AFP รายงานว่าเมื่อวานนี้ (พุธที่ 8 ตค.) คณะผู้ตรวจสอบอินโดนีเซียได้ตรวจพบสารกัมมันตรังสีที่โรงงาน 22 แห่งในนิคมอุตสาหกรรมจิกันเด ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันตกราว 60 กิโลเมตร ซึ่งบารา ฮาซิบวน โฆษกคณะผู้ตรวจสอบเปิดเผยว่าได้มีคำสั่งให้เร่งทำความสะอาดและยกระดับการเฝ้าระวัง รวมทั้งคุมเข้มยานพาหนะที่วิ่งเข้าออกนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวแล้ว
การตรวจหาสารกัมมันตรังสีของอินโดนีเซียมีขึ้นหลังจากองค์กรอาหารและยาสหรัฐหรือ FDA ตรวจพบสารซีเซียม-137 ปนเปื้อนในกุ้งแช่แข็งนำเข้าจากบริษัทพีที บาฮารี มัคมูร์ เซจาตีของอินโดนีเซียเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาภายในห้างวอลมาร์ทและซุปเปอร์มาร์เก็ตอื่นๆ จึงได้ทำการเรียกคืนและส่งกลับ ส่งผลให้อินโดนีเซียเร่งตรวจสอบหาแหล่งที่มาของสารกัมมันตรังสีดังกล่าว
เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเชื่อว่าสารกัมมันตรังสีที่พบในนิคมอุตสาหกรรมจิกันเดน่าจะเป็นต้นเหตุของการปนเปื้อนในกุ้งแช่แข็งส่งออกไปสหรัฐเนื่องจากอยู่ห่างจากโรงงานบรรจุหีบห่อของบริษัทพีที บาฮารี มัคมูร์ เซจาตีเพียง 2 กิโลเมตร
สำหรับที่มาของสารซีเซียม-137 คณะผู้ตรวจสอบอินโดนีเซียกล่าวว่าน่าจะมาปนเปื้อนมากับเศษเหล็กนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งเศษเหล็กเหล่านี้ได้ถูกมาหลอมใหม่เพื่อทำเป็นตู้คอนเทนเนอร์ ทั้งนี้คาดว่าสารซีเซียม-138 จะถูกปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมรวมทั้งน้ำเสียและอากาศระหว่างการหลอม ขณะที่ตู้คอนเทนเนอร์จากเศษเหล็กปนเปื้อนก็ถูกนำมาบรรจุกุ้งแช่แข็งส่งไปสหรัฐ
FDA เตือนว่าการได้รับการซีเซียมเป็นเวลานานแม้จะในระดับต่ำก็อาจทำให้ป่วยเป็นโรคมะเร็งได้