จนท.เร่งสอบขยายผล เก๋งต้องสงสัยคาร์บอมบ์ ถูกเผาทิ้งกลางดึกที่รือเสาะ นราธิวาส

จนท.เร่งสอบขยายผล เก๋งต้องสงสัยคาร์บอมบ์ ถูกเผาทิ้งกลางดึกที่รือเสาะ นราธิวาส

จนท.เร่งสอบขยายผล เก๋งต้องสงสัยคาร์บอมบ์ ถูกเผาทิ้งกลางดึกที่รือเสาะ นราธิวาส

 

ข่าวที่น่าสนใจ

6 ก.ค.68 พ.ต.อ.ศุภชัย ศุภกิจจารักษ์ ผกก.สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หน่วยปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการตำรวจภูธร จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมเดินทาไปตรวจสอบเหตุรถยนต์เก๋งถูกลอบวางเพลิง บนถนนก่อนถึงสะพานบาลอ ม.5 ต.สาวอ อ.รือเสาะ ได้รับความเสียหายทั้งคัน เหตุเกิดในช่วงเวลา 21.00 น. ของงคืนวันที่ 5 ก.ค..68 ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ไม่กล้าเดินทางไปตรวจสอบ เกรงคนร้ายจะวางแผนลวงดักสังหาร

 

เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุโลหะในการเคลียร์พื้นที่ พบว่า รถยนต์เก๋งที่ถูกลอบวางเพลิง ยี่ห้อนิสัน สีเทา ทะเบียน 1 กอ 0397 กทม. เจ้าของกรรรมสิทธิ์คือ ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) ผู้ครองครองคือ น.ส.พรรณิภา หลงสมบุญ มีภูมิลำเนาอยู่ จ.นครปฐม ที่ภาษีขาดเมื่อปี 2020 และพบว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าว เป็น 1 ใน จำนวน 2 คัน ที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนคนร้ายเตรียมนำมาประกอบคาร์บอมบ์ เพื่อใช้ก่อเหตุในพื้นที่ อ.รามัน จ.ยะลา และพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ตากใบ สุไหงปาดีและสุไหงโก-ลก

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่พบหลักฐานใดๆ ที่คนร้ายใช้เป็นเชื้อเพลิงในการวางเพลิงรถยนต์คันดังกล่าว แต่คาดว่าคนร้ายน่าจะใช้น้ำมันเชื้อเพลิงราดเข้าไปในห้องโดยสารแล้วจุดไฟเผา เนื่องจากเพลิงที่ลุกไหม้ในครั้งนี้ ได้ทำลายหลักฐานไปโดยสิ้นเชิง

ด้านเจ้าหน้าที่แหล่งข่าวความมั่นคง ที่ติดตามความเคลื่อนไหวของสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง เผยว่า มันเป็นคดีแปลกที่ไม่เคยบังเกิดขึ้นในพื้นที่ที่มีการทำลายหลักฐานยานพาหนะ ที่คนร้ายเตรียมใช้ก่อเหตุและที่เป็นไปได้มากที่สุดจากการวิเคราะห์ กลุ่มคนร้ายอาจจะทราบว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้มีการเพ่งเล็งเป็นกรณีพิเศษ ให้เจ้าหน้าที่ทุกจุดตรวจจุดสกัดตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ ที่คนร้ายไม่สามารถนำมาใช้ก่อเหตุได้ ประการสำคัญหากเจ้าหน้าที่ไปพบว่ารถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ไปจอดหรือซุกซ่อนที่บ้านของผู้ใด อาจจะถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวมาสอบสวน จึงตัดสินใจแอบนำรถยนต์เก๋งดังกล่าวมาเผาทำลายทิ้ง

แต่ถึงอย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะขยายผลในการตรวจสอบกับชาวบ้านบริเวณจุดเกิดเหตุ ว่าใครเคยพบเห็นรถยนต์เก๋งคันดังกล่าววิ่งผ่านไปมาในหมู่บ้าน หรือใครเคยพบเห็นว่าใครเป็นคนขับรถยนต์เก๋งคันนี้หรือไม่อย่างไร เพื่อขยายผลไปสู่การวางเพลิงรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวทิ้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ดร.สามารถ" ย้ำภัยดิจิทัลรุนแรง เตือนระวังตกเป็นเหยื่อสแกมเมอร์ แนะรัฐตั้งศูนย์บัญชาการ NASC จัดการจบในจุดเดียว
"บิ๊กเล็ก" แจงปล่อยเชลยศึก 12 พ.ย. เป็นแค่คาดการณ์ ต้องยึดหลักเขมร ทำตามเงื่อนไขครบหรือไม่ ยันไม่มีเปิดด่านจนกว่าเรื่องจบทุกอย่าง
"กรมชลฯ" เตือน 11 จังหวัดลุ่มเจ้าพระยา เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง หลังเพิ่มระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 2,700 ลบ.ม./วินาที
“พล.ท.นันทเดช” แนะทำ 3 ข้อ ก่อนถึงวันปล่อยตัว "18 เชลยศึก" เตือนเขมรไว้ใจได้ยาก ต้องคิดทำรอบคอบ ไม่ให้ไทยเสียเปรียบ
ชายวัย 56 คลุ้มคลั่ง ขับรถพุ่งชนกำแพงบ้าน อ.บ้านหลวง – ไร้เจ็บ
สทนช. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำเขื่อนภูมิพล เตรียมตั้งรับพายุ “คัลแมกี”

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​