ย้อนประวัติศาสตร์ 20 ปี การเมืองไทย สารพัด “ม็อบ” โค่นรัฐบาล แต่สุดท้ายกระบวนการกฎหมาย “นิติสงคราม” คือหมัดน็อกจัดการรัฐบาล

ย้อนประวัติศาสตร์ 20 ปี การเมืองไทย สารพัด “ม็อบ” โค่นรัฐบาล แต่สุดท้ายกระบวนการกฎหมาย “นิติสงคราม” คือหมัดน็อกจัดการรัฐบาล-นายกฯที่ไม่โปร่งใส จับตาบทสรุปรบ. “อุ๊งอิ๊ง” รอดหรือร่วงกับกระบวนการนิติสงครามที่เริ่มเดินหน้าตามกระบวนการแล้ว

ย้อนประวัติศาสตร์ 20 ปี การเมืองไทย สารพัด “ม็อบ” โค่นรัฐบาล แต่สุดท้ายกระบวนการกฎหมาย “นิติสงคราม” คือหมัดน็อกจัดการรัฐบาล

 

ข่าวที่น่าสนใจ

การประกาศรวมพลเดินหน้าขับไล่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้ลาออกจากตำแหน่งของ “กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย”ในวันที่ 28 มิ.ย. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถือเป็นบททดสอบที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลเพื่อไทยอีกครั้ง ทั้งนี้เมื่อย้อนดูประวัติศาสตร์การเมืองไทยในช่วง 20 ปี ที่ผ่านจะพบว่า ม็อบการเมืองเป็นเพียงสารตั้งต้นในการโค่นล้มรัฐบาลเท่านั้น แต่สิ่งที่สามารถจัดการกับรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องความไม่โปร่งใสได้อย่างราบคาบกลับเป็นกระบวนการทางกฎหมาย หรือ “นิติสงคราม” มากกว่า โดยเฉพาะรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร ตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทยต่างรู้พิษสงของ “นิติสงคราม” เป็นอย่างดี

 

 

เริ่มที่ปี พ.ศ. 2548–2549 นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งกรัฐมนตรีเป็นสมัยที่สอง โดยระหว่างนั้นมีประชาชนจำนวนมากออกมาขับไล่จากข้อกล่าวหาการบริหารประเทศที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน รวมทั้งปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง ซึ่งการประท้วงขยายตัวเป็นวงกว้างโดยกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่มีนายสนธิ ลิ้มทองกุล เป็นผู้นำ ทำให้ต่อมาในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549 นายทักษิณประกาศยุบสภา และจัดเลือกตั้งในวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 แต่พรรคฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ พรรคมหาชน และพรรคชาติไทย ไม่ร่วมลงสมัครรับเลือกตั้งด้วย ผลปรากฏว่า พรรคไทยรักไทยได้รับคะแนนเสียงอย่างกว้างขวาง แต่กลับพบว่าในบางพื้นที่ของเขตไม่มีผู้สมัครจากพรรคอื่นลงแข่งขัน ทำให้ในเวลาต่อมาศาลรัฐธรรมนูญพิพากษาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ และมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2549

อย่างไรก็ตามการประท้วงขับไล่นายทักษิณยังดำเนินอย่างต่อเนื่อง โดยมาสิ้นสุดลงในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เมื่อกองทัพกระทำรัฐประหาร โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข นำโดยพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ซึ่งการรัฐประหารครั้งนั้นถือเป็นจุดเริ่มต้นทำให้นายทักษิณต้องรอนแรมอยู่ต่างประเทศเป็นเวลา 17 ปี และผลการกระทำของนายทักษิณ ทำให้ถูกฟ้องร้องคดียาวเป็นหางว่าว เช่น 1.คดีกล่าวหานายทักษิณ อนุมัติให้กระทรวงการคลังเข้าไปบริหารจัดการแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) , 2.คดีธนาคารกรุงไทย ปล่อยกู้ให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร วงเงิน 11,585 ล้านบาท, 3. ดดีนายทักษิณ กับพวกอนุมัติสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัส แบบ A340-500 และ A340-600 ระหว่างปี 2545-2547 ทำให้การบินไทยมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น และ 4.คดีกองทัพบก ยื่นฟ้องนายทักษิณ หมิ่นประมาท กรณีเมื่อวันที่ 19 – 20 พ.ค.58 มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ จากประเทศเกาหลีใต้ในลักษณะจาบจ้วงสถาบัน ฯลฯ

ต่อมาในปี พ.ศ. 2551 กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมขับไล่นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น โดยเข้าปิดล้อมอาคารรัฐสภา เพื่อขัดขวางการแถลงนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้การชุมนุมได้ยกระดับไปสู่การยึดท่าอากาศยานดอนเมือง และสุวรรณภูมิ เพื่อกดดันให้นายสมชายลาออกจากตำแหน่ง กระทั่งต่อมาในวันที่ 2 ธันวาคม 2551 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยยุบพรรคพลังประชาชนกรณีทุจริตการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ส่งผลให้นายสมชาย พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จากนั้นในวันรุ่งขึ้นแกนนำพันธมิตรฯประกาศยุติการชุมนุมในทันที

 

