CNN, AP และ AFP รายงานว่าแคช พาเทล ผู้อำนวยการตำรวจเอฟบีไอของสหรัฐแถลงผ่าน X เมื่อวานนี้ (พูธที่ 27 สค.) ว่าเหตุกราดยิงที่โรงเรียนคาทอลิกแอนนันซิเอชั่น เมืองมินนิอาโปลิส รัฐมินนิโซต้า เมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ผ่านมาถือเป็นอาชญากรรมต่อต้านศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก พร้อมเผยชื่อมือปืนที่ก่อเหตุกราดยิงทำให้เด็กนักเรียนเสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บ 17 คนซึ่งในจำนวนนี้เป็นเด็ก 14 คนชื่อรอบิน เวสต์แมน วัย 23 ปี
พาเทลเผยว่าเวสต์แมนเป็นศิษย์เก่าที่โรงเรียนนี้และจบการศึกษาในปี 2560 หลังเรียนจบได้ไม่นาน เวสต์แมนได้ผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิง และเปลี่ยนชื่อจากรอเบิร์ต เป็นรอบิน รวมทั้งขอเปลี่ยนเพศเป็นเพศหญิง เอฟบีไอเผยด้วยว่าเวสต์แมนไม่มีประวัติอาชญากรรมและมีการซื้ออาวุธปืนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ตำรวจยังพบว่าเวสต์แมนได้เผยคลิปวิดิโอจำนวน 2 คลิปผ่านยูทูป โดยหนึ่งในคลิปที่มีความยาว 10 นาทีเวสต์แมนได้นำเอาอาวุธปืนและลูกกระสุนจำนวนมากออกมาโชว์ ที่แม็กกาซีนปืนมีข้อความรุนแรงเขียนต่อต้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมทั้งภาพวาดแผนที่โบสถ์ของโรงเรียนที่ก่อเหตุ โดยเวสต์แมนได้เจาะจงตั้งเวลาให้คลิปถูกเผยแพร่ในช่วงเวลาที่ก่อเหตุกราดยิง ล่าสุดตำรวจได้ทำการลบคลิปไปแล้ว
ด้านนายเจค้อป เฟรย์ นายกเทศมนตรีมินนิอาโปลิสออกมาเตือนชาวอเมริกันว่าอย่าเอาเหตุกราดยิงไปสร้างความโกรธแค้นที่กลุ่มผู้แปลงเพศแต่ให้ไปแก้ปํญหาเรื่องอาวุธปืนในสหรัฐแทน
ทั้งนี้สมเด็จพระสันตปาปาเลโอที่ 14 ซึ่งเป็นชาวอเมริกันได้ออกมาแสดงความเสียพระทัยและเศร้าสลดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ทรัมป์มีคำสั่งให้หน่วยงานรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งทำเนียบขาวลดธงลงครึ่งเสาเพื่อร่วมไว้อาลัยจนถึงค่ำวันอาทิตย์ ด้านชาวอเมริกันหลายร้อยคนได้มารวมตัวทำพิธีไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตที่โบสถ์ในรัฐมินนิโซต้า
เช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น( 27 สค.) รอบิน เวสต์แมนได้ควงปืน 3 กระบอกทั้งปืนไรเฟิล, ปืนสั้นและปืนพกเข้าไปกราดยิงในโรงเรียนคาทอลิกแอนนันซิเอชั่นขณะเด็กๆกำลังร่วมพิธีมิสซาอยู่ภายในโบสถ์ โดยเวสต์แมนได้ยิงจากด้านนอกทะลุกระจก ทั้งนี้ตำรวจยังพบระเบิดควันในที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุเวสต์แมนได้ยิงตัวตาย ตำรวจเชื่อว่าเวสต์แมนต้องยิงจากด้านนอกเพราะประตูโบสถ์ล็อก ซึ่งหากประตูไม่ล็อกคนร้ายอาจเดินเข้าไปกราดยิงด้านในซึ่งคาดว่าจะทำให้มีผู้เสียชีวิตอีกจำนวนมากอย่างแน่นอน