ช่วงนี้เป็นปกติประจำที่ “โทนี่ วู้ดซัม ” ทักษิณ ชินวัตร นักโทษแดนไกล จะหาเรื่องหาประเด็นมาขย่ม “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ สารพัดต่อเนื่องติดต่อกันนานหลายเดือน ล่าสุด 12 ต.ค.ที่ผ่านมา ก็ออกมาพูดผ่านรายการ “CareTalk x Care Clubhouse” ครั้งที่ 17 ที่บรรดาลูกขุนพลอยพยัคฆ์จัดเวทีออนไลน์ให้นายใหญ่ด่าชาวบ้านเล่นทุกสัปดาห์ ลดความตึงเครียดให้นักโทษหนีคดีหลายปีแล้วที่ไม่ได้กลับบ้าน รอบนี้ตั้งหัวข้อให้โทนี่โม้ว่า “7 ปีพัง ขออีก 5 ปีคงพินาศ ฮัลโลคนไทยไว้ใจประยุทธ์ได้หรือ?” ไม่รู้โกรธที่พล.อ.ประยุทธ์ผลักดันการเปิดประเทศได้สำเร็จภายใน 120 วันตามที่รับปากไว้กับคนไทยหรืออย่างไร พูดคราวนี้โทนี่เลยเล่นใหญ่จัดเต็มเปิดฉากก็ชมพล.อ.ประยุทธ์นิดหน่อย จากนั้นก็อวดอ้างสรรพคุณของตัวเองหลอกพวกตัวเองเหมือนเคย “ขอชื่นชมความมุ่งมั่นของนายกฯ ผมบอก ผมเปิดได้ 180 วัน แต่ท่านนายกฯบอก 120 วัน แล้วท่านก็ทำได้จริงๆก็ขอชื่นชม แต่ 180 ของผม มันมีเงื่อนไขเยอะแยะ วัคซีนต้องเรียบร้อยคนไทยได้ฉีดวัคซีน 60 -70 % ถึง 2 เข็ม วัคซีนต้องคุณภาพถึงด้วย ไม่งั้นภูมิคุ้มกันต่ำ ระบบสาธารณสุขก็ต้องดี มีการเตรียมโรงพยาบาลไว้ให้พร้อม มียารักษาในเฟสต่อไป แต่วันนี้รัฐบาลบริหารแบบเช้าชามเย็นชามไม่ได้เร่งสปีดอะไร” ทักษิณเปิดหัวรายการพูดดีใส่ตัวป้ายชั่วให้คนอื่นเหมือนเช่นเคย
ก่อนจะร่ายยาวอัดพล.อ.ประยุทธ์ควบคุมอำนาจบริหารประเทศมาเกือบ 7 ปีไม่มีอะไรดีขึ้น หนำซ้ำเตรียมจะขอคนไทยต่อวีซ่าออกไปอีก 5 ปี งานนี้ก็เลยทำให้บรรดาฝ่ายค้านฝ่ายแค้นทั้งในทั้งนอกประเทศดิ้นกันเป็นเจ้าเข้า จัดรายการรอบนี้โทนี่จึงล่อเรื่องพล.อ.ประยุทธ์อยู่ยาวแบบเต็มๆ เพราะถ้าไม่พูดไม่แซะเรื่องนี้ บวกลบคูณหาร มีแววว่าชาตินี้คงไม่มีวันได้กลับบ้าน ไม่มีทางได้กลับมานอนตายในบ้านเกิดอย่างแน่นอน ” เชื่อว่าคงอยู่ได้ไม่นานหากใช้พฤติกรรมแบบนี้ วันนี้ท่านขอเวลาอยู่อีก 5 ปีเพื่อขอพลิกโฉมประเทศไทย ผมไม่แน่ใจว่าท่านจะอยู่พลิกโฉมได้หรือเปล่า เพราะสิ่งที่ทำ ท่านทำให้ประเทศเสียโฉมมาเยอะแล้ว …..ท่านทำจนบ้านเมืองพังหมด 7 ปี แล้ววันนี้อีก 5 ปี ผมยกมือไหว้ ผมรุ่นพี่นะ รุ่นพี่ แต่ไหว้รุ่นน้องหน่อยเถอะว่า พอเถอะท่าน เสียดายบ้านเมือง เสียดายบ้านเมืองจริง ๆ พอเหอะ” อดีตเป็นนายกฯแต่ปัจจุบันเป็นนักโทษหนีคดีกล่าว
