“ซีพี” พลิกโฉมสู่อนาคต เปิดศูนย์วิจัยและนวัตกรรม CoE ขนทัพเครื่องมือปฏิบัติการระดับโลก ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีเอเชีย

"ซีพี" พลิกโฉมสู่อนาคต เปิดศูนย์วิจัยและนวัตกรรม CoE ขนทัพเครื่องมือปฏิบัติการระดับโลก ยกระดับไทยสู่ศูนย์กลางเทคโนโลยีเอเชีย

วันที่ 19 กันยายน 2568 เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) ตอกย้ำวิสัยทัศน์ Tech-Driven Company ด้วยการเปิดตัว CP-Center of Excellence (CP-CoE) ศูนย์วิจัยนวัตกรรมล้ำสมัย ณ True Digital Park ฝั่ง West ถนนสุขุมวิท ศูนย์แห่งนี้ได้รับการออกแบบให้เป็น “ระบบนิเวศแห่งนวัตกรรม” เชื่อมโยงโลกชีวภาพ โลกดิจิทัล และโลกข้อมูลเข้าด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็น สามเสาหลักสำคัญ ได้แก่ Bio-Technology Lab ที่มุ่งพัฒนานวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความมั่นคงทางอาหารอย่างยั่งยืน, Digital & AI Lab สำหรับสร้างระบบอัจฉริยะและวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และ Data Center & Cloud COE ซึ่งทำหน้าที่เป็นแกนกลางรองรับ Big Data, AI, Cloud และ Cybersecurity พร้อมเชื่อมต่อกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ โดยดำเนินงานด้วยโมเดลธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งการให้บริการห้องทดลอง การถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านเวิร์กชอป การต่อยอดทรัพย์สินทางปัญญาสู่เชิงพาณิชย์ รวมถึงการสร้างธุรกิจใหม่และการร่วมทุนกับพันธมิตร เพื่อให้ CP-CoE เป็นทั้งศูนย์วิจัยและเครื่องจักรสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศ

 

 

 

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงความสำคัญของ CP-Center of Excellence (CP-CoE) ว่า “หัวใจของการขับเคลื่อนนวัตกรรมสู่ความเป็นเลิศ คือการก่อตั้ง CP-CoE ศูนย์กลางแห่งองค์ความรู้และการวิจัย ซึ่งเกิดจากวิสัยทัศน์ของนายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส นายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อต่อยอดประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมระดับภูมิภาค เพราะการแข่งขันในศตวรรษที่ 21 ไม่ได้วัดกันที่ทรัพยากรเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการสร้างองค์ความรู้ เทคโนโลยีขั้นสูง และบุคลากรคุณภาพ” พร้อมระบุว่า CP-CoE ยังเป็น พื้นที่เชื่อมโยงผู้ผลิตกับผู้บริโภคโดยตรง เปิดโอกาสให้เห็นกระบวนการผลิตอย่างโปร่งใสและใกล้ชิด เป็นไปตามหลักการสามประโยชน์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ ประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประโยชน์ต่อประชาชน และประโยชน์ต่อองค์กร ส่งผลให้ CP-CoE ไม่เพียงเป็นศูนย์วิจัยเท่านั้น แต่ยังเป็น กลไกสำคัญขับเคลื่อนอนาคตที่ยั่งยืนของประเทศและสังคม

