วธ. ร่วมงาน พิธีอภิเษกสมรส องค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี-องค์พระศิวะมหาเทพ ครั้งยิ่งใหญ่ ในเทศกาลนวราตรี วัดแขกสีลม

วธ. ร่วมงาน พิธีอภิเษกสมรส องค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี-องค์พระศิวะมหาเทพ ครั้งยิ่งใหญ่ ในเทศกาลนวราตรี วัดแขกสีลม

วันที่ 29 กันยายน 2568 เวลา 09.00 น . กรมการศาสนาร่วมกับสำนักพราหมณ์พระราชครูในสำนักพระราชวัง และวัดพระศรีมหาอุมาเทวี (วัดแขกสีลม) จัดพิธีอภิเษกสมรสองค์พระศิวะมหาเทพ และองค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี เนื่องในเทศกาล นวราตรี ประจำปี พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2568 โดยมีนายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา สำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง นายสำรวย นักการเรียน ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม ผู้อำนวยการกองศาสนูปถัมภ์ เจ้าหน้าที่กรมการศาสนา และประชาชน เข้าร่วม ณ วัดพระศรีมหาอุมาเทวี เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร

 

นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนาได้ร่วมกับสำนักพราหมณ์พระราชครู ในสำนักพระราชวัง องค์การทางศาสนาศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ที่กรมการศาสนาให้การรับรองได้ร่วมกับวัดพระศรีมหาอุมาเทวี จัดพิธีอภิเษกสมรสขององค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวีและองค์พระศิวะมหาเทพ ภายใต้เทศกาลนวราตรี พ.ศ. 2568 ตามโครงการ “เสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา” เพื่อส่งเสริมประเพณีในมิติศาสนา โดยประเพณีแต่งงานขององค์เทพที่จะได้เห็นในวันนี้ เป็นต้นแบบทางวัฒนธรรมของพิธีแต่งงานในประเทศในกลุ่มทวีปเอเชียรวมถึงประเทศไทย ดังจะเห็นได้จากการจัดรูปแบบของขบวนขันหมาก และการประกอบพิธีทางศาสนาเพื่ออวยพรคู่แต่งงานที่ได้รับอิทธิพล สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน การจัดงานครั้งนี้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเทศกาลในมิติทางศาสนา เป็นการยกระดับเทศกาลประเพณีให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และก่อให้เกิดความศรัทธาและความเชื่อ จึงเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจในมิติศาสนาผ่านงานเทศกาลมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นให้ชุมชนรอบวัดและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น ร้านจำหน่ายเครื่องสักการะ อาหาร และบริการเช่าชุดอินเดีย มีรายได้เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ประเทศไทยมีความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสุรพงษ์ สิริธรกุล ประธานคณะกรรมการมูลนิธิวัดพระศรีมหาอุมาเทวี กล่าวว่า การจัดพิธีอภิเษกสมรสขององค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวีและองค์พระศิวะมหาเทพ ในวันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 จะแสดงถึงวัฒนธรรม การจัดรูปแบบของขบวนขันหมากและพิธีอภิเษกสมรสตามความเชื่อของศาสนาฮินดู โดยจะจัดเพียง 1 ครั้งในรอบปีเท่านั้น จึงเป็นพิธีกรรมที่ได้รับความสนใจจากศาสนิกชน และคู่รักหรือคู่ครอง ที่จะมาขอพรเพื่อการแต่งงาน และการสมหวังในความรัก โดยในปีนี้ได้รับเกียรติจาก นายประสพ เรียงเงิน ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้รับเชิญเป็นประธานในพิธีการสำคัญนี้อีกด้วย

พระแม่ศรีมหาอุมาเทวี เป็นอวตารหนึ่งของพระแม่ปารวตี ชายาของพระศิวะมหาเทพ เป็นหนึ่งในเทพตรีมูรติผู้ยิ่งใหญ่ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ประกอบด้วย พระพรหม พระวิษณุ และพระศิวะ โดยพระองค์ทรงทำหน้าที่เป็นผู้ทำลายล้างสิ่งชั่วร้าย เพื่อให้เกิดแต่ความดีงามบนโลกใบนี้ ในคติความเชื่อของไศวนิกาย ได้มีการนับถือให้พระองค์เป็นเจ้าสูงสุด โดยทั้งสองพระองค์มีพระราชโอรส คือ พระขันธกุมารและพระพิฆเนศ

 

 

