CNN, BBC และ AFP รายงานว่ายูเครนระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 500 นายและตำรวจราว 1 พันนายเร่งให้ความช่วยเหลือและค้นหาผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (พฤหัสที่ 25 สค.) หลังจากรัสเซียเปิดปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ 629 ครั้ง โดยส่งโดรน 598 ลำและขีปนาวุธ 31 ลูกถล่มหลายพื้นที่และอาคารหลายแห่งทั่วกรุงเคียฟตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผุ้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วย 4 คน และยังมีเด็กได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 10 คน
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่ากองทัพรัสเซียโจมตีเป้าหมายนิคมอุตสาหกรรมการทหารและฐานทัพอากาศยูเครน โดยใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูง
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี้ ของยูเครนออกมาประณามการโจมตีของรัสเซียว่าจงใจโจมตีและสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์
ปฏิบัติการโจมตีเมื่อคืนที่ผ่านมายังสร้างความเสียหายให้กับอาคารของสำนักงานอียูประจำยูเครน ทำให้อัวร์ซูล่า ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปออกมาแถลงอย่างโกรธเกรี้ยว ตำหนิรัสเซียว่าไม่มีเจตนาที่จะหยุดยั้งการโจมตียูเครนแม้แต่นิด ทั้งยังหลับหูหลับตาโจมตีพลเรือนทั้งชายหญิงและเด็กเล็ก แม้แต่สำนักงานอียูก็ตกเป้าด้วย พร้อมประกาศจะเดินหน้ากดดันรัสเซียจนถึงที่สุด
ขณะที่นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษก็ออกมาเผยว่าอาคารสำนักงานบริติชเคาน์ซิลที่เคียฟก็ถูกถล่มได้รับความเสียหายเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีสำนักข่าวเรดิโอ ลิเบอร์ตี้ ที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐที่โดนถล่ม กระจกหน้าต่างแตกและอุปกรณ์ออกอากาศได้รับความเสียหาย แต่สตาฟทุกคนปลอดภัย
นายอันดรี ซิบิฮา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนออกมากล่าวหารัสเซียว่าโจมตีเป้าหมายทางการทูต ชี้รัสเซียละเมิดอนุสัญญากรุงเวียนนา และเรียกร้องประชาคมออกมาร่วมประณาม
รัฐมนตรีมหาดไทยยูเครนเผยว่าเสียงเตือนภัยดังนานถึง 9 ชั่วโมง ทำให้ชาวเมืองเคียฟต่างวิ่งหนีตายหลบเข้าไปอยุ่ในสถานีรถไฟใต้ดินและศูนย์หลบภัยตลอดทั้งคืนจนถึงรุ่งเช้า
ปฏิบัติการโจมตีเคียฟครั้งล่าสุดมีขึ้นเพียงสองสัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐพบหารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียหวังผลักดันข้อตกลงสันติภาพยูเครน ขณะที่ผู้แทนยูเครนก็เตรียมพบกับเจ้าหน้าที่สหรัฐที่นครนิวยอร์กในวันศุกร์นี้เพื่อหารือความคืบหน้าข้อตกลงสันติภาพ