เบื้องลึก “เลขาฯ ป.ป.ช.” ไขก๊อก – เปิด 11 คดีเผือกร้อนในมือ

เปิดเบื้องลึก “สาโรจน์” เลขาฯ ป.ป.ช. ลาออก เผยมาจากแรงกดดันคดีสำคัญ แถมผลงานไม่เข้าตาโดนประเมินต่ำ พร้อมเปิด 11 คดีสำคัญเผือกร้อนในมือ ป.ป.ช.

เบื้องลึก “เลขาฯ ป.ป.ช.” ไขก๊อก – เปิด 11 คดีเผือกร้อนในมือ – Top News รายงาน

 

เลขาฯ ป.ป.ช.

 

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ทำให้สังคมเกิดความกังขาหลังจาก นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นลาออกจากตำแหน่งอย่างปัจจุบันทันด่วน โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติเอกฉันท์อนุมัติการลาออกราชการของ นายสาโรจน์ และแต่งตั้งให้ พลตำรวจตรี อรุณ อมรวิริยะกุล รองเลขาฯ รักษาราชการแทนไปก่อน

ทั้งนี้นายสาโรจน์ได้ยื่นหนังสือลาออกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง เลขาฯ ป.ป.ช. เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา และจะครบกำหนดเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 1 ตุลาคม 2569 ส่วนสาเหตุของการลาออกยังไม่ทราบแน่ชัดว่า เกิดจากอะไร แต่ขณะเดียวกันแหล่งข่าวระดับสูงใน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า การยื่นหนังสือลาออกของ นายสาโรจน์ อาจเป็นเพราะในช่วงของการดำรงตำแหน่งเลขาฯ ป.ป.ช. ที่ผ่านมา นายสาโรจน์ เผชิญแรงกดดันในการทำงานหลายเรื่องโดยเฉพาะการทำคดีสำคัญต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยมีความคืบหน้า จึงทำให้ช่วงเดือนเมษายน 2568 ที่ผ่านมา นายสาโรจน์ ปรากฏชื่อเข้ารับรับสมัครเป็นกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.)

นอกจากนี้แหล่งข่าวยังเปิดเผยต่อว่าหลังจากนายสาโรจน์ดำรงตำแหน่งเลขาฯป.ป.ช. ปรากฎว่า มีผลงานไม่เข้าตาคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงได้รับการประเมินคะแนนการทำงานจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในระดับน้อยมากถึงขั้นที่กรรมการ ป.ป.ช. อาจโยก นายสาโรจน์ไปอยู่ในตำแหน่งอื่นๆ เช่น ผู้ทรงคุณวุฒิ ที่มีระดับเดียวกับตำแหน่งเลขาธิการ ป.ป.ช. ตามการปรับโครงสร้างใหม่ของ ป.ป.ช. โดยหลังจากนายสาโรจน์ได้รับการประเมินจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. จึงยื่นหนังสือลาออก เพื่อเตรียมไปรับราชการในตำแหน่งใหม่ ซึ่งยังไม่ใช่ตำแหน่งกรรมการ คตง.ที่สมัครไปเมื่อเดือนเม.ย.2568 ที่ผ่านมา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับคดีร้อนที่ถือเป็นเผือกร้อนของ ป.ป.ช. ในยุคของนายสาโรจน์ดำรงตำแหน่งประกอบด้วย คดีที่ 1 กรณีกล่าวหานายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และพลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กรณีส่งตัวผู้ต้องขังรายนายทักษิณ ชินวัตร จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจโดยมิชอบ และให้นายทักษิณ อยู่รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจจนกระทั่งครบ 180 วัน ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยจริง เพื่อเอื้อประโยชน์ให้นายทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องถูกคุมขังในเรือนจำ ซึ่งคดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้พิจารณา โดยดำเนินการไต่สวนกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ สังกัดกรมราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวม 12 คน

คดีที่ 2 กรณีกล่าวหานายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวก ในฐานะคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าดำเนินการคัดเลือกรายชื่อเสนอแต่งตั้ง พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมลให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่เป็นไปตามกฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงอาวุโสและความรู้ความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะประสบการณ์ในงานสืบสวน หรืองานป้องกันปราบปราม โดยคดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาเห็นว่า นายเศรษฐาไม่มีพฤติการณ์หรือเจตนาทุจริตเพื่อประโยชน์ของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ จึงมีมติไม่รับเรื่องกล่าวหาไว้พิจารณา

คดีที่ 3 กรณีกล่าวหา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับพวก เรียกรับเงินหรือทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ และธุรกิจผิดกฎหมายอื่น จำนวน 18 ประเภท โดยคดีนี้ ป.ป.ช.ทั้งคณะ (9 คน) เป็นองค์คณะไต่สวน และหากในชั้นไต่สวนพบว่ามีบุคคลอื่นมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดให้ดำเนินการไต่สวนกับบุคคลดังกล่าวต่อไป

 

คดีที่ 4 กรณีกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรอง ผบ.ตร.กับพวก เรียกรับผลประโยชน์จากเว็บพนันออนไลน์ สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้องกัน และรับทรัพย์สินเกินกว่า 3,000 บาท ปัจจุบันมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นเสร็จแล้วอยู่ระหว่างเสนอที่ประชุม ป.ป.ช.ตั้งองค์คณะไต่สวน

คดีที่ 5 กรณีกล่าวหา นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม และอดีตเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย กรณีถือครองหุ้นห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ที่ถูกศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี และข้อเท็จจริงเห็นว่า นายศักดิ์สยามให้นอมินีถือครองหุ้นแทนใน หจก.บุรีเจริญฯ ปัจจุบัน ป.ป.ช. ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น

 

