“สื่อกัมพูชา” ยอมรับแล้ว เขมรสร้างข่าวปลอม “กองทัพไทย” ใช้สารเคมีโจมตีทางทหาร

กระทรวงข่าวสารกัมพูชาเมื่อวันอาทิตย์(3ส.ค.) เผยแพร่ถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการ ปฏิเสธข่าวที่ว่ากองทัพไทยใช้ควันพิษทางทหารโจมตีกำลังพลกัมพูชา

“สื่อกัมพูชา” ยอมรับแล้ว เขมรสร้างข่าวปลอม “กองทัพไทย” ใช้สารเคมีโจมตีทางทหาร – Top News รายงาน

 

สำนักข่าวขแมร์ไทม์ส รายงานว่าข่าวปลอมดังกล่าว ถูกเผยแพร่บนเฟซบุ๊ก เขียนบนภาษาเขมร ระบุว่าทหารกัมพูชาบางส่วนได้รับพิษจากการโจมตีในวันอาทิตย์(3ส.ค.)

อย่างไรก็ตามถ้อยแถลงอย่างเป็นทางการของกระทรวงข่าวสารกัมพูชา ร้องขอประชาชน โดยเฉพาะผู้คนบนสื่อสังคมออนไลน์ อย่าได้แชร์โพสต์ดังกล่าว เพื่อป้องกันความสับสน

“การสร้างเฟคนิวส์เพื่อจงใจก่อความวุ่นวายและความแตกแยกในประเทศในช่วงเวลาเช่นนี้ ถือเป็นการกระทำที่ทรยศชาติ” กระทรวงข่าวสารกัมพูชาเน้นย้ำ

 

ที่มา : ขแมร์ไทม์ส

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ก่อนหน้านั้น  (28 ก.ค.2568) กองบัญชาการกองทัพไทย ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อคำกล่าวอ้างของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ระบุว่ากองทัพไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชาและใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง

ประเทศไทยไม่เคยมีนโยบายในการพัฒนา ผลิต ครอบครอง หรือใช้อาวุธเคมีในทุกกรณี โดยยึดมั่นในพันธกรณีตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention – CWC) อย่างเคร่งครัด ทั้งยังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักมนุษยธรรมสากล โดยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของพลเรือนผู้บริสุทธิ์

ในทางกลับกัน โฆษกกลาโหมกัมพูชา กลับใช้ “ข้อมูลข่าวสารปลอม” (Disinformation) เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองในสายตาประชาคมโลก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เพียงแต่ขาดความรับผิดชอบ แต่ยังถือเป็นการกระทำที่แฝงด้วยเล่ห์เพทุบาย บิดเบือนความจริง และเป็นภัยต่อสันติภาพในภูมิภาค

 

กองบัญชาการกองทัพไทย (28 ก.ค.2568) ปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อคำกล่าวอ้างของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่ระบุว่ากองทัพไทยได้รุกล้ำดินแดนกัมพูชาและใช้อาวุธเคมีในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง และเป็นการบิดเบือนข้อมูลอย่างร้ายแรง

ประเทศไทยไม่เคยมีนโยบายในการพัฒนา ผลิต ครอบครอง หรือใช้อาวุธเคมีในทุกกรณี โดยยึดมั่นในพันธกรณีตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention – CWC) อย่างเคร่งครัด ทั้งยังปฏิบัติหน้าที่ภายใต้หลักมนุษยธรรมสากล โดยให้ความสำคัญสูงสุดต่อความปลอดภัยของพลเรือนผู้บริสุทธิ์

ในทางกลับกัน โฆษกกลาโหมกัมพูชา กลับใช้ “ข้อมูลข่าวสารปลอม” (Disinformation) เป็นเครื่องมือทางยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับตนเองในสายตาประชาคมโลก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่เพียงแต่ขาดความรับผิดชอบ แต่ยังถือเป็นการกระทำที่แฝงด้วยเล่ห์เพทุบาย บิดเบือนความจริง และเป็นภัยต่อสันติภาพในภูมิภาค