อาศัยช่วงเวลาการเมืองเงียบๆ ไม่มีเรื่องอะไรหวือหวา เปิดประเด็นลอบกัดพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลไปเรื่อยๆ อาศัยช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์กับครม. กำลังมุ่งมั่นกับการช่วยเหลือคนไทย บรรเทาทุกข์จากสถานการณ์น้ำท่วม หลายจังหวัดหลายพื้นที่ปีนี้ท่วมหนักหน่วงใหญ่หลวงกว่าปี พ.ศ. 2554 ยุคปูเอาอยู่ การันตีรับมือน้ำท่วมได้สบายแต่สุดท้ายฉิบหายกันยกประเทศ 77 จังหวัด 87 อำเภอ เสียชีวิต 815 คน ทำคนเดือนร้อนเกือบ 13 ล้านคน ธนาคารโลกประเมินความเสียหายสูงลิ่วถึง 1.44 ล้านล้านบาท ความเดือดร้อนของ “รากหญ้า-รากแก้ว” เหล่านี้ทักษิณไม่เคยคิดยิ่งลักษณ์ไม่เคยพูดเพื่อไทยไม่เคยเอามาโพสต์ว่าจะหาทางช่วยเหลือคนไทยอย่างไร วันๆเอาแต่นั่งด่านั่งนึกเมื่อไหร่พล.อ.ประยุทธ์กับ 3 ป.จะพ้นจากอำนาจไปเสียที
ล่าสุดก็เล็งดัน “เขยใหญ่” ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีเอม พินทองทา ชินวัตร ขึ้นมารับบทผู้นำพรรคเพื่อไทย เตรียมดุนหลังกันถึงขั้นวางตัวให้เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยกันเลยทีเดียว แม้เมียกับลูกสาวไม่เห็นด้วยไม่อยากให้ลูกเขยกับผัวต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะรางเหมือนพ่อกับอาอีก แต่โทนี่อยากได้คนใกล้ชิดกำขี้ดีกว่ากำตดมากกว่าไปเลือกคนนอกอย่าง “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน บิ๊กบอสแสนสิริ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ มากฝีมือ เขี้ยวประสบการณ์ ที่อดีตเคยมีข่าวใหญ่เป็นคนรู้ใจยิ่งลักษณ์ มาชิงดำเบียดเก้าอี้นายกฯกับพล.อ.ประยุทธ์ อย่าได้แปลกใจที่โทนี่พยายามหยิบเรื่องอายุ เรื่องคนรุ่นใหม่ เอาเรื่อง Gen X Gen Y มาขายฝันนั่งสร.1 ในการเลือกตั้งคราวหน้า เนื้อแท้ความจริงก็คือชงเรื่องให้เข้าทาง “ลูกเขย” ไม่ก็ปูทางให้ “คนสนิท” ของน้องสาวเข้ามาบริหารประเทศแทน
“ให้คนรุ่นใหม่มาทำเหอะ เรามันแก่แล้ว พวกเรามันพวก Baby Boomer มันไม่เข้าใจหรอก ว่าเด็กรุ่น Generation หลัง ๆ เรา มันคิดยังไง ….. 7 ปีมันพิสูจน์แล้วว่า ท่านหยุดดีกว่า ให้คนรุ่นใหม่มาเถอะ แต่คนรุ่นใหม่ไม่ใช่อีก ป. นึงนะ ท่านมี 3 ป. ทั้ง 3 ป. มันตกรุ่นหมดแล้ว พอแล้ว …ผมคิดว่าท่านมันตกยุค วันนี้ Baby Boomer ต้องอย่านั่งเป็นนายกฯ เลย พอแล้ว ให้ Gen X Gen Y ดีกว่า เลยบอกว่า 7 ปีหนักหนาแล้ว 5 ปีอย่าเลย พอเหอะ วันนี้สังคมเราเสียหายไปเยอะแล้ว เห็นแก่บ้านเมืองเถอะ” ทักษิณกล่าวพร้อมยกมือไหว้โชว์ดราม่าแสดงละครข้ามโลก อ้อนสาวกแดงขอความเห็นใจจากบริวารทุนนิยมสามานย์
