“ปณิธาน” ชี้จุดกระแสย้ายประเทศโยงการเมือง

“ปณิธาน” บอกไม่แปลกกระแสโยกย้ายถิ่นฐาน ชี้มีมานานตามธรรมชาติ แต่ตอนนี้จุดให้เป็นประเด็นการเมืองต่อต้านรัฐบาล เผยต่างชาติมาอยู่ไทยเยอะจนเป็นหมู่บ้าน เตือนทำงาน “สวีเดน” เงินดีแต่ระวังภาษีโหด

นายปณิธาน วัฒนายากร อาจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับ “สำนักข่าว Top News” ถึงกรณีที่มีการตั้งกลุ่มในเฟซบุ๊ก ชื่อกลุ่ม “ย้ายประเทศกันเถอะ” ว่า ที่ผ่านมานางซาแมนธา พาวเวอร์ ผอ.หน่วยงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐฯและอดีตเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ เคยกล่าวว่า “คนเราทุกคนล้วนแต่เป็นนักเดินทาง” เพราะตั้งแต่สมัยโบราณเราก็มีการโยกย้ายถิ่นฐานกันมาต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นการโยกย้ายอพยพเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ ครอบครัว และสังคม แต่บางส่วนที่เป็นส่วนน้อยเป็นการอพยพลี้ภัยทางการเมือง ซึ่งปรากฎการณ์เหล่านี้ไม่ได้ถือว่าเป็นเรื่องแปลก แม้แต่ในประเทศไทยเองก็ยังมีการโยกย้ายถิ่นฐานกันเองทั้งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสานและภาคใต้ตามปกติ เพียงแต่ว่าตอนนี้มีการจุดกระแสกระตุ้นให้เป็นประเด็นที่ไม่ได้เป็นปรากฎการณ์ตามธรรมชาติเพราะมีแรงขับเคลื่อนทางการเมือง โดยใช้คนที่ต่อต้านรัฐบาลมาสนับสนุน อาศัยช่วงที่มีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19

 

นายปณิธาน กล่าวต่อว่า การโยกย้ายถิ่นฐาน ไม่มีใครปิดกั้น ถือเป็นสิทธิและเสรีภาพ แม้แต่คนต่างชาติจำนวนมากยังอยากเข้ามาอยู่ในประเทศไทย ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาจนทำให้มีหมู่บ้านโปรตุเกส หมู่บ้านญี่ปุ่น หมู่บ้านฮอลันดา จนปัจจุบันที่อ.หัวหินเองก็มีหมู่บ้านสวีเดน และที่จ.เชียงใหม่ก็มีหมู่บ้านญี่ปุ่นเพิ่มเติม ตนไม่ได้บอกว่าประเทศไทยดีหรือไม่ เพราะทุกอย่างอยู่ที่คนมอง ส่วนคนไทยก็อยากไปอยู่ต่างประเทศ เพราะธรรมชาติของทุกคนล้วนเป็นนักเดินทางของโลกด้วยกันทั้งนั้น แต่การจะไปประเทศใดๆ ล้วนมีทั้งกระแสตอบรับ และกระแสต่อต้านด้วยกันทั้งสิ้น

 

นายปณิธาน กล่าวอีกว่า ส่วนที่ประเทศสวีเดนออกมาระบุว่าพร้อมเปิดรับคนไทยนั้น ต้องถามว่าเป็นการเปิดรับชั่วคราวหรือถาวร เพราะตอนนี้เขาประสบวิกฤตขาดแคลนแรงงานหนักมาก เนื่องจากเป็นสังคมผู้สูงอายุ จึงต้องการแรงงานต่างชาติเข้าไปชดเชยทำงานให้ แต่ที่สวีเดนแม้รายได้สูง แต่ก็เสียภาษีสูงมากเช่นกัน คิดเป็นร้อยละ 40-50 ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่ประเทศสหรัฐฯ และเยอรมนี หรือยุโรปตะวันออกมีคนไทยโยกย้ายถิ่นฐานไปอยู่เป็นจำนวนมากเช่นกัน ส่วนใหญ่เป็นบุคลากรที่มีทักษะในอาชีพสูง เช่น เป็นแพทย์ พยาบาล นักธุรกิจ หรือพนักงานสำนักงานต่างๆ สิ่งเหล่านี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในประเด็นนี้คนในรัฐบาลเข้าใจ และจะสามารถอธิบายได้ดี

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

จีนขอไทยรักษาเสถียรภาพหลังนายกฯถูกพักงาน
สื่อทั่วโลกรายงานนายกฯไทยถูกศาลรัฐธรรมนูญพักงาน
ผู้ซื้อลอตเตอรี่นอร์เวย์สุดเซ็งหลังระบบคำนวนรางวัลผิด
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) โดรน 'แมวไซเบอร์' ส่องสว่างกลางฟ้าในฉงชิ่ง
“จีน” เบรกแรง “ฮุนเซน” ลั่นไม่เคยขายจรวดยิงไกลถึงกทม. ให้
AOT ประกาศจุดยืนผู้นำท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก เน้นบริการผู้โดยสารแบบ World Class Hospitality เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเสริมความแข็งแกร่งของประเทศ
อั้นไว้ก่อนค่อยเติม พรุ่งนี้น้ำมันลด “เบนซิน-แก๊สโซฮอล์” ทุกชนิด ปรับราคาลง 30 สต.
จันทบุรี ทหารพรานนาวิกโยธิน ร่วมสรรพสามิตร ตรวจยึดบุหรี่เถื่อนจำนวนมาก
"ก.ต." เห็นชอบ "อดิศักดิ์ ตันติวงศ์" ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา คนที่ 51
"เครือสหพัฒน์ – BATC" หนุนอุตสาหกรรมการบินไทย เดินหน้ายกระดับบุคลากรสู่มาตรฐานสากล

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น