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางภัทนีย์ เล็กศรีสมพงษ์ ประธานผู้บริหารวิชาการอาหารสัตว์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า เครือซีพีดำเนินธุรกิจมากว่า 104 ปี และให้ความสำคัญกับการลงทุนด้านไบโอเทคอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในเรื่อง “ความปลอดภัยทางอาหาร” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ เครือซีพีได้ยกระดับมาตรฐานการควบคุมให้เข้มงวดและสูงกว่ากฎเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้บริโภคทั่วโลก ในบริบทนี้ CP-Center of Excellence (CP-CoE) จึงถือกำเนิดขึ้น ภายใต้วิสัยทัศน์ในการใช้เทคโนโลยีไบโอเทคเพื่อยกระดับความปลอดภัยของอาหาร พร้อมทั้งร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก เช่น Alltech บริษัทด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Agri-bioscience company) สัญชาติอเมริกัน เพื่อวิจัยและพัฒนา โภชนาการสัตว์ สุขภาพสัตว์ ผ่านเทคโนโลยีชีวภาพ อีกทั้งศูนย์ฯ ยังได้รับการออกแบบให้เป็น “ศูนย์การศึกษาและถ่ายทอดความรู้” สำหรับบุคคลภายนอก ช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างมาตรฐานด้านนวัตกรรมอาหารอย่างยั่งยืน

 

นายเอกราช ปัญจวีณิน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านดิจิทัล บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ระบุว่า CP-Center of Excellence (CP-CoE) คือหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนนวัตกรรมในยุคดิจิทัล ทุกวันนี้ทุกอุตสาหกรรมไม่สามารถหลีกเลี่ยงการพึ่งพาดิจิทัลได้อีกต่อไป และโลกไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีเพียงหนึ่งเดียว แต่เกิดจากการผสานพลังของเทคโนโลยีหลายแขนงเข้าด้วยกัน CP-CoE จึงมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนจากผู้ใช้เทคโนโลยีให้เป็นผู้สร้างเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์ปัญหา ความต้องการ และเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ โดยเลือกใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อรังสรรค์นวัตกรรมให้เกิดขึ้นจริง

 

สำหรับสามเสาหลักที่ตอบโจทย์โลกอนาคต โดยด้าน Bio-Tech มุ่งสร้างชีวิตที่ยืนยาวและยั่งยืน ผ่านแนวคิด “อาหารเป็นยา” (Food as Medicine) เพื่อลดความเสี่ยงโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs), การศึกษา Microbiome และ Gut-Brain Connection เพื่อสุขภาพสมองและภูมิคุ้มกัน, การผลิตเนื้อสังเคราะห์ (Cultured Meat) เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, การปลูกพืชในสภาพแวดล้อมควบคุม (Space Farming) เพื่ออนาคตนอกโลก และการวิเคราะห์ Multi-Omics ของมนุษย์ สัตว์ และพืชอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือปฏิบัติการที่ทันสมัย และเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย อาทิ เครื่องถอดรหัสพันธุกรรม Next Generation Sequencing รุ่นใหม่ล่าสุดของ Illumina Miseq เครื่องแรกในประเทศไทย โดยทำหน้าที่หาลำดับเบสของ DNA/RNA ที่สามารถอ่านข้อมูลทางพันธุกรรมได้ปริมาณมหาศาล รวดเร็ว และต้นทุนต่ำกว่าเทคนิคแบบดั้งเดิม (Sanger Sequencing) อย่างมาก เหมาะสำหรับการวิจัยด้านจีโนมิกส์ การแพทย์แม่นยำ การปรับปรุงพันธุ์ทั้งพืชและสัตว์ การตรวจวินิจฉัยโรค และการพัฒนายาและวัคซีน หรือเครื่องมือปฏิบัติการ High Resolution Mass Spectrometry (HRMS) เป็นเครื่องมือวิเคราะห์สารที่มีความละเอียดและความแม่นยำสูงมาก ใช้หลักการวัดอัตราส่วนมวลต่อประจุ (m/z) ของไอออนที่เกิดจากสารตัวอย่าง ได้รับการใช้งานเพื่อวิเคราะห์โปรตีนและเมแทบอไลต์ ค้นหาสารออกฤทธิ์ทางยา รวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยด้านอาหารและสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นเครื่องมือสำคัญต่อทั้งการวิจัยและการควบคุมคุณภาพในหลายอุตสาหกรรม

 