ทักษิณเกิด 26 ก.ค.2492 ปัจจุบันอายุ 72 ย่าง 73 ปี หลังถูกรัฐประหารโดยพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผบ.ทบ.กับคณะในนาม “คปค.” ปฏิวัติเมื่อ 19 ก.ย. 2549 เจ้าตัวเคยเดินทางกลับไทยเมื่อ 28 ก.พ.2551 หลังพรรคพลังประชาชนภายใต้การนำของสมัคร สุนทรเวช ชนะการเลือกตั้งได้เป็นนายกฯเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ช่วงนั้นโทนี่เข้าๆออกๆประเทศไทยอยู่หลายเดือน แต่สุดท้ายช่วงเดือนส.ค.2551 ก็หนีออกไปแบบไม่กลับมาอีก หลังถูกศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ในคดีที่ดินรัชดา ต่อมาก็ถูกเพิกถอนพาสปอร์ตเดินทางเล่มแดง ก่อนถูกยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านบาท
จวบจนวันนี้นับได้ 13 ปีเศษแล้วที่โทนี่ไม่ได้เหยียบแผ่นดินแม่ไม่ได้กลับบ้านเกิดมาเยี่ยมลูกเมีย แม้บรรดาลูกๆหลานๆจะบินไปหาที่ดูไบ แต่บรรยากาศ ความรู้สึกสิ่งแวดล้อมต่างๆ ยังไงก็ไม่เหมือนอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ต่อให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแสนสบาย มีเทคโนโลยีล้ำสมัย มีอาหารการกินอร่อยมากมายขนาดไหนที่เมืองนอก ยังไงก็ไม่มีทางสุขสมอุราเท่ากับกินข้าวกับน้ำพริกปลาทูที่เมืองไทย เป็นธรรมดาที่โทนี่ต้องโหยหาอยากกลับบ้านอยากบินกลับไทยเป็นพิเศษ โดยเฉพาะหลังเกิดวิกฤติโควิด-19 ระบาดทั่วโลกมีคนตายไปแล้วกว่า 4.8 ล้านคน โดยเฉพาะในเวลาที่พล.อ.ประยุทธ์กำลังอยู่ในช่วงขาลง คนไทยเริ่มเบื่อเพราะอยู่นาน เศรษฐกิจก็แย่โควิด-19 ก็ระบาด น้ำท่าก็ท่วมขายของก็ไม่ดี ม็อบก็ยังป่วนกรุงไม่หยุด หนำซ้ำการเมืองยังไม่นิ่งพลังประชารัฐภายในก็กัดกันยังกะหมา พรรคร่วมก็ง่อนแง่น แก้รัฐธรรมนูญบัตร 2 ใบก็เข้าทางเพื่อไทยอีก สถาบันก็ถูกรุกอย่างหนัก คนไทยก็อ่อนแอแตกสามัคคี เขี้ยวรากดินตัวพ่ออย่างโทนี่มีหรือมองเรื่องพวกนี้ไม่ออก ไม่ขย่มพล.อ.ประยุทธ์ตอนนี้ ไม่หาเรื่องให้ 3 ป. แตกกันไวไว ก็โง่บรรลัยแล้ว จับตาจากนี้โทนี่และบรรดาเครือข่ายจะเดินเกมรุกไล่พล.อ.ประยุทธ์อย่างหนักหน่วงต่อไป ด้อยค่านายกฯไปเรื่อยๆจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้ง
////////////////
