคิดว่าเราเริ่มที่จะมาคุยกันในเรื่องที่จะทำให้ความสัมพันธ์ได้กลับสู่ภาวะปกติ ในเรื่องที่เราคิดว่าจะทำให้เราสามารถดำเนินการฟื้นฟูความสัมพันธ์ได้ แต่อาจจะไม่ถึงจุดนั้น ท่าทีเรา เราปกป้องอธิปไตยของเรา อันนี้เป็นสิ่งแน่นอน แต่เราไม่กลัวที่จะเจรจากับเขา ตราบใดที่จะเจรจากันอย่างจริงจัง อย่างที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้เรียนไปเมื่อวานนี้ (9 ต.ค.68) ว่ามี 4 ประเด็นที่เป็นประเด็นหลัก 1.เรื่องการถอนอาวุธหนักออกจากบริเวณชายแดน โดยมีการตรวจสอบโดยคณะผู้สังเกตการณ์ของอาเซียน 2.เรื่องที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด ต้องมีการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เป็นเรื่องเป็นราวในบริเวณที่มีทุ่นระเบิดอยู่เป็นจำนวนมาก 3.อาชญากรรมทั้งหลายบริเวณชายแดน โดยเฉพาะบรรดาคอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ทั้งหลาย ที่เราทราบกันอยู่ ต้องมาปราบปรามกันอย่างจริงจัง เรามีข้อมูลอย่างไร ขบวนการเหล่านี้อยู่ที่ไหน ก็ขอให้ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือ และ 4. การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดนที่มีการรุกล้ำเข้ามาโดยชาวกัมพูชา ซึ่งเรามั่นใจว่าเป็นการรุกล้ำจริงๆ เขาอ้างสิทธิ์ไกลกว่าเขตของเขาแน่นอน โดยเฉพาะ 2 หมู่บ้าน

นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องแก้ไขปัญหาการรุกล้ำเข้ามาในเขตไทย รวมทั้งประเด็นที่ทุกท่านกังวลด้วย คือการค้าบริเวณชายแดน แต่มันต้องมีความคืบหน้าใน 4 ประเด็นเหล่านี้ก่อน

“ท่านอาจจะทราบได้ว่าล่าสุดเราก็มีมหาอำนาจประเทศหนึ่ง ที่มีความต้องการที่จะช่วยเป็นตัวกลางในเรื่องนี้ จริงๆเราก็อยากจะแก้ไขปัญหาที่เรามีอยู่กับกัมพูชาโดยวิธีการสองฝ่าย แต่ถ้าเขามีความหวังดี อยากจะเข้ามาเป็นผู้ประสาน ไม่ใช่ผู้เจรจา เราก็ไม่ขัดข้อง มีการพูดคุยกันอยู่ไปอีกช่องทางหนึ่ง ที่ทำให้เกิดความคืบหน้า เราก็ไม่มีปัญหาเพราะเราต้องการให้เกิดความคืบหน้าอย่างแท้จริง” นายสีหศักดิ์ กล่าว

 

 

นายสีหศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า อยากจะลองให้ท่านเล่าให้ฟังว่าผลกระทบเป็นอย่างไร รัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศเราไม่ได้นิ่งนอนใจ เราทำอะไรไปบ้าง มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดสันติภาพ แต่เราทำเต็มที่ อยากจะคุยกันว่าในระหว่างนี้เราจะมีมาตรการอะไรบ้างที่จะช่วยบรรเทาผลกระทบที่มี ต่อท่านในขณะนี้

จากนั้น ได้มีการให้ภาคเอกชนเสนอความเห็นและความต้องการช่วยเหลือจากรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ร่วมรณรงค์กิจกรรม Give LIFE Get LIVES สร้างกุศลผู้ให้ สร้างชีวิตใหม่ผู้รับ
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ห่วงใยชุมชนรอบสนามบิน สนับสนุนกองทุนช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง
"ซาบีดา" เผยน้ำท่วมอยุธยา ไม่กระทบโบราณสถาน แหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กำชับกรมศิลป์เฝ้าระวังใกล้ชิด พร้อมรุดเยี่ยมให้กำลังพี่น้องไทยมุสลิม
"รมว.ซาบีดา" นำทัพบูรณาการ 33 หน่วยงาน กำหนดแนวทางจัดงานประเพณีลอยกระทง ปี68 ภายใต้แนวคิด "ลอยกระทง ไท ไทย ปลอดภัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่งชุดไทยไปลอยกระทง"
"แม่ทัพกุ้ง" ลั่น "ปราสาทคนา" เป็นของคนไทย ต้องยึดคืนเหมือน "ภูมะเขือ"
"รองนายกฯ สุชาติ" สั่งการกรมทะเล เดินหน้ามาตรการเข้ม รับมือพะยูนตาย-ล่าเอาเขี้ยวพะยูน ย้ำ "ไม่ใช่แค่นับศพ แต่ต้องเปลี่ยนเป็นรักษาชีวิต"

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​