มทส. จับมือ โอ้กะจู๋ ทดสอบและพัฒนางานวิจัยเครื่องผลิตปุ๋ยน้ำไนเตรทจากอากาศ สู่การใช้งานจริงในภาคการเกษตรไทย

มทส. จับมือ โอ้กะจู๋ ทดสอบและพัฒนางานวิจัยเครื่องผลิตปุ๋ยน้ำไนเตรทจากอากาศ สู่การใช้งานจริงในภาคการเกษตรไทย

วันนี้ 21 ส.ค. 2568 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) และ บริษัท ปลูกผักเพราะรักเเม่ จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักในแบรนด์ “โอ้กะจู๋” ร่วมมือทางวิชาการภายใต้โครงการ “ความร่วมมือการทดสอบและพัฒนางานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์” เพื่อบูรณาการองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมไฟฟ้า เคมี และเทคโนโลยีเกษตร นำผลงานวิจัย “เครื่องผลิตปุ๋ยน้ำไนเตรท (NO₃⁻) จากอากาศด้วยเทคโนโลยีสนามไฟฟ้าความถี่สูง” ไปสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรมเกษตร สร้างความมั่นคงด้านปัจจัยการผลิต ลดต้นทุนการผลิต และเพิ่มความยั่งยืนให้ภาคเกษตรได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ในการนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.อนันต์ ทองระอา อธิการบดี มทส. นายชลากร เอกชัยพัฒนกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายจิรายุทธ ภูวพูนผล ประธานเจ้าหน้าที่เกษตรอัจฉริยะ บริษัท ปลูกผักเพราะรักเเม่ จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ส่งเสริมการพัฒนางานวิจัย การพัฒนาบุคลากร รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริง โดยมี ศาสตราจารย์ ดร.หนึ่ง เตียอำรุง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี นายชัดชาญ เอกชัยพัฒนกุล ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร พร้อมด้วย คณะผู้บริหารของบริษัทฯ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนา คณาจารย์ และนักวิจัย มทส. ร่วมเป็นเกียรติในพิธี เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ณ ห้องประชุมสารนิเทศ อาคารบริหาร มทส.

สำหรับผลงานวิจัย “เครื่องผลิตปุ๋ยน้ำไนเตรท (NO₃⁻) จากอากาศด้วยเทคโนโลยีสนามไฟฟ้าความถี่สูง” โดย รองศาสตราจารย์ ดร.ชาญชัย ทองโสภา หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านการประยุกต์ใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อารักษ์ ธีรอำพน อาจารย์ประจำสาขาวิชาเทคโนโลยีการผลิตพืช สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร มทส. ซึ่งคณะผู้วิจัยประสบความสำเร็จในการสร้างเครื่องต้นแบบผลิตปุ๋ยน้ำไนเตรท (NO₃⁻) จากอากาศ ซึ่งวิจัยและพัฒนามาเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว ทำให้ได้เครื่องผลิตปุ๋ยที่มีประสิทธิภพาพสูง ขนาดกำลังงานประมาณ 5,000 วัตต์ ด้วยงบประมาณเพียง 500,000 บาท สามารถผลิตปุ๋ยน้ำได้ต่อเนื่องที่อัตราประมาณ 60-70 ลิตรต่อชั่วโมง โดยมีความเข้มข้นของไนเตรท 1,000 ppm ซึ่งถือเป็นปริมาณสูงที่สุดในโลกที่สามารถผลิตได้ในขณะนี้ โดยเครื่องนี้สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง คิดเป็นต้นทุนการผลิตเพียง 20 สตางค์ต่อลิตร สามารถคืนทุนได้ภายใน 2 ปี และยังสามารถปรับออกแบบให้มีขนาดและกำลังการผลิตสูงขึ้นได้ เพื่อรองรับการใช้งานทั้งในระดับเกษตรกรรายย่อย กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และภาคอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ โดยจากการทดลองกับผักสลัดกรีนโอ๊คและผำในสภาพโรงเรือนของภาคสนามให้ผลเป็นที่น่าพอใจ

 

 

 

 

เพื่อตอบโจทย์ปัญหาจากการใช้ปุ๋ยยูเรียที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากให้ปริมาณธาตุไนโตรเจนสูง เหมาะแก่การบำรุงพืชหลากหลายชนิด แต่มีราคาสูง ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ทำให้เกษตรกรต้องแบกรับภาระต้นทุนการผลิต อีกทั้งกระบวนการผลิตปุ๋ยยูเรียแบบดั้งเดิมต้องผ่านหลายขั้นตอนและใช้พลังงานสูงมาก ต้นทุนการผลิตผูกพันกับราคาพลังงานโลก และยังสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คณะผู้วิจัยจึงได้ริเริ่มพัฒนา “เครื่องผลิตปุ๋ยน้ำไนเตรทจากอากาศ” ได้โดยตรง ที่ไม่ต้องผ่านขบวนการผลิตเป็นปุ๋ยยูเรียก่อน ทำให้แทบไม่มีต้นทุนการผลิตและยังรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างมาก รวมถึงมีศักยภาพในการลดการพึ่งพาการนำเข้า และสามารถผลิตปุ๋ยในประเทศได้ด้วยต้นทุนต่ำ เครื่องดังกล่าวใช้หลักการสนามไฟฟ้าความถี่สูง เพื่อปลดปล่อยพลังงานให้เพียงพอต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างโมเลกุลของน้ำ (H₂O) พร้อมทั้งดึงไนโตรเจน (N₂) และออกซิเจน (O₂) จากอากาศ ซึ่งมีอยู่ในธรรมชาติกว่า 78% และ 21% ตามลำดับ เข้าสู่กระบวนการสร้างพันธะเคมีใหม่ ทำให้เกิดสารไนเตรท (NO₃⁻) และไนไตรท์ (NO₂⁻) ซึ่งเป็นรูปของธาตุไนโตรเจนที่พืชสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ทันที

ทั้งนี้ มทส. และ บริษัท ปลูกผักเพราะรักแม่ จำกัด (มหาชน) จังหวัดเชียงใหม่ จะร่วมมือทางวิชาการ “ความร่วมมือการทดสอบและพัฒนางานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์” โดย มทส. สนับสนุนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและองค์ความรู้เชิงวิชาการ บริษัท ปลูกผักเพราะรักเเม่ จำกัด (มหาชน) สนับสนุนพื้นที่สำหรับการทดสอบการวิจัยและพัฒนา โดยมีระยะเวลาความร่วมมือ 3 ปี

 

 

 

ภาพ/ข่าว นายประสิทธิ์ วนะชกิจ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดนครราชสีมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ธิดารัตน์ รอดอนันต์” คว้ารางวัลเพชรพาณิชย์ ปี 2568
สวนสัตว์โคราชเปิดตัวสมาชิกใหม่ ลูกเสือเบงกอล และ ลูกมาร่า สุดน่ารัก
เขตสุขภาพที่ 4 จัดประชุมเชิงปฏิบัติการวิชาการ “การขับเคลื่อนเศรษฐกิจสุขภาพที่คุ้มค่าและยั่งยืน”
"กองทัพเรือ" รับมอบปืนใหญ่สนามขนาด 155 มม. แบบอัตราจรล้อยาง (ATMG)
"โฆษกทบ." โต้ "มาลี" กล่าวหาละเมิดข้อตกลง ลั่นหลักฐานทนโท่ ไทยควรเป็นฝ่ายเรียกร้อง “กัมพูชา” มากกว่า
ชัยภูมิ น้ำป่าทะลักซัดฝายแตก ชาวบ้านขาดแคลนน้ำกินน้ำใช้

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​