“ลุงพล” วืดประกันตัว ส่งคุมขังเรือนจำมุกดาหาร หลังศาลพิพากษาเพิ่มโทษคุก เป็น 26 ปี “แม่น้องชมพู่” น้ำตาไหล ลูกได้รับความเป็นธรรม
ข่าวที่น่าสนใจ
จากกรณีศาลอุทธรณ์ภาค 4 นัดอ่านคำพิพากษาคดีฆาตกรรม ด.ญ.อรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือ น้องชมพู่ วัย 3 ขวบ ซึ่งหายตัวไปจากบ้านพักภายในหมู่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เมื่อปี 2563 ต่อมา อัยการจังหวัดมุกดาหาร เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายไชยพล จําเลยที่ 1, น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น จําเลยที่ 2, นางสาวิตรี วงศ์ศรีชา โจทก์ร่วมที่ 1 และ นายอนามัย วงศ์ศรีชา โจทก์ร่วมที่ 2 โดยวันนี้ นายไชยพลเดินทางมารับฟังคำพิพากษาที่ศาลจังหวัดมุกดาหาร เช่นเดียวกับ นายอนามัย วงค์ศรีชา และ นางพชรมน พชรภัสรส์ พ่อและแม่ของน้องชมพู่ ที่เดินทางมารับฟังคำพิพากษาด้วยเช่นกัน
คดีนี้อัยการจังหวัดมุกดาหาร ยื่นฟ้องว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ค.2563 จําเลยที่ 1 ได้พราก ด.ญ.อรวรรณ อายุ 3 ปีเศษ ซึ่งเป็นอายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดาและมารดาโดยปราศจากเหตุอันสมควร สืบเนื่องจากระหว่างวันที่ 11-13 พ.ค.2563 จําเลยที่ 1 มีเจตนาฆ่า โดยนํา ด.ญ.อรวรรณ ไปทอดทิ้งที่เขาภูเหล็กไฟ เพียงลําพังโดยไม่มีอาหารและน้ำดื่ม จนเป็นเหตุให้ ด.ญ.อรวรรณ ถึงแก่ความตาย และระหว่างวันที่ 13-14 พ.ค.2563 หลัง ด.ญ.อรวรรณ ถึงแก่ความตาย จําเลยได้เคลื่อนย้ายศพผู้ตายแล้วถอดเสื้อผ้าออกเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่พบศพเข้าใจว่า ผู้ตายถูกล่วงละเมิดทางเพศ และถูกทําร้ายจนถึงแก่ความตาย โดยหวังผลทางคดีให้เปลี่ยนแปลงไป
โดยก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จําเลยที่ 1 (ลุงพล) มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 291, 317 วรรคแรก ฐานกระทําการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จึงพิพากษาสั่งจําคุก 10 ปี ส่วนข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปีไปเสียจากบิดามารดา โดยปราศจากเหตุอันสมควร ศาลสั่งจําคุก 10 ปี ส่วนข้อหาอื่นสําหรับจําเลยที่ 1 ให้ยก และยกฟ้อง นางสมพรหลาบโพธิ์ หรือป้าแต๋น จําเลยที่ 2 แต่ให้ นายไชย จําเลยที่ 1 ชําระค่าสินไหมทดแทนทางแพ่งให้แก่ พ่อและแม่ของ ด.ญ.อรวรรณ
กระทั่งวันนี้ (13 ส.ค.) ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาสั่งเพิ่มโทษจำคุก นายไชพล ฐานเจตนาฆ่า โดยเล็งเห็นผล, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยไม่มีเหตุอันสมควร และอำพรางศพ (มาตรา 317 วรรคแรก) จากเดิม 20 ปี เป็น 26 ปี พร้อมให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ครอบครัวของผู้ตาย นอกจากนี้ศาลยังสั่งให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ให้โจกย์ร่วมที่ 1 จำนวน 1,350,000 บาท และโจทย์ร่วมที่ 2 จำนวน 1,200,000 บาท
ต่อมานายไชยพล ได้ยื่นขอประกันตัว โดยศาลจังหวัดมุกดาหาร ได้เสนอไปยังศาลฎีกา แต่ศาลฎีกา ยังไม่มีคำตอบลงมาว่าจะให้ประกันตัวในวงเงินเท่าใดจึงต้องรอคำสั่งต่อไป กระทั่งเวลา 16.30 น.หมดเวลาราชการ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงคุมตัว นายไชยพล ไปคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เพื่อรอคำพิพากษาศาลฎีกา เรื่องยื่นขอประกันตัว โดยตามขั้นตอนปกติ ศาลฎีกา จะใช้ระยะเวลาพิจารณาการยื่นขอประกันตัวเพื่อมีคำสั่งประมาณ 1-3 วันต่อจากนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น