 

กองทัพไทยมีหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติและความปลอดภัยของประชาชน ตามหลักการสากลและสิทธิตามกฎหมายระหว่างประเทศ การดำเนินการของฝ่ายไทยจึงเป็นการตอบสนองที่จำเป็นและยับยั้งภัยคุกคามจากฝ่ายกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้เปิดฉากการยั่วยุและการใช้กำลังก่อน

ประเทศไทยจะไม่ยอมให้ความเท็จของฝ่ายใดมากลบเสียงของความจริง และจะดำเนินการชี้แจงต่อประชาคมระหว่างประเทศอย่างถึงที่สุด เพื่อให้เห็นถึงพฤติกรรมที่บิดเบือน เสื่อมเสีย และละเมิดหลักกฎหมายมนุษยธรรมของผู้นำกัมพูชา ซึ่งอาจเข้าข่าย “อาชญากรรมสงคราม” อย่างชัดเจน

ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกตระหนักถึงพฤติกรรมดังกล่าว และร่วมกันประณามการใช้ข้อมูลเท็จเพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในเวทีสากล

 

กระทรวงการต่างประเทศยันไทยยึดมั่นอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี

กระทรวงการต่างประเทศปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าไทยใช้อาวุธเคมี ย้ำยึดมั่นอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (CWC) และประณามการบิดเบือนข้อมูลที่มุ่งทำลายความน่าเชื่อถือของไทยในเวทีสา

วันนี้ (28 ก.ค.2568) ตามที่ปรากฏรายงานข่าวกล่าวหาว่ากองกำลังของไทยใช้อาวุธเคมี นั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงว่า ไทยปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ขาดหลักฐานเชิงประจักษ์

ไทยยืนยันการยึดมั่นต่อพันธกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี (Chemical Weapons Convention: CWC) และยืนหยัดในท่าทีในการประณามการใช้อาวุธเคมีไม่ว่าจะเป็นที่ใด โดยผู้ใด หรือภายใต้สถานการณ์ใดก็ตาม นอกจากนี้ ประเทศไทยยังยึดมั่นต่อตราสารระหว่างประเทศด้านการลดอาวุธและการไม่แพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงทั้งปวง

นับตั้งแต่ไทยเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามอาวุธเคมีเมื่อปี 2546 ไทยได้แสดงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อการเป็นภาคีอนุสัญญาฯ ด้วยการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม และร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับองค์การห้ามอาวุธเคมี (Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons: OPCW) รวมทั้งกับรัฐภาคีอนุสัญญาอื่น ๆ

ข้อกล่าวหาดังกล่าวขาดมูลความจริง และสะท้อนการบิดเบือนข้อมูลอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อบิดเบือนข้อเท็จจริงในพื้นที่ และมีเจตนาที่จะบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือและสถานะของประเทศไทยในประชาคมระหว่างประเทศ

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“กองทัพภาคที่ 2” ขอบคุณรร.พยาบาลรามาฯ มอบโอกาส “น้องปิ่นมุก” ลูกสาว “จ.ส.อ.ธีระยุทธ” ทหารผู้เสียสละเพื่อชาติ ให้โควตาพิเศษ เข้าเรียนไม่ต้องสอบ
อุตุฯเตือน 27 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง อันดามัน-อ่าวไทย คลื่นลมแรง กทม.อากาศร้อน แตะ 37 องศา
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) “ร้านหุ่นยนต์ 6S” แห่งแรกของโลกเปิดแล้วที่เซินเจิ้น .
(50 สัมพันธ์ไทย-จีน) ระบบนิเวศแยงซีฟื้นตัว หลังจีนห้ามจับปลา 10 ปี
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'ฝนดาวตก' กลางฟ้าประดับดาวในเฮยหลงเจียง
ส่งพลังศรัทธา สนับสนุนแนวรบ ! กองพลทหารปืนใหญ่รับพระเครื่อง วัตถุมงคล หนุนใจเสริมแกร่ง ป้องกันชายแดน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​