ปี พ.ศ. 2554 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีต้องเผชิญชะตากรรมไม่ต่างจากนายทักษิณ เริ่มจากการชุมนุมกดดันอย่างหนักจากกลุ่ม กปปส. ที่คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง โดยการชุมนุมครั้งนั้น สส. พรรคประชาธิปัตย์ ลาออกจากตำแหน่งร่วมชุมนุมกับม็อบ เพื่อโค่นล้มระบอบทักษิณนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ซึ่งการชุมนุมยืดเยื้อเป็นเวลาหลายเดือน กระทั่งวันที่ 9 ธันวาคม 2556 น.ส. ยิ่งลักษณ์ ประกาศยุบสภาเป็นรัฐบาลรักษาการ โดยมีการกำหนดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่การเลือกตั้งถูกขัดขวางจากกลุ่ม กปปส. เป็นเหตุให้ไม่สามารถลงคะแนนได้ครบทุกหน่วยเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ

สุดท้ายในวันที่ 7 พฤษภาคม 2557 ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 9 ต่อ 0 ให้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ พ้นจากตำแหน่งกรณีเข้าไปแทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ ส่งผลให้ความเป็นนายกฯของ น.ส.ยิ่งลักษณ์สิ้นสุดลง ขณะเดียวกันรัฐมนตรีที่ร่วมลงมติย้ายนายถวิลในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2554 ถือว่ามีส่วนร่วม จึงทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง พ้นจากตำแหน่งทั้งหมดถึง 9 คนด้วยกัน

จากนั้นในวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) นำโดย พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกในขณะนั้นกระทำรัฐประหารยึดอำนาจ ส่วน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต่อมาได้หลบหนีออกต่างประเทศหลังจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดอ่านคำพิพากษาคดีจำนำข้าวในวันที่ 23 สิงหาคม 2560 และจนถึงปัจจุบัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังรอนแรมอยู่ต่างประเทศเป็นเวลากว่า 8 ปีแล้ว

ขณะเดียวกันในช่วงปี 2553 ยังมีมวลชนของคนเสื้อแดงที่พัฒนาการเป็นมวลชน นปช.ร่วมกันขับไล่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีจนเกิดการนองเลือด ทำให้มีผู้เสียชีวิตบาดเจ็บล่มตายเป็นจำนวนมาก บ้านเมือง สถานที่ราชการถูกเผาวอดวาย และในปี 2563 ต่อเนื่องปี 2566 พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นต้องเผชิญกับม็อบมวลชนสาวนิ้วที่รวมตัวขับไล่ออกจากตำแหน่งอย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายการเคลื่อนม็อบทั้ง 2 เหตุการณ์ยังไม่สามารถล้มรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ และพล.อ.ประยุทธได้

ดังนั้นจากนี้ไปต้องจับตาไปที่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตรว่าจะมาถึงจุดดับด้วยกระบวนการทางกฎหมายที่เรียกว่า “นิติสงคราม” ที่ตอนนี้กำลังเริ่มเข้าสู่กระบวนการพิจารณาขององค์กรอิสระ เพื่อเอาผิดกรณีคลิปเสียงฉาว ซึ่งถือเป็นการรับศึก 2 ทางไปพร้อมการเผชิญหน้ากับม็อบ “กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ที่ประกาศเจตนารมย์ขับไล่นายกฯอย่างชัดเจน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หน่วย ฉก.นาวิกโยธิน สั่งปิดด่านชายแดน "จันทบุรี-ตราด" ป้องปราบค้ามนุษย์ คอลเซ็นเตอร์ มีผลทันที
เกษตรกรเลี้ยงกุ้ง จ.จันทบุรี ปรับตัวสู้ปัญหา "ปลาหมอคางดำ"
ด่วน! "แม่ทัพภาคที่ 1-2" สั่งเข้ม ปิดด่านชายแดนสระแก้ว-สุรินทร์-ศรีสะเกษ-บุรีรัมย์ ห้ามเข้าออก เว้นผู้ป่วย นักเรียน ตามหลักมนุษยธรรม
"เนเน่ รัดเกล้า" โบกมือลา "รทสช." แล้ว ขอก้าวมามองการเมืองจากข้างนอก
"อดีตสว.สมชาย" ลุ้น 1 ก.ค. ศาลรธน.รับคำร้อง "นายกฯอิ๊งค์" ผิดจริยธรม เผย มติ ป.ป.ช.เดินหน้าสอบด่วน ภายใน 10 วัน ปมคลิปเสียงคุย "ฮุน เซน"
อิสราเอลเปิดเที่ยวบินขาออกมากรุงเทพวันแรก
เมืองสัตหีบ ปิดฉาก ศึกเจ็ตสกีชิงแชมป์ประเทศไทย สนามที่ 2
"มหาดไทย-โยธาฯ" จัดรูปที่ดินนครสวรรค์ พลิกโฉมเมือง สร้างโครงสร้างพื้นฐาน-สวนสาธารณะ มุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน
รวบ! หนุ่มเขมรลักลอบทิ้งน้ำเสียลงคลอง ชาวบ้าน สุดทน จับมือ ตร.-อบต. ล้อมจับคารถบรรทุก
ป.ป.ช.เดินหน้า คดี "พีระพันธุ์" แจกถุงยังชีพ ตั้งคกก.ทำงานคู่ลุยไต่สวน พร้อมออกหมายเรียกรอบใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น