“บิ๊กโจ๊ก” นำหลักฐานคลิปเสียง ยื่นฟ้องปธ.ศาลปกครองสูงสุด อ้างแทรกแซงคดี ร้องโดนสั่งให้ออกจากราชการ
ข่าวที่น่าสนใจ
29 ก.ย.2568 พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง กรุงเทพฯ เพื่อยื่นฟ้องนายประสิทธิ์ศักดิ์ มีลาภ ประธานศาลปกครองสูงสุด และนายอนุวัฒน์ ธาราแสวง ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่นในศาลปกครองสูงสุด ในความผิดตามมาตรา 157 และมาตรา 172 กรณีใช้อำนาจหน้าที่เข้าแทรกแซงคดีที่ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยประเด็นเกิดจากคลิปเสียงที่ประธานศาลปกครองสูงสุดได้พยายามที่จะแทรกแซง คดีของตนเองที่ยื่นฟ้องพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในเรื่องของคำสั่งให้ออกจากราชการโดยไม่ชอบ ทั้งที่องค์คณะตุลาการในคดี มีมติเสียงข้างมากที่จะตัดสินคดีของตนเองแล้ว แต่ประธานศาลปกครองสูงสุด ใช้อำนาจแทรกแซง เพื่อหักล้างมติคดีเดิม โดยมีประธานแผนกคดีฯ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด และจะนำคดีของตนเองเข้าที่ประชุมใหญ่ เพื่อล้มคดี
คดีที่จะเข้าที่ประชุมใหญ่นั้น ต้องเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมาก หรือเป็นคดีที่มีประเด็นต้องวินิจฉัยเกี่ยวกับหลักกฎหมายปกครองที่สำคัญ โดยคดีของตนเองนั้น เป็นเพียงแค่การฟ้อง ผบ.ตร. เพียงคนเดียว จึงจะเป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมากได้อย่างไร และที่สำคัญคือ คดีของตนเองมีประเด็นอะไรที่ต้องวินิจฉัยเกี่ยวกับหลักกฎหมายปกครอง
จากเหตุที่กล่าวมาข้างต้น ตนเองจึงตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพราะตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม และถูกแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมทางคดี อันเป็นการบ่อนทำลายหลักความเป็นอิสระของตุลาการ และขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างมาก
ทั้งนี้พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ ยืนยันว่า ที่ตนเองออกมาในวันนี้ ไม่ใช่มีความหวังว่าจะกลับไปรับราชการตำรวจอีก เพราะตนเองไม่คิดถึงประเด็นดังกล่าวแล้ว เพียงแต่ต้องการต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม เพื่อให้คดีนี้เป็นตัวอย่างแก่พี่น้องประชาชนว่า บ้านเมืองมีกฎหมาย และผู้ถือกฎหมายต้องอยู่ในความเที่ยงธรรมสุจริต อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่า ตนเองยังเคารพศาลปกครอง และตุลาการส่วนใหญ่ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต แต่ถึงเวลาแล้วที่ต้องล้างบาง ผู้ที่ไม่สุจริตในศาลปกครอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น