เดอะ พนมเปญโพสต์รายงานว่า สถานเอกอัครราชทูตอังกฤษประจำกรุงพนมเปญได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดีกับไทยและกัมพูชาที่บรรลุข้อตกลง 5 ข้อระหว่างการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชาเมื่อพุธที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการถอนอาวุธหนัก, การเก็บกู้ทุ่นระเบิดและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือเครือข่ายสแกมเมอร์
นอกจากนี้ก็ยังมีสถานทูตจีนที่โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่าจีนจะใช้ความพยายามอย่างไม่ลดละในการสนับสนุนให้ไทยและกัมพูชายึดมั่นและปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างจริงจังและครบถ้วน รวมทั้งช่่วยให้สถานการณ์ที่แนวพรมแดนมาเป็นปกติโดยเร็ว
ขณะที่เดเร็ก ยิป เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำกรุงพนมเปญก็โพสต์ผ่าน X ขานรับผลการประชุม GBC ที่เกาะกงพร้อมแสดงความหวังว่าการดำเนินการตามข้อตกลงทั้ง 5 ข้อจะช่วยฟื้นฟูความไว้วางใจและความเชื่อมั่นระหว่างสองประเทศ และนำไปสู่การยุติข้อพิพาทแบบยั่งยืน
สื่อเขมรเผยว่าญี่ปุ่นเป็นชาติแรกที่ออกแถลงการณ์ขานรับผลการเจรจา รวมทั้งเสนอให้ไทยและกัมพูชาเปิดจุดผ่านแดนในบางพื้นที่ แต่เสียงเรียกร้องของญี่ปุ่นกลับได้รับเสียงสะท้อนกลับทั้งที่เป็นเชิงบวกและเชิงลบ
โดยเลขาราชบัณฑิตยสถานกัมพูชามองว่าเร็วเกินไปที่จะเปิดด่าน โดยให้เหตุผลว่าไทยไม่น่าไว้วางใจ ทั้งไม่เคยมีทีท่าว่าจะเคารพข้อตกลงหยุดยิง แถมยังมีท่าที “หยิ่งยะโสโอหัง” ทั้งๆที่ไทยเป็นฝ่ายยั่วยุก่อนตั้งแต่ต้น นอกจากนี้ยังจับทหารกัมพูชาและกั้นรั้วหนาม และว่าไทย-กัมพูชามีข้อตกลงและ MOU หลายฉบับ แต่ไทยไม่เคยเคารพข้อตกลง แล้วคราวนี้จะเชื่อคำพูดไทยได้อย่างไร
ในฝั่งของไทยนั้น กองทัพก็ไม่เห็นด้วยกับการเปิดด่านในช่วงนี้เช่นกัน โดยให้เหตุผลว่าเสี่ยงต่อความมั่นคงและอาจทำให้ปัญหาอาชญากรรมและการพนันออนไลน์กลับมาอีก ทั้งยังช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจกัมพูชา อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า
ฝั่งไทยกำลังเตรียมความพร้อมที่จะกลับมาเปิดจุดผ่านแดนที่จังหวัดจันทบุรีและตราดซึ่งมีความตึงเครียดน้อยกว่าจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วที่อยู่ตรงข้ามกับจังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชา