ทบ.ร่วมสถาบันนิติวิทย์ เข้าตรวจสอบ “รพ.พนมดงรัก” เก็บหลักฐาน เหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา

“ทบ.” ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก.ยุติธรรม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ เก็บหลักฐานผลกระทบ จากกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายเขมร

ทบ.ร่วมสถาบันนิติวิทย์ เข้าตรวจสอบ “รพ.พนมดงรัก” เก็บหลักฐาน เหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา – Top News รายงาน

 

ทบ.

 

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 เวลา 13.02 เพจเฟซบุ๊ก โฆษกกองทัพบก โพสต์ข้อความว่า “กองทัพบก ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ โรงพยาบาลพนมดงรัก จ.สุรินทร์ เก็บหลักฐานผลกระทบจากกระสุนปืนใหญ่ฝ่ายกัมพูชา”

วานนี้ กองทัพบก ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบและเก็บหลักฐานจากเหตุการณ์การสู้รบที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ณ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งถูกกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่โรงพยาบาล เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 จำนวน 3 นัด ส่งผลให้อาคารหลายหลังได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะอาคารภูมิพัฒน์ และอาคารศูนย์สุขภาพชุมชนพระครูอาภัสธรรม (หลวงตารอด) ซึ่งเป็นอาคารห้องตรวจครรภ์มารดาก่อนคลอด อันเป็นพื้นที่ให้บริการสำคัญแก่ประชาชนในชุมชน จนต้องอพยพผู้ป่วยไปยังพื้นที่ปลอดภัยเป็นการฉุกเฉิน

เจ้าหน้าที่ในเหตุการณ์เล่าว่า “ตนเองปฏิบัติงานอยู่ที่ห้องตรวจครรภ์มารดาก่อนคลอด ซึ่งปกติจะมีผู้มาใช้บริการหลากหลายกลุ่ม ทั้งมารดาที่ฝากครรภ์วันละ 5 –10 ราย (ในวันเกิดเหตุมีเพียง 1 ราย) เด็กที่มาฉีดวัคซีน รวมถึงผู้สูงอายุที่มาตรวจสุขภาพในช่วงเกิดเหตุ ได้ยินเสียงระเบิดจากอาคารภูมิพัฒน์ที่อยู่ใกล้เคียง จากนั้นสะเก็ดระเบิดได้พุ่งเข้ามายังห้องตรวจครรภ์ รวมถึงบริเวณที่นั่งของแพทย์ แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บในขณะนั้น จึงรีบอพยพหญิงตั้งครรภ์รายดังกล่าว ออกมาได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกันผู้ป่วยและญาติที่ยังอยู่ภายในอาคารต่างรีบอพยพไปยังหลุมหลบภัยชั่วคราว บางรายเกิดความตื่นตระหนกและวิตกกังวลอย่างหนัก ถึงขั้นเอ่ยสั่งเสียต่อหน้าญาติ เมื่อสถานการณ์สงบลง เจ้าหน้าที่จึงรีบให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทันที”

 

เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อน ถึงความรุนแรงของสถานการณ์ชายแดน แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงของประชาชน โดยเฉพาะในโรงพยาบาล ซึ่งควรเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด กลับต้องเผชิญกับภัยคุกคามและความหวาดกลัวในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อการให้บริการด้านสาธารณสุข ที่จำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองจากภัยสงครามและความขัดแย้ง

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุทั้งหมด โดยเฉพาะสะเก็ดระเบิด เพื่อนำไปตรวจสอบยังห้องปฏิบัติการ ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อพิสูจน์ที่มาและรายละเอียด ของการยิงดังกล่าวต่อไป

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

แม่ทัพน้อยที่ 2 เปิดเวทีศิลปะรักชาติ “ไทยนี้รักสงบ...แต่ถึงรบไม่ขลาด” เยาวชน-ศิลปินประชันฝีมือ ชิงเงินแสน พร้อมหุ่น “ฮุนเซนป่วย” เรียกฮือฮาทั้งงาน
"เกาหลีใต้" ระงับโครงการจัดการน้ำ "กัมพูชา" ไม่มีกำหนด เซ่นพลเมืองถูกจับเป็นเหยื่อสแกมเมอร์พุ่ง
"กองทัพเรือ" เปิดตัวทีมโฆษก PR ชุดใหม่ เดินหน้าสื่อสารเชิงรุก มุ่งเน้นปีแห่งความพร้อมรบ
สว.สุรินทร์ ลงพื้นที่รับทราบปัญหาชาวบ้านต่อเนื่อง ด้านกำนันชายแดน ระบุ ยังพบโดรนบินขึ้นทุกวัน
"หมอเหรียญฯ" ปลุกผอ.รพ.ทั่วประเทศสู้ "สปสช." ค้างหนี้ ทำปชช.ผู้มีสิทธิบัตรทอง เดือดร้อนหนัก ทำลายระบบบริการสาธารณสุขล้มเหลว
ไม่รอด! รวบหนุ่มเขมร ปาบึ้มบุกเดี่ยวปล้นร้านทอง กลางห้างดังสมุทรปราการ ก่อนจนมุมคาด่านบ้านแหลม

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​