ศาสนิกชนที่เข้าร่วมในพิธีอภิเษกสมรสขององค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวีและองค์พระศิวะมหาเทพ จะได้ร่วมในขบวนแห่ขันหมาก ซึ่งประกอบด้วยขนมมงคลบนถาดบูชาสำหรับถวายองค์เทพ โดยเมื่อจบพิธี จากนั้นจึงเข้าร่วมในพิธีโหมกูณฑ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพิธีบูชาพระเป็นเจ้าทางศาสนาฮินดู โดยพราหมณ์จะนำสิ่งของเครื่องบูชาต่างๆ อาทิ ไม้ เครื่องหอม สมุนไพร ธัญพืช ดอกไม้ เนย น้ำผึ้ง น้ำมันเนย ข้าว ขนม ผลไม้ อัญมณี พวงมาลัย ตลอดจนพัสตราภรณ์ เป็นต้น ลงไปเผาในกองกูณฑ์ที่ลุกโชนด้วยไฟ ซึ่งถือเป็นการถวายเครื่องบูชาผ่านทางพระอัคนี ไปสู่พระเป็นเจ้าองค์ที่เราประกอบพิธีบูชา

ลำดับต่อมาพราหมณ์ประกอบพิธีอภิเษกสมรสระหว่างองค์เทพ โดยอุปโลกน์พราหมณ์สองท่านเป็นองค์พระแม่ศรีมหาอุมาเทวีและองค์พระศิวะมหาเทพ ซึ่งเป็นพราหมณ์ผู้มาจากเมืองมาดูไร วัดในประเทศอินเดียที่จัดพิธีสมรสขององค์พระแม่ตามตำนาน โดยพราหมณ์ในพิธีจะประกอบพิธีมอบสร้อยมงคลแก่กันและกัน และจูงมือเดินรอบกองไฟ 7 รอบเช่นเดียวกับตำนาน จากนั้นประธานในพิธีจึงโปรยดอกไม้อวยพรเทพ ทั้งสององค์ ไกวชิงช้าและร่วมกันอธิษฐานดอกไม้เป็นอันเสร็จพิธี

 

 

 

 

ตลอดการงานเทศกาลนวราตรี ระหว่างวันที่ 22 กันยายน ถึง 2 ตุลาคม 2568 นั้น เป็นประเพณีสำคัญทางศาสนาฮินดู ภายในงานมีการจัดกิจกรรมบูชาองค์เทพที่สำคัญของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของศาสนิกชน ตลอดทั้งเทศกาลจะมีพิธีบูชาองค์เทพต่างๆในช่วงเช้าเริ่มเวลา 09.30 น. และช่วงค่ำเริ่มเวลา 17.30 น. ที่วัดพระศรีมหาอุมาเทวี ศาสนิกชนสามารถเดินทางเข้ามาร่วมพิธีได้โดยไม่มีการจำกัดเชื้อชาติ หรือศาสนา โดยเชื่อว่าจะช่วยเสริมสิริมงคลให้กับชีวิตของตนเองและครอบครัวด้วย

ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า โครงการเสน่ห์แห่งสีสัน เทศกาลแห่งศรัทธา ภายใต้การจัดกิจกรรมเทศกาลของศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู เป็นการส่งเสริมให้ศาสนิกชนได้ปฏิบัติศาสนกิจตามศาสนา อันเป็นการสร้างความเข้มแข็งของสถาบันศาสนาให้เป็นเสาหลักที่จะสร้างสรรค์สังคมที่มีคุณธรรม ศาสนิกชนทุกศาสนาอยู่ร่วมกันด้วยความรักสามัคคีสืบต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สหรัฐเล็งส่งมอบขีปนาวุธโทมาฮอว์กให้ยูเครน
วิธีเลือกชื่อ "โดเมน" ให้จำง่ายและช่วยสร้างแบรนด์
"รองนายกฯ สุชาติ" เปิดประชุม TCAC 2025 ผลักดันนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สร้างอนาคตคาร์บอนต่ำ
บินสำรวจระดับน้ำ "บึงบอระเพ็ด" พบน้ำเกินกักเก็บเกือบ 200 เปอร์เซ็นต์
พรุ่งนี้ลุ้นระทึกหลุดสส.? ศาลอุทธรณ์ นัดอ่านคำพิพากษา "ลูกเกด ชลธิชา" คดีอาญา 112 ปราศรัยหมิ่นสถาบันฯ
"รมว.ซาบีดา" นำผู้บริหาร วธ. เคารพธงชาติ- ร้องเพลงชาติ เนื่องในวันพระราชทานธงชาติไทย

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​