คดีที่ 6 กรณีกล่าวหา นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ คดีแจกถุงยังชีพ ปรากฎหน้า และชื่อตัวเองบนถุง โดยปัจจุบันคณะกรรมการ ป.ป.ช.มีการตั้งองค์คณะไต่สวน และแจ้งข้อกล่าวหานายพีระพันธุ์แล้ว และอยู่ระหว่างให้มาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว

คดีที่ 7 กรณีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ สมชาย แสวงการ ดร.เจษฎ์ โทณะวณิก ยื่นร้องป.ป.ช. เพื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเอาผิด ครม.รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และ ครม. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ต่อเนื่องกรณีเสนอเรื่องต่อ กมธ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 รวมถึงร้องเอาผิด สมาชิกรัฐสภาทั้ง สส.-สว.ที่ร่วมกันลงมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯ 2568 กรณีรัฐบาลเศรษฐา ต่อเนื่องรัฐบาลแพทองธาร โดยโยกงบฯปี 2568 วงเงิน 35,000 ล้านบาท ที่เดิมสำนักงบประมาณจัดสรรไว้ให้สถาบันการเงินของรัฐ 5 แห่ง เพื่อชำระหนี้เงินกู้-ดอกเบี้ย และเงินที่กำหนดให้จ่ายตามกฎหมาย แต่รัฐบาลนำเงินดังกล่าวไปแจกเป็นเงินหมื่นให้ประชาชน หรือดิจิทัลวอลเล็ต จึงร้องว่าทำผิดมาตรา 144 เพราะงบ 35,000 ล้านบาทดังกล่าว ผู้ร้องเห็นว่าคือ เงินส่งใช้คืนเงินกู้-ดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งมาตรา 144 ห้ามแตะต้อง แต่ทั้งหมดร่วมกันเห็นชอบนำเงินดังกล่าวไปใช้ผิดประเภทงบฯ ปี 69 ซึ่งเข้าข่ายฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง และ ถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี โดนสำนวนนี้ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.

 

คดีที่ 8 กรณีกล่าวหา สส.เขต พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยบรรดา สส.และอดีต สส.พรรคเพื่อไทย เช่น นายสาโรจน์ หงส์ชูเวช นายพิษณุ หัตถสงเคราะห์ นายจักรพงษ์ แสงมณี ที่ปรึกษานายกฯ อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ รวมถึงผู้บริหารระดับสูง ในสำนักงบประมาณ ว่ามีพฤติการณ์ฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 วรรคสอง มีพฤติการณ์ใช้สถานะ หรือตำแหน่ง กระทำการ สั่งการ บังคับ ก้าวก่าย หรือเข้าแทรกแชง ในการจัดทำงบประมาณ การอนุมัติงบฯ การบริหารงบฯ โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วง ปี 2568 วงเงินราว 51,584 ล้านบาท ผ่านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) เพื่อประโยชน์ของตนเอง และผู้อื่น หรือพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม ในการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 โดยทั้ง 2 สำนวนนี้ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช. โดน2 สำนวนนี้ ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการไต่สวนของ ป.ป.ช.

คดีที่ 9 กรณีกล่าวหา 44 สส.อดีตพรรคก้าวไกล ( ในจำนวนนี้มี 25 สส.ที่สังกัดพรรคประชาชน ในปัจจุบัน) ร่วมกันลงชื่อ และเสนอการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯ ร้ายแรงหรือไม่ ปัจจุบันมีการแจ้งข้อกล่าวหา 44 สส.แล้ว อยู่ในขั้นตอนเรียกมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

 

คดีที่ 10 กรณีกล่าวหา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย หลายคดี เช่น คดีคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ น.ส. แพทองธาร พ้นนายกฯ เนื่องจากฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมฯร้ายแรง เบื้องต้นคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีผลผูกพันทุกองค์กร ดังนั้นอาจเทียบเคียงกับกรณีของ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรีพ้นเลขาฯ สมช. ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์” พ้นเก้าอี้ไปก่อน ต่อมา ป.ป.ช.สอบ และชี้มูลความผิด น.ส.ยิ่งลักษณ์ในคดีเดียวกัน

คดีที่ 11 กรณีกล่าวหา “ตั๋ว PN” หรือตั๋วสัญญาใช้เงิน ในการซื้อขายหุ้นกว่า 4.4 พันล้านบาท แก่บุคคลในครอบครัวของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร โดยเรื่องนี้ถูก ฝ่ายค้านนำโดยนาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชนซักฟอกในสภาฯว่า เข้าข่ายทำ “นิติกรรมอำพราง” หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีการรับให้ กว่า 218.7 ล้านบาทหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ ป.ป.ช .อยู่ระหว่างการตรวจสอบเบื้องต้น เช่นกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นาโนเทค คิกออฟ "เชียงราย" พื้นที่ต้นแบบ วทน. ยกระดับคุณภาพน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำกก
10 องค์กรผนึกกำลังคืนคนดีสู่สังคมที่ดีในอนาคตหลังพ้นโทษ
"วิทยาลัยดุสิต" เปิด workshop สุดพิเศษ "idol Table Manners" เสริมบุคลิกภาพ 10 คนสุดท้ายคิดดีไอดอล 2025 เสริมความมั่นใจในการเข้าสังคมและกิจกรรมสาธารณะ
จีนเรียกร้องสหรัฐถอนระบบขีปนาวุธไทฟอนออกจากญี่ปุ่น
ประชุมหารือแนวทางและกฎเกณฑ์การเปิดตลาดริมคลองพานทอง และ ถนนคนเดิน
ชวน ชิม ชอป เที่ยวงานวัดสุทัศน์ เทิดพระเกียรติ ร.8 เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพครบ 100 ปี ระหว่าง 20-27 กันยายน 68

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​