“สนง.สลากฯ” ปักธง ปี 69 สร้างสมดุลแผนจำหน่าย พัฒนา 3 ผลิตภัณฑ์ อย่างเหมาะสมภาวะศก. ควบคู่ทำภารกิจคืนประโยชน์ชุมชน สังคม อย่างยั่งยืน

กดติดตาม TOP NEWS

22 ธ.ค.2568 รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย พันโท หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการกองสลาก อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พร้อมด้วย และนางสุพิชญา นิทัศน์วรกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้นำสื่อมวลชนร่วมกิจกรรม สื่อมวลชนสัมพันธ์ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ระหว่างวันที่ 18-20 ธันวาคม 2568 ณ จังหวัดเชียงราย

พันโทหนุน ระบุว่า ทิศทางการดำเนินงานในปี 2569 จะเน้นสร้างสมดุลระหว่างสลากใบและดิจิทัล รวมถึงสลากเลข 3 หลัก หรือ N3 ให้มากขึ้น โดยปัจจุบันสำนักงานสลากฯมีสลากทุกประเภทขายรวมกันอยู่งวดละ 110 ล้านฉบับ ซึ่งถือเป็นปริมาณที่เหมาะสมกับสภาพตลาดในระยะนี้ ส่วนการปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์สลากให้เกิดความสมดุล สำนักงานสลากฯมีแนวโน้ม จะลดสลากแบบใบหกหลัก ( L6 ) และนำมาเพิ่มในสลากดิจิทัล รวมถึงการเพิ่มสลากN3 อย่างค่อยเป็นค่อยไป ภายใต้กรอบกฎหมาย นโยบายรัฐ และการพิจารณาผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก

สำหรับภาพรวมสลากใบ L6 ปัจจุบันมีทั้งแบบใบและแบบดิจิทัล แบ่งเป็นสลากใบอยู่ที่ประมาณ 78 ล้านฉบับต่องวด โดย 15 ล้านใบ เป็นของตัวแทน สมาคมต่างอาทิ สมาคมคนพิการ สมาคมกีฬา และโควต้าองค์กรต่างๆ อีก 15 ล้านใบ เป็นสลากฯโควต้าของรายย่อย และ 48 ล้านใบเป็นสลากฯแบบจองซื้อของรายย่อย
ขณะที่สลากดิจิทัล ขณะนี้มีอยู่ในระบบที่ 27 ล้านฉบับ และในงวดที่ผ่านมาได้มีการทดลองเพิ่มสลากฯระหว่างงวดเป็น 28 ล้านฉบับ หลังพบว่ายอดจำหน่ายสลากดิจิทัลในระบบขายหมดต่อเนื่อง 3 งวดติด จึงจะพิจารณาเพิ่มสลากเข้าระบบ โดยจำนวนสลากฯที่เพิ่มจะมาจากผู้ค้ารายย่อยที่อยู่ในโควต้าที่สนใจนำสลากเข้าจำหน่ายในระบบ ซึ่งจะไม่เปิดรับตัวแทนสลากฯเพิ่มขึ้นจากรายเดิมที่อยู่ในระบบแล้ว
พันโทหนุน กล่าวว่า สำหรับสลาก N3 ที่ออกแบบมานั้นเพื่อ “ปิดช่องว่างของสลาก 6 หลัก” ทั้งในมิติผู้ซื้อและผู้ขาย ล่าสุด สลาก N3 มียอดจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านฉบับต่องวด จากเป้าที่ตั้งไว้ 5 ล้านใบ มีตัวแทนจำหน่ายที่ 20,200 ราย โดยเป้าหมายหลักของสลาก N3 ไม่ใช่การเพิ่มกำไร แต่เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเลือกเลขเองได้ในราคาที่เหมาะสม ช่วยลดภาระตัวแทนที่ไม่ต้องลงทุนล่วงหน้า และไม่เสี่ยงขายไม่หมด
สลาก N3 และ L6 สำนักงานสลากฯ จะเดินหน้าให้ผลิตภัณฑ์ทั้งสองได้เติบโตไปพร้อมกัน โดยไม่ให้กระทบซึ่งกันและกัน และยังคำนึงถึงการดูแลตัวแทนเดิมเป็นสำคัญ
ด้าน รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล มองว่า ขนาดสลากใบและสลากดิจิทัลในปัจจุบันอยู่ในระดับเหมาะสมกับอัตราการเติบโตของจีดีพีที่ เฉลี่ยอยู่ที่ 2% ต่อเนื่องมา 3 ปี

นอกจากนี้ รศ.ดร.ธนวรรธน์ พันโท หนุน และนางสุพิชญา ยังได้นำสื่อมวลชน เยี่ยมชม วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวชุมชนป่าสักหลวง ซึ่งเป็นหนึ่งในชุมชนที่อยู่ในโครงการสลากสรรสร้างเพื่อชุมชน ที่สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ให้การสนับสนุน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชน จากนั้น ได้เดินทางไปยัง โรงเรียนบ้านห้วยไร่ (สำนักงานสลากกินแบ่งสงเคราะห์ 97)

โดยสำนักงานสลากฯ ได้ดำเนินการจัดหาและติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) ให้กับโรงเรียน เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า และสร้างประโยชน์กับโรงเรียนอย่างยั่งยืน รวมถึงได้สนับสนุนอุปกรณ์เครื่องเล่นสนามกลางแจ้งที่มีคุณภาพ ในการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตและพัฒนาศักยภาพด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ ที่ดี ให้กับเยาวชน สร้างความสนุก รอยยิ้มและเสียงหัวเราะใหักับเด็กนักเรียนได้เป็นอย่างมาก


ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
แท็กที่เกี่ยวข้อง
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น