“กองทัพภาคที่ 2” ยัน “เขมร” เคลื่อนรถถัง ยิงปืนยั่วยุ 4 นัด ขว้างระเบิด ป่วนแนวลวดหนาม

“กองทัพภาคที่ 2” เผยวานนี้ พบเขมรนำรถถัง 1 คัน เข้าประชิดพื้นที่ช่องตาเต่า ทางขึ้นเขาพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ ขณะที่พื้นที่แนวชายแดน จ.สุรินทร์ พบการยิงปืนยั่วยุเข้าตรวจสอบแนววางกำลังของไทยรวม 4 นัด ใช้ระเบิดชนิดขว้างป่วนแนวลวดหนามจุดตรวจสามแยก ต.ตาเมียง 1 ครั้ง

“กองทัพภาคที่ 2” ยัน “เขมร” เคลื่อนรถถัง ยิงปืนยั่วยุ 4 นัด ขว้างระเบิด ป่วนแนวลวดหนาม – Top News รายงาน

กองทัพภาคที่ 2

 

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2568 เวลา 14.00 น. ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 สรุปภาพรวมสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ว่าสถานการณ์โดยรวม ฝ่ายกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2568 ฝ่ายทหารกัมพูชาได้เพิ่มเติมอาวุธยิงสนับสนุนวิถีตรงเข้ามาในพื้นที่แนวชายแดน โดยนำรถถัง 1 คัน เข้าที่ตั้งยิงบริเวณพื้นที่ตรงข้ามช่องตาเฒ่า ทางขึ้นเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ห่างจากแนวเส้นปฏิบัติการฝั่งไทยประมาณ 300 เมตร คาดว่าเป็นการเตรียมการปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายไทย

ต่อมาในประมาณเวลา 20.50 น. ฝ่ายทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณพื้นที่ช่องกร่าง ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ทางทิศตะวันออก ระยะประมาณ 150 เมตร ติดแนวลวดหนามของฝ่ายเรา และยังตรวจพบแสงไฟประมาณ 5 ดวง ในระยะ 100 เมตร บริเวณแนวรั้วลวดหนาม พร้อมทั้งได้ยินเสียงปืนเล็กยิงเข้ามาบริเวณพื้นที่วางกำลังของฝ่ายเรา จำนวน 3 นัด คาดว่าฝ่ายทหารกัมพูชาพยายามเข้ามาเกาะแนวลวดหนามของฝ่ายเรา ต้องการตรวจสอบแนวการวางกำลังและยั่วยุฝ่ายทหารไทย

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

และในเวลา 02.50 น. ฝ่ายทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณพื้นที่จุดตรวจสามแยก ตำบลตาเมียง อำเภอพนนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง จากทางทิศใต้ ระยะประมาณ 150 เมตร ติดกับแนวรั้วลวดหนามของฝ่ายเรา คาดว่าเป็นการใช้ระเบิดขว้าง ขว้างเข้ามาแนววางกำลังของฝ่ายเรา เพื่อตรวจสอบแนวการวางกำลังและยั่วยุฝ่ายทหารไทย ทั้งนี้ฝ่ายทหารไทยไม่มีการตอบโต้ และสูญเสียแต่อย่างใด โดยยังคงยึดมั่นในหลักการ อดกลั้น และปฏิบัติด้วยความรอบคอบ เพื่อป้องกันมิให้สถานการณ์บานปลายไปสู่ความรุนแรง

การกระทำดังกล่าวของฝ่ายทหารกัมพูชา เป็นการใช้อาวุธเพื่อการยั่วยุ และเพิ่มเติมกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ตามที่ได้ร่วมกันลงนามในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) และการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee : RBC) อีกทั้งยังเป็นการพยายามสร้างสถานการณ์ในการให้ฝ่ายไทยตอบโต้ด้วยอาวุธ เพื่อนำไปสู่การอพยพประชาชนกัมพูชาออกนอกพื้นที่บริเวณแนวชายแดน สร้างความชอบธรรมในการปฏิบัติการทางทหารต่อฝ่ายไทย โดยมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบและขั้นตอน เพื่อสร้างภาพในเวทีนานาชาติว่าฝ่ายไทยเป็นฝ่ายริเริ่มการปฏิบัติการทางทหาร และฝ่ายกัมพูชาเป็นผู้ถูกกระทำ

สถานการณ์ในปัจจุบันเป็นสัญญาณบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า ฝ่ายกัมพูชายังคงแสดงท่าทีไม่จริงใจต่อกระบวนการสันติภาพ และมีแนวโน้มที่จะผลักดันสถานการณ์ไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น ฝ่ายไทยยังคงยึดมั่นในแนวทางสันติ แต่ก็พร้อมปฏิบัติการเพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนไทยอย่างเต็มขีดความสามารถ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปี สัมพันธ์ไทย-จีน) ดับเพลิงไหหลำซ้อม 'กู้ภัยทางน้ำ' ครั้งใหญ่
ราชบุรีเข้ม/// ตรวจร้านค้าตลาดน้ำดำเนินสะดวก หลังยูทูบเบอร์เกาหลีดังโวย “ขายแพงเกินจริง”
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) แบรนด์ 'น้ำมะพร้าวไทย' ร่วมงาน CIIE ครั้งแรก เซ็นดีลที่เซี่ยงไฮ้
รัฐบาลส่งสัญญาณบวก! “สุชาติ ชมกลิ่น” เปิดโรงงาน Unicq Technology ตอกย้ำการพัฒนา EEC คู่ขนานเศรษฐกิจสีเขียว
กรมการจัดหางาน เดินหน้าระบบ E-WorkPermit ออกใบอนุญาตทำงานคนต่างด้าว กระแสตอบรับดี มียอดผู้เข้าใช้ระบบแล้ว 1.6 ล้านราย
“นฤมล” ถกบอร์ดจัดการศึกษาคนพิการ เคาะตั้งอนุกรรมการ ทบทวนกฎหมายปรับพ.ร.บ.ให้ทันสมัย หนุนเด็กพิการมีอาชีพ รายได้ คุณภาพชีวิตดีขึ้น

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​