ด้าน Digital & AI มุ่งสร้างระบบอัจฉริยะผ่าน AI และหุ่นยนต์อัจฉริยะ (Robotics), Smart Factory & Smart Farm เชื่อมโยง IoT, Automation และ Big Data รวมถึงระบบวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูงเพื่อสนับสนุนการคาดการณ์และตัดสินใจอย่างแม่นยำ เช่นเดียวกันยังมีเครื่องมือปฏิบัติการที่ทันสมัย อาทิ เครื่องปฏิบัติการ Remote Photoplethysmography AI เป็นเทคโนโลยีที่ใช้กล้องวิดีโอหรือเซ็นเซอร์ไม่สัมผัสตัวคน เพื่อตรวจสุขภาพเบื้องต้น วัดชีพจร (Heart Rate) และการไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนัง โดยไม่ต้องใช้เซ็นเซอร์สัมผัสแบบดั้งเดิม เช่น สายรัดข้อมือหรือเครื่องวัดชีพจรแบบติดผิวหนัง เป็นต้น Delivery Drone โดรนขนส่งพัสดุที่สามารถรองรับได้กว่า 10 กิโลกรัม มีประโยชน์อย่างสูง หากเกิดภัยพิบัติ ที่ต้องการส่งอาหาร และข้าวของเครื่องใช้ในพื้นที่ประสบภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองใช้นอกบริเวณกรุงเทพมหานคร Gap Scan Robots หุ่นยนต์วิ่งสำรวจชั้นวางสินค้า เพื่อสำรวจ และเติมสินค้า และ Home Robots หุ่นยนต์สำหรับดูแลผู้สูงอายุ และเด็ก ที่สามารถเดินตรวจตรา และแจ้งเตือนได้ ด้าน Data Center & Cloud CoE รองรับ Big Data, Cloud, AI และ Cybersecurity เชื่อมต่อ True Internet Data Center

 

 

การก่อตั้ง CP-CoE ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเครือซีพีในการสร้าง “S-Curve ใหม่” ให้กับประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลกจากภาคเอกชน มหาวิทยาลัยชั้นนำ และหน่วยงานรัฐกว่า 30 องค์กร ที่เข้าร่วมวิจัย พัฒนาต้นแบบ ถ่ายทอดองค์ความรู้ และสร้างบุคลากรคุณภาพเพื่ออนาคต พันธมิตรภาคเอกชน ได้แก่ ZTE Thailand, Huawei Thailand, Novonesis, Alltech, IBM Thailand, Tencent Cloud International, Unitree Robotics, Galaxy Space, Xi Xiang, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยมหิดล, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโครงการ Harbour.Space แห่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA), สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.), สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) เป็นต้น

CP-Center of Excellence คือจุดเริ่มต้นของอนาคตใหม่ที่ประเทศไทยจะไม่เพียงแค่ก้าวตามเทคโนโลยีโลก แต่จะเป็นผู้สร้างเทคโนโลยีเพื่อตอบโจทย์มนุษยชาติอย่างแท้จริง

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อบรมอาสาฯ ดูแลนักท่องเที่ยว สร้างเครือข่ายความปลอดภัยในพื้นที่
หญิงวัย 35 รมควันคิดสั้นในรถ ตำรวจชุมพรทุบกระจกช่วยรอดชีวิตหวุดหวิด
อบจ.พิษณุโลก ร่วมโครงการขับเคลื่อนการจัดตั้งมินิธัญญารักษ์นอกโรงพยาบาล
ตระเวนขโมยผ้าไหม ผกก.สภ.บัวเชด จัดทีมตามจับหัวขโมยได้ภายใน 1 ชั่วโมงหลังรับแจ้งเหตุ
กวาด 3 รางวัลใหญ่ เชียร์ลีดดิ้งระดับเอเชียและระดับประเทศ
ตำรวจน่านโชว์ฟอร์มเด็ด ใช้เวลา 2 ชม. ตามรวบ “น็อต-กาโว” ดีดจนหลอน ปีนบ้านยกเค้า

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​